ชัวร์ก่อนแชร์: รู้ทันปรากฏการณ์ Filter bubble ที่ทำให้โลกของเราแคบขึ้น

เคยไหม ? พิมพ์คำถามเกี่ยวกับอะไรบางอย่างใน google เพียงแค่ครั้งเดียว โฆษณาและเนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งนั้น ๆ ก็โผล่ขึ้นมาบนหน้าฟีดของโซเชียลมีเดียเราเต็มไปหมด ราวกับอ่านใจเราออกว่ากำลังต้องการอะไร ซึ่งการที่มันรู้ใจเราขนาดนี้นั้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันเกิดจากระบบ “อัลกอลิทึ่ม” ที่แพลตฟอร์มต่าง ๆ สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเรานั่นเอง


ระบบอัลกอลิทึ่มของ Social Media

ระบบ “อัลกอลิทึ่ม” คือระบบที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ สร้างขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ให้มีความสะดวกสบายในการค้นหาข้อมูลยิ่งขึ้น ระบบอัลกอลิทึ่มจะสังเกตพฤติกรรมการเล่นโซเชียลมีเดียของผู้ใช้ ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร หรืออยากรู้เรื่องอะไร ณ เวลานั้น ๆ เพื่อที่จะคัดกรอง โชว์เฉพาะข้อมูลที่ผู้ใช้อยากเห็น และสนใจ ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้อยากจะไปเที่ยวทะเลที่ภูเก็ต แล้วไปค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ google ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเว็บเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน ดูระยะทาง อ่านรีวิวต่าง ๆ ระบบอัลกอลิทึ่มตัวนี้ก็จะวิเคราะห์เนื้อหา และเข้าใจว่าผู้ใช้รายนี้ต้องการจะไปภูเก็ต มันจึงเน้นกรองเนื้อหาที่เกี่ยวกับที่พัก การท่องเที่ยว มาให้โดยเฉพาะ และในทางกลับกัน ระบบก็จะคัดข้อมูลที่คิดว่าไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อน ทำให้หน้าฟีดของผู้ใช้มีแต่เพจท่องเที่ยว ทริปทัวร์เต็มไปหมด และอาจจะคงอยู่แบบนี้ไปอีกหลายวัน จนกว่าผู้ใช้จะไปค้นหาข้อมูลเรื่องใหม่ ๆ

ระบบอัลกอลิทึ่มจะสังเกตพฤติกรรมการเล่นโซเชียลมีเดียของเรา ว่าเราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร หรืออยากรู้เรื่องอะไร ณ เวลานั้น ๆ เพื่อที่จะคัดกรอง โชว์เฉพาะข้อมูลที่เราอยากเห็น และสนใจ ยกตัวอย่างเช่น หากเราอยากจะไปเที่ยวทะเลที่ภูเก็ต แล้วเราไปค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ google ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเว็บเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน ดูระยะทาง อ่านรีวิวต่าง ๆ ระบบอัลกอลิทึ่มตัวนี้ก็จะวิเคราะห์เนื้อหา และเข้าใจว่ายูเซอร์นี้ต้องการจะไปภูเก็ต มันจึงเน้นกรองเนื้อหาที่เกี่ยวกับที่พัก การท่องเที่ยว มาให้โดยเฉพาะ และในทางกลับกัน ระบบก็จะคัดข้อมูลที่คิดว่าไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อน ทำให้หน้าฟีดของเรามีแต่เพจท่องเที่ยว ทริปทัวร์เต็มไปหมด และอาจจะคงอยู่แบบนี้ไปอีกหลายวัน จนกว่าเราจะไปค้นหาข้อมูลเรื่องใหม่ ๆ

สรุปคือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเห็นบนหน้าฟีด ได้ถูกวางระบบมาไว้อย่างดีเพื่อให้ตรงกับไลฟสไตล์ของเราที่สุด โดยหลักแล้ว มันควรจะเป็นระบบที่ก่อประโยชน์และสร้างความสะดวกสบายให้กับเรา แต่ในอีกด้านหนึ่ง มันยังมีผลกระทบที่แฝงมากับเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ด้วย ซึ่งเราเรียกหนึ่งในผลกระทบนี้ว่า “ปรากฏการณ์ Filter Bubble”


ปรากฏการณ์ Filter Bubble ส่งผลอย่างไร ?

Filter bubble เรียกเป็นภาษาไทยได้ว่า “ฟองสบู่ตัวกรอง” คือการที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียติดอยู่แต่ในโลกของตัวเอง ติดอยู่ในฟองสบู่ที่มีแต่เรื่องที่เราสนใจและเห็นดีเห็นงามด้วย จนมองข้ามไปว่ายังมีเรื่องราวอีกหลายมุมมองที่ช่วยเปิดโลกทัศน์ให้กับเราได้เหมือนกัน ซึ่งการที่โซเชียลมีเดียโชว์แต่เนื้อหาที่ถูกจริตผู้ใช้อย่างเดียวนั้น มันจึงถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคนบางกลุ่มว่า เป็นระบบที่ไม่มีความเป็นกลาง และสนับสนุนให้เรามีพฤติกรรมเสพสื่อแค่ด้านเดียวจนเคยชิน

เปรียบเทียบดั่งคนที่ชอบฟังเพลง kpop เขาก็จะเห็นแต่คนที่เป็นแฟนเพลง kpop เต็มหน้าฟีดไปหมด เจอแต่พวกเดียวกัน จนบางทีก็อาจลืมไปว่าข้างนอกนี้ ก็ยังมีคนที่ชอบฟังเพลงไทย เพลงสากล หรือเพลงลูกทุ่งมากเหมือนกัน เพียงแต่ว่าหน้าฟีดของเขาไม่ยอมแสดงให้เห็นนั่นเอง

นอกจากนี้ พฤติกรรมของตัวผู้ใช้เองก็ยังมีส่วนอีกด้วย โดยการจงใจปิดกั้นเนื้อหาที่ไม่อยากเห็น กดบล็อก หรือกด Unfriend คนที่เราไม่ชอบ หรือคนที่มีความคิดเห็นที่ไม่ถูกจริตกับเรา เป็นผลให้พื้นที่โซเชียลมีเดียของเราเหลือแต่คนที่มีแนวคิดเดียวกับเรา และเห็นชอบกับเราเต็มไปหมด


ลักษณะแบบนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็น Echo Chamber หรือ ห้องเสียงสะท้อน เปรียบได้กับการอยู่ในห้องปิด เช่นห้องคาราโอเกะ ที่เวลาเราพูดหรือร้องอะไรไป มันก็สะท้อนกลับมาแบบเดียวกัน เพราะว่ามันมีแต่เสียงของเราที่สะท้อนไปมา เปรียบได้กับความเห็นข้างเดียวที่มีแต่คนคิดแบบเดียวกัน สนับสนุนกันเอง และพอมาอยุ่รวมกัน ไม่มีการแลกเปลี่ยนถกเถียงอะไรเลย ก็ทำให้เราเผลอเชื่อไปว่า คนส่วนใหญ่ในสังคมน่าจะคิดเหมือนเรา ทั้งที่จริง ๆ แล้ว สิ่งที่เราเห็นอาจจะเป็นแค่โลกใบเล็ก ๆ ที่ถูกขังอยู่ในฟองสบู่ โดยมีกำแพงเป็นระบบอัลกอริทึ่มที่โซเซี่ยลมีเดียสร้างขึ้นมาก็ได้

และเพราะเหตุนี้เอง แพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดียทั้งหลายที่ใช้ระบบอัลกอริทึ่มแบบนี้จึงโดนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก ว่าเป็นเหตุไปทำให้ผู้ใช้มีโลกที่แคบขึ้น แทนที่จะเป็นการเปิดโลกกว้างอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิดกัน

เราจะออกจากสภาวะ Filter Bubble ได้อย่างไร ?

  1. ตรวจสอบเนื้อหาและข้อมูลที่ได้รับมากับหลาย ๆ แหล่งอ้างอิง เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลมันถูกต้อง ไม่ถูกบิดเบือน หรือเป็นข้อมูลแค่ด้านเดียว
  2. ลองพูดคุยกับคนที่มีความเห็นต่างบ้าง เพื่อที่จะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ และข้อเท็จจริงบางอย่างที่เราอาจจะมองข้ามไป เช่น การไปกดไลคเพจที่มีความเห็นทางการเมืองต่างจากเรา เผื่อว่าจะได้เห็นความจริงอีกด้านที่ไม่เคยรู้มาก่อนจากในสังคมของเรา
  3. รู้เท่าทันสื่ออยู่เสมอ อย่าไหลไปกับสิ่งที่สื่อนำเสนอไปเสียทุกอย่าง เพราะบางทีสื่อก็ไม่ได้มีความเป็นกลางเสมอไป มันเป็นเรื่องยากที่สื่อจะสามารถนำเสนอในได้ทุกแง่มุมของเรื่องใดเรื่องนึง เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราทำได้ คือการมองหาข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่ง ให้รอบด้าน และอย่ายึดติดกับแหล่งข่าวเดิม ๆ

ที่มา: “ปรากฏการณ์ Echo Chamber บนโลกออนไลน์” โดย อัลเบอท ปอทเจส

เรียบเรียงโดย: ชณิดา ภิรมณ์ยินดี

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

คุมฝากขัง “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ค้านประกัน

27 ส.ค. – ตร.คุมตัว “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ส่งฝากขังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ออกจากห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เจ้าหน้าที่ได้แยกควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ สวมเสื้อยืดสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนนำผ้าเช็ดตัวสีส้มมาห่มคลุมร่างกาย ขึ้นรถยนต์ตำรวจ ทันทีที่ออกมาทางอดีตพระอลงกตได้ยกมือซ้ายขึ้นมา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนขึ้นนั่งบนรถ โดยมีศิษยานุศิษย์ประคองด้านข้าง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกกังวลใจหรือมีอะไรอยากจะชี้แจงหรือไม่ พร้อมกับถามถึงความรู้สึกหลังจากที่ลาสิกขาแล้ว แต่อดีตพระอลงกต ได้แต่ยิ้มแย้มและยกมือปฏิเสธ ไม่ตอบคำถามใดๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “ไปศาลใช่หรือไม่” อดีตพระอลงกต ตอบสั้นๆ ว่า “ไปศาล” ส่วนนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้แยกควบคุมตัวขึ้นรถกระบะของกองบังคับการปราบปราม โดยหมอบี ยังสวมใส่ชุดเดิม คือเสื้อแขนสั้นสีครีม และกางเกงขายาวสีน้ำตาล เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น.-419-สำนักข่าวไทย

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]