ชัวร์ก่อนแชร์: รู้ทันกับดักความลำเอียงของสื่อ (Media Bias)

ขึ้นชื่อว่าสื่อ เราอาจจะคิดว่าต้องเป็นกลาง และรายงานแต่ข้อเท็จจริงโดยไม่มีการตัดสินเลือกข้างใด ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัตินั้น ทำได้ยาก เนื่องจากข้อจำกัดหลายอย่างที่ทำให้สื่อไม่อาจนำเสนอข่าวรอบด้านได้ บทความต่อไปนี้จึงอธิบายให้เห็นโดยสังเขปว่า สื่อไม่มีความเป็นกลางอย่างไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังโดนชักนำอยู่


Media Bias คืออะไร ?

ไบแอส คือ อคติ หรือความลำเอียง ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถมีกันได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นกับคนที่เรารักเราชอบ พรรคพวกเราเอง เวลาจะตัดสินความชอบธรรมอะไร เราอาจจะมีไบแอสแฝงอยู่บ้าง เช่นวลีชื่อดังที่เราได้ยินตามข่าวบ่อย ๆ ว่า “ลูกชั้นเป็นคนดี” ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อพิจารณาถึงธรรมชาติของมนุษย์ เราจึงต้องมีคนกลางคอยตัดสินอยู่เสมอ คือพวกที่ไม่ฝักฝ่ายใด หรือศาลนั่นเอง


ซึ่งพอคำนี้มารวมอยู่กับสื่อ มันก็จะหมายถึง อคติของสื่อ คือการที่สื่อรายงานข้อมูลแบบไม่เป็นกลาง จนไม่เป็นไปตามมาตรฐานและจริยธรรมของการสื่อข่าว เราจะเห็นได้ชัดกับเรื่องเกี่ยวกับการเมือง และบางสื่ออาจจะแสดงออกให้เห็นชัดเจนเลยว่าตนฝักใฝ่ฝ่ายไหน ซ้ายหรือขวา เขาก็จะเล่าข่าวเอนเอียงไปทางนั้น
ทั้งนี้ สื่อประเภทนี้มักไม่น่ากลัวเท่าประเภทที่ทำทีว่าจะนำเสนอว่าเป็นกลาง แต่ไม่เป็นกลาง ก็คือประเภทที่แอบใส่ความลำเอียงลงไปนั่นเอง จนบางทีผู้เสพสื่อทั้งหลายก็อาจจะคิดไม่ถึง และโดนชักจูงไปโดยไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน


เพราะฉะนั้นบทความต่อไปนี้จะเป็นการบอกกล่าว ว่าวิธีที่สื่อใช้ในการนำเสนอข่าวแบบใส่อติลงไปด้วย เป็นอย่างไร เพื่อที่ผู้อ่านจะได้ใช้วิจารณญานในการรับฟังอย่างทันท่วงที โดยไม่ไหลไปกับเจตนาของสื่อ

การลำเอียงโดยการละเว้น

คือการที่สื่อนำเสนอข้อเท็จจริงไม่รอบด้าน นำเสนอเพียงแค่ฝั่งเดียว จนส่งผลกระทบต่อมุมมองของผู้เสพข่าวในการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น การที่สื่อนำเสนอเรื่อง ผลกระทบของการเล่นวิดีโอเกมในเด็กวัยรุ่น
สื่ออาจจะนำเสนอแต่ข้อเสีย ด้านแย่ ๆ ของวิดีโอเกม จนมันตกเป็นจำเลยของสังคมเวลาเด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือมีกระทำความรุนแรงได้ ทั้งที่จริงแล้ว ข้อดีมันก็มีอยู่บ้าง เช่นการสนับสนุน E-sport หรือการช่วยฝึกสมองเป็นต้น เพียงแต่ข้อเท็จจริงเหล่านี้ ผู้ปกครองอาจจะเข้าไม่ถึง เนื่องจากสื่อละเว้นในการนำเสนอนั่นเอง


การลำเอียงโดยการเลือกอ้างอิง

การที่สื่อจะนำเสนอข้อเท็จจริงต่าง ๆ สื่อก็ต้องมีแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ว่าข้อมูลนั้นน่าเชื่อถือ เช่น มีการยกคำของผู้เชี่ยวชาญมาพูด อาจจะใช้ชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงมาเป็นอ้างอิง หรือสัมภาษณ์คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่าง ๆ แต่บางครั้ง เราอาจต้องลองสังเกตดูว่า สื่อจงใจเลือกแต่แหล่งอ้างอิงที่สนับสนุนแต่ฝ่ายของตนเองหรือไม่

เวลาที่สื่อใช้คำว่า “ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า” “ผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งว่า” หรือ “คนส่วนใหญ่เชื่อกันว่า”
อาจเป็นเพียงสิ่งที่สื่อคัดมาให้สอดคล้องกับฝั่งของตนเอง เช่น ถ้าสื่อจะนำเสนอเรื่อง “ผลกระทบของวิดีโอเกม” แล้วสื่อมีไบแอสในด้านแย่ ๆ ของเกมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สื่ออาจจะไปเล็งสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมความรุนแรงในเด็กเท่านั้น เพื่อมาสนับสนุนประเด็นของตนเอง หรือ สื่ออาจใช้วิธีคัดเฉพาะ quote หรือคำพูดที่ไปในทิศทางเดียวกับข้อเท็จจริงที่จะนำเสนอเท่านั้น

การที่จะแยกความลำเอียงตรงนี้ สามารถทำได้โดยการสังเกตว่า อ้างอิงที่สื่อยกมา โดยพื้นเพแล้วเป็นพวกไหน ฝ่ายไหน หรือมีความเกี่ยวข้องกับองค์กรใดองค์กรหนึ่งอย่างไร แล้วผู้อ่านก็จะเริ่มข้าใจได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ยกมามีแนวโน้มที่จะเอนเอียงไปทางฝ่ายของเขาอยู่หรือเปล่า

การลำเอียงโดยการจัดตำแหน่ง วางลำดับความสำคัญ

บางครั้งสื่อก็นำเสนอข้อมูลด้านหนึ่งที่เด่นกว่าอีกด้านหนึ่ง ถึงแม้จะเล่าข่าวทั้งสองด้านก็ตาม ด้านหนึ่งอาจจะเล่าสั้น ๆ ข้อมูลคลุมเครือ ในขณะที่อีกด้าน สื่อนำเสนอได้อย่างละเอียดและเห็นภาพ

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน ก็คือ พาดหัวข่าวที่เน้นเรียกผู้อ่านให้เข้ามาดูจำนวนมาก หากสังเกตดี ๆ ผู้อ่านจะเห็นว่าบางข่าวจะมีตัวหนังสือเล็ก ๆ ต่อท้ายเพื่อขยายความ ซึ่งอาจจะเป็นคนละประเด็นกับพาดหัว ซึ่งสำหรับผู้อ่านบางท่านอาจจะเข้าใจผิดไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากไม่ได้อ่านเนื้อหาข้างในให้ละเอียดถี่ถ้วน

การลำเอียงโดยเทคนิคการใช้คำพูดที่สื่อถึงอารมณ์

การใช้ภาษาในการบรรยายข่าวที่กระตุ้นอารมณ์ผู้อ่านมากเกินไป อาจจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิด หรือมีความรู้สึกต่อข่าวนั้น ๆ ตามที่สื่อชักนำได้ ยกตัวอย่างเช่น คำว่า ช็อก ตะลึง เศร้า ที่เกริ่นนำมาก่อนเนื้อข่าว คำเหล่านี้ สื่อต้องการให้ผู้อ่าน อ่านแล้วเกิดอารมณ์ความรู้สึกอย่างที่สื่อต้องการให้เราเป็น และส่งผลต่อมุมมองในแง่บวกและแง่ลบของผู้ชมได้
ลองสังเกตว่า สื่อไหนที่ใช้คำที่มันเกินจริง แสดงว่าสื่อนั้นอาจจะต้องการเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกผู้เสพข่าว เช่น สื่ออาจจะชักนำให้เราเห็นใจบุคคลในข่าว หรือในทางกลับกัน ก็อาจจะปลุกปั่นให้เราเกลียดคนในข่าวได้เหมือนกัน ถึงแม้เนื้อหาข่าวที่เล่าจะเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมดก็ตาม

การลำเอียงโดยการเสนอความคิดเห็นเป็นข้อเท็จจริง

ถึงแม้ว่าจะมีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง Opinion กับ Facts แต่บางครั้งผู้อ่านก็สับสน เนื่องจากสื่ออาจจะใช้วิธีแอบใส่ความเห็นส่วนตัวลงไปในข้อเท็จจริงให้ปนกัน ทำให้ผู้อ่านหลงคิดไปว่า ที่นำเสนอมาเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด ทั้งที่จริง ๆ แล้ว มันอาจจะเป็นแค่การคาดคะเน หรือการตีความของผู้สื่อข่าวเองก็ได้

วิธีสังเกตก็คือ ผู้อ่านอาจจะมองหาคีย์เวิร์ดต่าง ๆ ที่สื่อเสริมขึ้นมาเองโดยไม่มีเหตุจำเป็น เช่น คำที่ตัดสินได้จากอารมณ์ความรู้สึก การบรรยายบางสิ่งบางอย่าง ว่า ดี ดีมาก/ ชื่อดัง/ อันดับ1 /ที่สุด หรือว่า แย่ /เลวร้าย/หนักหนาสาหัส ซึ่งคำพวกนี้มักจะแทรกได้ง่ายและไม่ชัดเจนจนเกินไป แต่ก็มีผลกระทบกับการตัดสินของผู้เสพข่าวได้เช่นกัน

ที่มา: Allsides / “How to Spot 12 Types of Media Bias”

เรียบเรียงโดย: ชณิดา ภิรมณ์ยินดี


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]

นักท่องเที่ยวคึกคัก “ตาเมือนธม” ปรับลดกำลังฝั่งละ 3 นาย

สุรินทร์ 16 ก.ค. – แม้เพิ่งผ่านเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จนนักท่องเที่ยวต้องวิ่งหลบเข้าบังเกอร์เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ แต่วันนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชายังคงเข้าไปเที่ยวคึกคัก ล่าสุดมีการปรับลดกำลังบนตัวปราสาทฝั่งละ 3 นาย ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ คึกคัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากมาให้กำลังใจทหารที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติอย่างแข็งขัน หลังวานนี้ (15 ก.ค.) เกิดเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม ล่าสุดมีการปรับลดกำลังของแต่ละฝ่ายบนตัวปราสาท ฝั่งละ 3 นาย บรรยากาศปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นักท่องเที่ยวทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่เช้าก่อนเวลาเปิด ทั้งรถส่วนตัว รถทัวร์ รถตู้โดยสาร โดยรถทัวร์ 2 คัน ผู้โดยสาร 150 คน มาจากเทศบาลตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นำสิ่งของมาบริจาคบำรุงขวัญทหาร ตำรวจแนวหน้า ขณะที่กลุ่มคนสวมเสื้อสกรีนข้อความ “รักเธอประเทศไทย” เป็นกลุ่มคุณเจน ญาณปรีดส์ ราว 40 คน เดินทางด้วยรถตู้ 4 คัน มาจากกรุงเทพฯ นอกจากมอบสิ่งของบริจาคเพื่อทหารทุกนายแล้ว ยังมอบเงินพิเศษให้ทหาร 2 […]

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]