fbpx

ชัวร์ก่อนแชร์: รู้ทันกับดักความลำเอียงของสื่อ (Media Bias)

ขึ้นชื่อว่าสื่อ เราอาจจะคิดว่าต้องเป็นกลาง และรายงานแต่ข้อเท็จจริงโดยไม่มีการตัดสินเลือกข้างใด ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัตินั้น ทำได้ยาก เนื่องจากข้อจำกัดหลายอย่างที่ทำให้สื่อไม่อาจนำเสนอข่าวรอบด้านได้ บทความต่อไปนี้จึงอธิบายให้เห็นโดยสังเขปว่า สื่อไม่มีความเป็นกลางอย่างไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังโดนชักนำอยู่


Media Bias คืออะไร ?

ไบแอส คือ อคติ หรือความลำเอียง ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถมีกันได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นกับคนที่เรารักเราชอบ พรรคพวกเราเอง เวลาจะตัดสินความชอบธรรมอะไร เราอาจจะมีไบแอสแฝงอยู่บ้าง เช่นวลีชื่อดังที่เราได้ยินตามข่าวบ่อย ๆ ว่า “ลูกชั้นเป็นคนดี” ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อพิจารณาถึงธรรมชาติของมนุษย์ เราจึงต้องมีคนกลางคอยตัดสินอยู่เสมอ คือพวกที่ไม่ฝักฝ่ายใด หรือศาลนั่นเอง


ซึ่งพอคำนี้มารวมอยู่กับสื่อ มันก็จะหมายถึง อคติของสื่อ คือการที่สื่อรายงานข้อมูลแบบไม่เป็นกลาง จนไม่เป็นไปตามมาตรฐานและจริยธรรมของการสื่อข่าว เราจะเห็นได้ชัดกับเรื่องเกี่ยวกับการเมือง และบางสื่ออาจจะแสดงออกให้เห็นชัดเจนเลยว่าตนฝักใฝ่ฝ่ายไหน ซ้ายหรือขวา เขาก็จะเล่าข่าวเอนเอียงไปทางนั้น
ทั้งนี้ สื่อประเภทนี้มักไม่น่ากลัวเท่าประเภทที่ทำทีว่าจะนำเสนอว่าเป็นกลาง แต่ไม่เป็นกลาง ก็คือประเภทที่แอบใส่ความลำเอียงลงไปนั่นเอง จนบางทีผู้เสพสื่อทั้งหลายก็อาจจะคิดไม่ถึง และโดนชักจูงไปโดยไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน


เพราะฉะนั้นบทความต่อไปนี้จะเป็นการบอกกล่าว ว่าวิธีที่สื่อใช้ในการนำเสนอข่าวแบบใส่อติลงไปด้วย เป็นอย่างไร เพื่อที่ผู้อ่านจะได้ใช้วิจารณญานในการรับฟังอย่างทันท่วงที โดยไม่ไหลไปกับเจตนาของสื่อ

การลำเอียงโดยการละเว้น

คือการที่สื่อนำเสนอข้อเท็จจริงไม่รอบด้าน นำเสนอเพียงแค่ฝั่งเดียว จนส่งผลกระทบต่อมุมมองของผู้เสพข่าวในการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น การที่สื่อนำเสนอเรื่อง ผลกระทบของการเล่นวิดีโอเกมในเด็กวัยรุ่น
สื่ออาจจะนำเสนอแต่ข้อเสีย ด้านแย่ ๆ ของวิดีโอเกม จนมันตกเป็นจำเลยของสังคมเวลาเด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือมีกระทำความรุนแรงได้ ทั้งที่จริงแล้ว ข้อดีมันก็มีอยู่บ้าง เช่นการสนับสนุน E-sport หรือการช่วยฝึกสมองเป็นต้น เพียงแต่ข้อเท็จจริงเหล่านี้ ผู้ปกครองอาจจะเข้าไม่ถึง เนื่องจากสื่อละเว้นในการนำเสนอนั่นเอง


การลำเอียงโดยการเลือกอ้างอิง

การที่สื่อจะนำเสนอข้อเท็จจริงต่าง ๆ สื่อก็ต้องมีแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ว่าข้อมูลนั้นน่าเชื่อถือ เช่น มีการยกคำของผู้เชี่ยวชาญมาพูด อาจจะใช้ชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงมาเป็นอ้างอิง หรือสัมภาษณ์คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่าง ๆ แต่บางครั้ง เราอาจต้องลองสังเกตดูว่า สื่อจงใจเลือกแต่แหล่งอ้างอิงที่สนับสนุนแต่ฝ่ายของตนเองหรือไม่

เวลาที่สื่อใช้คำว่า “ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า” “ผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งว่า” หรือ “คนส่วนใหญ่เชื่อกันว่า”
อาจเป็นเพียงสิ่งที่สื่อคัดมาให้สอดคล้องกับฝั่งของตนเอง เช่น ถ้าสื่อจะนำเสนอเรื่อง “ผลกระทบของวิดีโอเกม” แล้วสื่อมีไบแอสในด้านแย่ ๆ ของเกมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สื่ออาจจะไปเล็งสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมความรุนแรงในเด็กเท่านั้น เพื่อมาสนับสนุนประเด็นของตนเอง หรือ สื่ออาจใช้วิธีคัดเฉพาะ quote หรือคำพูดที่ไปในทิศทางเดียวกับข้อเท็จจริงที่จะนำเสนอเท่านั้น

การที่จะแยกความลำเอียงตรงนี้ สามารถทำได้โดยการสังเกตว่า อ้างอิงที่สื่อยกมา โดยพื้นเพแล้วเป็นพวกไหน ฝ่ายไหน หรือมีความเกี่ยวข้องกับองค์กรใดองค์กรหนึ่งอย่างไร แล้วผู้อ่านก็จะเริ่มข้าใจได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ยกมามีแนวโน้มที่จะเอนเอียงไปทางฝ่ายของเขาอยู่หรือเปล่า

การลำเอียงโดยการจัดตำแหน่ง วางลำดับความสำคัญ

บางครั้งสื่อก็นำเสนอข้อมูลด้านหนึ่งที่เด่นกว่าอีกด้านหนึ่ง ถึงแม้จะเล่าข่าวทั้งสองด้านก็ตาม ด้านหนึ่งอาจจะเล่าสั้น ๆ ข้อมูลคลุมเครือ ในขณะที่อีกด้าน สื่อนำเสนอได้อย่างละเอียดและเห็นภาพ

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน ก็คือ พาดหัวข่าวที่เน้นเรียกผู้อ่านให้เข้ามาดูจำนวนมาก หากสังเกตดี ๆ ผู้อ่านจะเห็นว่าบางข่าวจะมีตัวหนังสือเล็ก ๆ ต่อท้ายเพื่อขยายความ ซึ่งอาจจะเป็นคนละประเด็นกับพาดหัว ซึ่งสำหรับผู้อ่านบางท่านอาจจะเข้าใจผิดไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากไม่ได้อ่านเนื้อหาข้างในให้ละเอียดถี่ถ้วน

การลำเอียงโดยเทคนิคการใช้คำพูดที่สื่อถึงอารมณ์

การใช้ภาษาในการบรรยายข่าวที่กระตุ้นอารมณ์ผู้อ่านมากเกินไป อาจจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิด หรือมีความรู้สึกต่อข่าวนั้น ๆ ตามที่สื่อชักนำได้ ยกตัวอย่างเช่น คำว่า ช็อก ตะลึง เศร้า ที่เกริ่นนำมาก่อนเนื้อข่าว คำเหล่านี้ สื่อต้องการให้ผู้อ่าน อ่านแล้วเกิดอารมณ์ความรู้สึกอย่างที่สื่อต้องการให้เราเป็น และส่งผลต่อมุมมองในแง่บวกและแง่ลบของผู้ชมได้
ลองสังเกตว่า สื่อไหนที่ใช้คำที่มันเกินจริง แสดงว่าสื่อนั้นอาจจะต้องการเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกผู้เสพข่าว เช่น สื่ออาจจะชักนำให้เราเห็นใจบุคคลในข่าว หรือในทางกลับกัน ก็อาจจะปลุกปั่นให้เราเกลียดคนในข่าวได้เหมือนกัน ถึงแม้เนื้อหาข่าวที่เล่าจะเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมดก็ตาม

การลำเอียงโดยการเสนอความคิดเห็นเป็นข้อเท็จจริง

ถึงแม้ว่าจะมีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง Opinion กับ Facts แต่บางครั้งผู้อ่านก็สับสน เนื่องจากสื่ออาจจะใช้วิธีแอบใส่ความเห็นส่วนตัวลงไปในข้อเท็จจริงให้ปนกัน ทำให้ผู้อ่านหลงคิดไปว่า ที่นำเสนอมาเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด ทั้งที่จริง ๆ แล้ว มันอาจจะเป็นแค่การคาดคะเน หรือการตีความของผู้สื่อข่าวเองก็ได้

วิธีสังเกตก็คือ ผู้อ่านอาจจะมองหาคีย์เวิร์ดต่าง ๆ ที่สื่อเสริมขึ้นมาเองโดยไม่มีเหตุจำเป็น เช่น คำที่ตัดสินได้จากอารมณ์ความรู้สึก การบรรยายบางสิ่งบางอย่าง ว่า ดี ดีมาก/ ชื่อดัง/ อันดับ1 /ที่สุด หรือว่า แย่ /เลวร้าย/หนักหนาสาหัส ซึ่งคำพวกนี้มักจะแทรกได้ง่ายและไม่ชัดเจนจนเกินไป แต่ก็มีผลกระทบกับการตัดสินของผู้เสพข่าวได้เช่นกัน

ที่มา: Allsides / “How to Spot 12 Types of Media Bias”

เรียบเรียงโดย: ชณิดา ภิรมณ์ยินดี


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น