ชัวร์ก่อนแชร์: ฉีดวัคซีนซ้ำๆ จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนล้า จริงหรือ?

5 เมษายน 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Factcheck.org (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ

บทสรุป:


  1. ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนล้า จะเกิดขึ้นเมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์หยุดการทำงานหลังถูกกระตุ้นด้วยแอนติเจนของเชื้อโรคอย่างต่อเนื่อง
  2. แต่การฉีดวัคซีนตามช่วงเวลาที่กำหนดไม่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนล้าแต่อย่างใด

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลเท็จที่อ้างว่าการฉัดวัคซีนซ้ำๆ จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนล้าเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา โดย บิล มาร์ ดาวตลกและพิธีกรชาวอเมริกัน ให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ Deadline ว่าการฉีดวัคซีนซ้ำๆ จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนล้า โดยอ้างงานวิจัยจากประเทศอิสราเอลที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ New York Times จนสื่อที่เผยแพร่แนวติดต่อต้านวัคซีนนำข้อความไปแชร์ต่อในวงกว้าง ส่วนเว็บไซต์ Children’s Health Defense ของ โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ นักเคลื่อนไหวต่อต้านวัคซีน ก็อ้างว่าองค์การยาของสหภาพยุโรป (EMA) ยอมรับในแถลงการณ์ว่า การฉีดวัคซีนซ้ำๆ จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนล้าเช่นเดียวกัน

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


บทความจากหนังสือพิมพ์ New York Times เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมปี 2021 มีรายงานเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันอ่อนล้าจากการฉีดวัคซีนซ้ำๆ ซึ่งประเด็นเริ่มมาจากการตั้งข้อสงสัยโดยสมาชิกบางรายในคณะที่ปรึกษาด้านวัคซีนของรัฐบาลอิสราเอล ระหว่างการหารือเรื่องความเหมาะสมในการออกนโยบายฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มที่ 4 ให้กับประชาชน

อย่างไรก็ดี ดร.ทาล บรอช นิสสิมอฟ สมาชิกคณะที่ปรึกษาด้านวัคซีนของอิสราเอลชี้แจงว่า ผู้เชี่ยวชาญที่ตั้งข้อสงสัยดังกล่าวไม่ใช่สมาชิกที่ร่วมกำหนดนโยบายของคณะที่ปรึกษา พวกเขานำเรื่องดังกล่าวไปพูดกับสื่อ แล้วจึงมาหารือกับคณะที่ปรึกษาในภายหลัง ซึ่งดร.ทาล บรอช นิสสิมอฟ มองว่า ปัจจุบันยังไม่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันได้ว่าการฉีดวัคซีนซ้ำๆ จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนล้า

ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนล้า (immune system fatigue) ยังมีความหมายที่คลุมเครือ เนื่องจากไม่ใช่ศัพท์เทคนิกทางการแพทย์ ความหมายที่ใกล้เคียงคือความอ่อนล้าของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ (T cell exhaustion) ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทีเซลล์ซึ่งทำหน้าที่ตรวจหาและกำจัดแอนติเจนของเชื้อโรค ความอ่อนล้าของทีเซลล์จะทำให้ทีเซลล์หยุดการทำงานหรือทำงานผิดปกติ หลังจากถูกกระตุ้นด้วยแอนติเจนอย่างต่อเนื่อง ทั้งแอนติเจนจากไวรัสหรือเนื้องอก

เอ็ดเวิร์ด จอห์น แวร์รี ที่ 3 นักภูมิคุ้มกันวิทยาจากมหาวิทยาลัย University of Pennsylvania ผู้ศึกษาปรากฏการณ์ความอ่อนล้าของทีเซลล์อธิบายว่า T cell exhaustion จะเกิดขึ้นเมื่อการกระตุ้นจากแอนติเจนเป็นไปอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดพัก เช่นที่เกิดกับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่นไวรัสตับอักเสบซีหรือไวรัส HIV หรือในกรณีของผู้ป่วยมะเร็งที่ระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถควบคุมหรือกำจัดแอนติเจนจากเนื้อร้ายได้

แต่จอห์น แวร์รี ยืนยันว่าการฉีดวัคซีนซ้ำๆ ตามช่วงเวลาที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นการฉีดวัคซีนประจำปี หรือแม้แต่ฉีดวัคซีนทุก 4 เดือน จะไม่ก่อให้เกิดความอ่อนล้าในระบบภูมิคุ้มกัน และไม่มีหลักฐานว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นมีส่วนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเกิดความอ่อนล้า เหมือนที่หนังสือพิมพ์ New York Times รายงาน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานพบว่า ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันอ่อนแอที่ติดเชื้อโควิด 19 จนป่วยโควิดเรื้อรังเป็นเวลาหลายสัปดาห์จนถึงหลายเดือน อาจทำให้ภูมิคุ้มกันเกิดการอ่อนล้าได้ ดังนั้นการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นน่าจะเป็นการป้องกันการอ่อนล้าของระบบภูมิคุ้มกันได้อีกทางหนึ่ง

สิ่งที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนถี่เกินไป คือการได้รับประสิทธิผลจากวัคซีนลดลง

ฟรานเซส อี. ลุนด์ ผู้อำนวยการสถาบันภูมิคุ้มกันวิทยา มหาวิทยาลัย University of Alabama ชี้แจงว่า หากฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นถี่เกินไป เช่นฉีดทุกหนึ่งเดือน จะไม่ก่อให้เกิดการอ่อนล้าของระบบภูมิคุ้มกัน แต่จะทำให้การฉีดวัคซีนไม่ได้ผลเต็มที่ เนื่้องจาก mRNA ซึ่งเป็นโปรตีนของไวรัสจะถูกกำจัดอย่างรวดเร็ว จึงไม่ช่วยให้การฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เพียงพอ การฉีดวัคซีนถี่เกินไปจึงไม่ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคเพิ่มขึ้น แต่ย้ำว่าระยะห่างในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นเวลา 4 ถึง 6 เดือน ถือเป็นระยะห่างที่เหมาะสม และไม่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเกิดความอ่อนล้าหรือไม่ตอบสนองต่อแอนติเจนแต่อย่างใด

ส่วนข้ออ้างของ Children’s Health Defense ที่บอกว่าองค์การยาของสหภาพยุโรป (EMA) เตือนเรื่องการฉีดวัคซีนซ้ำๆ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนล้า เป็นการบิดเบือนความเห็นของ มาร์โค คาวาเลรี หัวหน้าฝ่ายวางแผนวัคซีนของ EMA ที่แสดงความกังวลว่า หากมีการกำหนดให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นถี่เกินไป เช่นฉีดทุกๆ 4 เดือน อาจจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองไม่ดีเท่าที่คาดหวัง เนื่องจากการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกระชั้นเกินไป จะทำให้การกระตุ้นระดับแอนติบอดีในการฉีดวัคซีนแต่ละครั้งลดต่ำลง

โฆษกของ EMA ชี้แจงว่า มาร์โค คาวาเลรี ให้ความเห็นว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นถี่เกินไปอาจทำให้ประสิทธิผลของวัคซีนลดลง ไม่ได้บอกว่าระบบภูมิคุ้มกันจะอ่อนล้าลง และมาร์โค คาวาเลรียังสนับสนุนให้ชาวยุโรปเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มที่ 3 อีกด้วย

แม้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนล้าจากการฉีดวัคซีนจะไม่ใช่สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กังวล แต่ปัญหาที่ยังเป็นที่ถกเถียงคือ จำนวนการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ที่เหมาะสมควรอยู่ที่จำนวนกี่เข็ม

ประเทศอิสราเอลอนุมัติการฉีดวัคซีน Pfizer/BioNTech เข็มที่ 4 ให้กับประชานกลุ่มเสี่ยง แต่รัฐบาลหลายประเทศและนักวิทยาศาสตร์อีกหลายคนยังคิดว่าเร็วเกินไปที่จะประกาศให้มีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นเข็มที่ 2 ยกเว้นผู้ป่วยที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่อง

จอห์น แวร์รี ชี้แจงว่าสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือประโยชน์และความเสี่ยง เพราะความสำคัญของวัคซีนเข็มที่ 4 น้อยกว่าวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 อย่างมาก โดยเฉพาะกับหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรง เพราะประโยชน์ของการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 คือการลดตัวเลขผู้ติดเชื้อและฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่การฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 คือการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตจากการติดเชื้อ จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงประโยชน์ของวัคซีนที่ต้องแลกกับอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4

ข้อสันนิฐานที่ จอห์น แวร์รี มีต่อวัคซีนเข็มกระตุ้น คือวัคซีนที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งโดยเฉพาะ (immune imprinting) เมื่อฉีดไปมากๆ อาจทำให้ร่างกายลดประสิทธิภาพในการสร้างแอนติบอดีเพื่อรับมือกับไวรัสสายพันธุ์อื่นๆ ในอนาคต โดยยกตัวอย่างว่า หากอนาคตมีการผลิตวัคซีนสำหรับสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะได้สำเร็จ การฉีดวัคซีนชนิดนั้นๆ ซ้ำๆ อาจทำให้ร่างกายขาดความสามารถในการปรับตัวเมื่อต้องเผชิญกับสายพันธุ์ที่คล้ายกับไวรัสเดลต้าซึ่งอาจแพร่ระบาดในอนาคต แม้จะเป็นข้อสันนิฐานที่ยังไม่มีการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ก็ตาม

จอห์น แวร์รี ย้ำว่าตนเองสนับสนุนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือโดสที่ 3 เนื่องจากธรรมชาติของวัคซีน mRNA มักจะได้ผลเมื่อฉีดครบ 3 โดส แต่การฉีดวัคซีน mRNA เป็นเข็มที่ 4 ยังจำเป็นต้องศึกษาประโยชน์และความเสี่ยงต่อไป ปัจจัยขึ้นอยู่กับอัตราการแพร่เชื้อในสังคม, การอุบัติของสายพันธุ์ที่น่ากังวล รวมถึงการผลิตวัคซีนที่กระตุ้นประสิทธิภาพของเซลล์ความทรงจำชนิดทีเซลล์และบีเซลล์ มากกว่าให้ความสำคัญกับระดับแอนติบอดีเท่านั้น

ข้อมูลจากหน่วยงานป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) เมื่อเดือนธันวาคมปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงที่ไวรัสโอไมครอนเริ่มแพร่ระบาดในสหรัฐฯ พบว่าชาวอเมริกันอายุ 50 ปีขึ้นไปที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีน มีอัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะติดเชื้อโควิด 19 มากกว่าคนที่ฉีดวัคซีน 2 โดสถึง 18 เท่า

สำหรับผู้ไม่ฉีดวัคซีนที่มีอายุระหว่าง 50 ถึง 64 ปี ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่าผู้ฉีดวัคซีน 3 โดสถึง 46 เท่า ส่วนผู้ไม่ฉีดวัคซีนอายุมากกว่า 65 ปี ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่าคนที่ฉีดวัคซีน 3 โดสถึง 52 เท่า

ข้อมูลอ้างอิง:

https://www.factcheck.org/2022/02/scicheck-covid-19-booster-enhances-protection-contrary-to-immune-fatigue-claims/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย