ชัวร์ก่อนแชร์: ผลวิจัยบราซิลชี้ Ivermectin ลดป่วย-ตายโควิดได้ถึงครึ่ง จริงหรือ?

21 มีนาคม 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Science Feedback (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ทำให้เข้าใจผิด

บทสรุป:


  1. เป็นผลจากงานวิจัยที่เต็มไปด้วยข้อบกพร่องและผู้วิจัยมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบริษัทผู้ผลิตยา Ivermectin
  2. ปัจจุบัน WHO ไม่แนะนำให้ใช้ Ivermectin รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ยกเว้นในการทดลอง

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทางเว็บไซต์ในสหรัฐอเมริกา โดยเว็บไซต์ต่อต้านวัคซีนทั้ง Gateway Pundit, Zero Hedge และ The Blaze ต่างนำเสนอข้อมูลว่า นักวิจัยในประเทศบราซิลพบว่ายาฆ่าพยาธิชนิด Ivermectin มีประสิทธิผลในการลดการติดเชื้อ, ป่วยหนัก และเสียชีวิตจากโควิด 19 ได้อย่างมาก จนมีการแชร์ข้อความผ่านทาง Facebook กว่า 5,300 ครั้ง

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


จากการตรวจสอบของ Science Feedback พบว่างานวิจัยที่กล่าวอ้างเป็นผลงานก่อนการตีพิมพ์ (Preprint) ซึ่งยังไม่ผ่านการพิชญพิจารณ์ (Peer Review ) หรือการประเมินความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญในแวดวงวิชาการ

ทีมวิจัยศึกษาผลการรักษาของ Ivermectin ที่มีต่ออัตราการติดเชื้อ, รักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตจากโควิด 19 ในเมืองอิตาไชอิ ประเทศบราซิล ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงธันวาคมปี 2020 โดยกลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้ Ivermectin รักษาโควิด 19 จำนวน 133,000 คนและกลุ่มผู้ไม่ใช้ Ivermectin รักษาโควิด 19 จำนวน 87,000 คน

แต่ปัญหาของงานวิจัยคือไม่มีการกำหนดตัวแปรกวน (Confounding factors) เช่นอาชีพและรายได้ของกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้โอกาสการติดเชื้อของกลุ่มตัวอย่างไม่เท่ากัน และอาจทำให้ผลวิจัยไม่ตรงกับความเป็นจริง

อีกปัญหาสำคัญของงานวิจัยชิ้นนี้คือ ไม่มีการติดตามกลุ่มผู้ใช้ Ivermectin ว่าใช้ยาตรงกับปริมาณที่แนะนำและใช้ในระยะเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ จึงไม่อาจรู้ได้ว่าผลจากการรักษาเป็นเพราะการใช้ Ivermectin หรือเพราะปัจจัยอื่น นำไปสู่คำถามว่า หากมีการวิเคราะห์ซ้ำโดยแยกกลุ่มผู้ใช้ Ivermectin อย่างไม่ถูกต้องออกไป การรักษาด้วย Ivermectin จะให้ผลดีเหมือนเดิมหรือเปล่า

นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังยอมรับในบทอภิปรายผล (Discussion) ว่าการที่กลุ่มตัวอย่างมีจำนวนมาก จึงไม่อาจรู้ได้ว่ากลุ่มผู้ใช้ Ivermectin ใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ, ใช้ในปริมาณที่ถูกต้อง, และใช้ในช่วงเวลาที่ถูกต้องหรือไม่ แต่ทีมวิจัยก็ยังสรุปว่าความไม่สมบูรณ์ของการศึกษา อาจสะท้อนประโยชน์ของการใช้ Ivermectin ต่ำกว่าความเป็นจริง ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว ความไม่สมบูรณ์ของการวิจัยอาจบดบังข้อเสียหรือแม้แต่อันตรายจากการใช้ Ivermectin รักษาผู้ติดเชื้อโควิด 19 ได้เช่นเดียวกัน

ความไม่สมบูรณ์ของงานวิจัยชิ้นนี้ ทำให้ กีเดียน เมเยอโรวิทช์ แคทซ์ นักวิทยาการระบาดชาวออสเตรเลีย วิจารณ์ว่าเป็นการวิจัยที่เต็มไปด้วยข้อบกพร่อง และไม่ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ใดๆ เกี่ยวกับการใช้ Ivermectin รักษาผู้ป่วยโควิด 19

ข้อมูลทางสถิติยังพบว่า เมืองอิตาไชอิที่ทีมวิจัยทำการศึกษา เป็นหนึ่งในเมืองที่มีอัตราการเสียชีวิตจากโควิด 19 สูงที่สุดในรัฐซานตา คาตาริน่าของบราซิล จึงเป็นที่สงสัยว่าการใช้ Ivermectin รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ได้ผลจริงหรือไม่

ยังมีการเปิดเผยข้อมูลว่า ฟลาวิโอ คาเดเจียนี และ ฮวน ชามี 2 นักวิจัยที่ร่วมในการศึกษาครั้งนี้ เป็นสมาชิกของ Front Line COVID-19 Critical Care Alliance (FLCCC) ซึ่งมีผู้นำกลุ่มคือ ปีแอร์ โครี และ พอล มาริค แพทย์ที่ถูกจับตาจากการโฆษณาชวนเชื่อเรื่องการรักษาโควิด 19 ด้วยยา Ivermectin

British Medical Journal ยังรายงานว่า ฟลาวิโอ คาเดเจียนี เป็นผู้วิจัยหลักในการวิจัยทางคลินิกที่ถูกสภาการสาธารณสุขแห่งชาติบราซิลสอบสวนในข้อหาละเมิดจรรยาบรรณทางการแพทย์และละเมิดสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ยังพบว่างานวิจัยของเขามีผลประโยชน์ทับซ้อนทางธุรกิจกับบริษัทผู้ผลิตยา Ivermectin อีกด้วย

แดเนียล กริฟฟิน แพทย์และนักวิจัยด้านโรคติดเชื้อ มหาวิทยาลัย Columbia University ย้ำเตือนว่า การเผยแพร่ความเข้าใจผิดว่า Ivermectin คือยาวิเศษสำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ส่งผลให้ผู้คนปฎิเสธการฉีดวัคซีนและเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้ยา นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่ใช้ยา Ivermectin รักษาตัวอยู่กับบ้าน ส่งผลให้การรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นไปอย่างล่าช้า และพลาดโอกาสเข้ารับการรักษาด้วยตัวยาที่ผ่านการรับรอง ในช่วงเวลาที่สำคัญต่อการรักษามากที่สุด

กระแสการใช้ยาฆ่าพยาธิ Ivermectin รักษาผู้ป่วยโควิด 19 เริ่มขึ้นเมื่อผลการทดลองในหลอดทดลองและการทดลองในตัวแฮมเตอร์เมื่อปี 2020 พบว่า Ivermectin อาจมีประโยชน์ในการยับยั้งไวรัสโควิด 19 นำไปสู่การวิจัย Ivermectin กับโควิด 19 อย่างแพร่หลาย

ปัจจุบัน องค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ยังไม่แนะนำให้ใช้ Ivermectin รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ยกเว้นในการทดลอง ซึ่งผลการศึกษาในปัจจุบันไม่พบว่า Ivermectin มีประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19

แม้จะมีงานวิจัยบางชิ้นชูประโยชน์ของการใช้ Ivermectin รักษาผู้ป่วยโควิด 19 แต่รายงานของสำนักข่าว BBC เมื่อเดือนตุลาคมปี 2021 พบว่ามากกว่า 1 ใน 3 ของงานวิจัยเรื่อง Ivermectin กับโควิด 19 เต็มไปด้วยข้อบกพร่องในกระบวนการวิจัยที่ร้ายแรงและส่อการกระทำที่ทุจริต

สอดคล้องกับการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญจาก WHO ที่พบว่างานวิจัยเรื่อง Ivermectin กับโควิด 19 จำนวน 16 ชิ้น เป็นงานวิจัยที่ใช้การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (Randomized Controlled Trials) ซึ่งมีความน่าเชื่อถือสูง แต่พบว่ามีงานวิจัยเพียง 5 ชิ้นที่เปรียบเทียบการรักษาด้วย Ivermectin กับการรักษาที่เป็นมาตรฐานโดยตรง และ 2 จาก 5 งานวิจัยดังกล่าวมีความลำเอียงในการจัดกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้แจงว่าเมื่อนำเนื้อหาส่วนที่สงสัยว่ามีความลำเอียงออกไป ประโยชน์ของ Ivermectin ในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ในงานวิจัยเหล่านั้นก็หมดไปทันที

ข้อมูลอ้างอิง:

https://healthfeedback.org/claimreview/ivermectin-study-itajai-contains-methodological-weaknesses-questionable-conclusions/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]