3 ระยะการตายจากการฉีดวัคซีนโควิด จริงหรือ ?

แม้ว่าจะมีงานวิจัยจากหลายองค์กรทั่วโลกที่ยืนยันว่าวัคซีนโควิด-19 นั้น ปลอดภัยและมีความเสี่ยงต่ำ ประชาชนบางกลุ่มยังคงไม่มั่นใจในความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นต่อตนเอง ปัจจุบันจึงมีข่าวลือมากมายที่อ้างถึงอันตรายของการฉีดวัคซีน รวมถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก การตรวจสอบข้อมูลจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพื่อป้องกันการเข้าใจแบบผิด ๆ และทำให้ประชาชนกลัวการฉีดวัคซีนตามมา


คำกล่าวอ้าง

มีข้อความที่ระบุถึง ระยะการตาย 3 ระยะ จากการฉีดวัคซีนโควิด โดยมีใจความหลักดังนี้

  • ระยะที่ 1 (0-30 วัน) จะทำให้เกิดลิ่มเลือด กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจวาย ฯลฯ
  • ระยะที่ 2 (1-12 เดือน) จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันบกพร่อง แพ้ภูมิตัวเอง หัวใจล้มเหลว ฯลฯ
  • ระยะที่ 2 (1-10 ปี) จะทำให้เกิดโรคมะเร็ง เกิดภาวะมีบุตรยาก ฯลฯ


บทสรุปหลังตรวจสอบ

❌ ข้อมูลไม่เป็นความจริง อย่าแชร์ ❌

  • วันที่ตรวจสอบ: 1 กุมภาพันธ์ 2565
  • ตรวจสอบโดย: ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท
  • คลิปอ้างอิง: https://youtu.be/yRoKDtUhczs

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เกี่ยวกับคำกล่าวอ้างข้างต้น  และพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยมีคำอธิบายเพื่อหักล้างคำกล่าวอ้างดังนี้

คำอธิบายข้อเท็จจริง

วัคซีนไม่อาจทำให้เสียชีวิตในระยาวแบบที่กล่าวอ้างได้

จากข้อความที่กล่าวอ้าง การตายหลังจากฉีดวัคซีนโควิดจะแบ่งเป็น 3 ระยะ ตั้งแต่ 1 เดือน 1 ปี ไปจนถึง 10 ปี ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว วัคซีนทุกชนิดที่นำมาใช้ในปัจจุบันยังไม่มีหลักการทางวิชาการใดที่ชี้ว่าจะทำให้เกิดการเสียชีวิตในระยะยาวขนาดนั้นได้เลย และหากเราได้ไปศึกษาเบื้องหลังทางวิชาการต่าง ๆ ก็จะเห็นว่าโอกาสที่จะเกิดเช่นนั้นเป็นไปได้ยากมาก


โรคที่กล่าวอ้างไม่ได้สัมพันธ์กับการฉีดวัคซีนใด ๆ

ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า วัคซีนไม่ได้นำไปสู่การแท้งบุตร การก่อมะเร็ง การเกิดภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือระบบสืบพันธ์บกพร่อง รวมถึงไม่ได้กระทบกลไกการซ่อมแซม DNA ดังที่กล่าวอ้าง ปัจจุบันยังไม่มีรายงานหรือหลักฐานทางวิชาการใด ๆ ที่ระบุว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะส่งผลให้เกิดภาวะข้างต้น

ถึงแม้ว่าวัคซีนอาจจะไปกระตุ้นให้ต่อมน้ำเหลืองโตชั่วคราว แต่ก็ไม่ได้เป็นอันตรายถึงขนาดก่อเป็นมะเร็งอย่างแน่นอน  โดยเฉพาะเรื่องของการขัดขวางกระบวนการซ่อมแซมดีเอ็นเอของร่างกาย เนื่องจากวัคซีน mRNA ไม่ได้เข้าไปไกลถึงนิวเคลียสหรือระบบดีเอ็นเอของเซลล์ของร่างกายมนุษย์ ดังนั้น ตามทฤษฎีแล้ว ยังคงเป็นไปไม่ได้ที่วัคซีน mRNA จะไปกระทบกลไกการซ่อมแซม DNA ของเรา

นอกจากนี้ ยังมีเนื้อหาที่อ้างถึงการพบเซลล์ยักษ์ และภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ที่จะส่งผลให้คนมากกว่า 80% เสียชีวิตในอีก 5 ปีหลังฉีดวัคซีน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแจ้งว่า ยังไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าวัคซีน mRNA จะทำให้เกิดภาวะนี้ได้ โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า เซลล์ยักษ์ หรือ ไจแอ้นท์เซลล์ (Giant cell) นั้น จะพบได้ในคนที่เป็นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ชนิดที่ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งวัคซีนจะไม่สามารถก่อให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่เป็นเซลล์ยักษ์นี้ได้

ระยะการตายของวัคซีนโควิดไม่มีจริง แต่ภาวะแพ้สามารถเกิดขึ้นได้

ปัจจุบันได้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วหลายล้านโดสทั่วโลก และจริงอยู่ว่ามีผู้คนจำนวนหนึ่งที่ได้รับผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์อยู่บ้าง เช่น ภาวะแพ้รุนแรง (anaphylaxis) แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังคงยืนยันว่าวัคซีนเหล่านี้ค่อนข้างปลอดภัย และการฉีดก็ยังเกิดผลดีกว่าไม่ฉีดอย่างแน่นอน เมื่อเทียบกับการที่เราต้องไปเผชิญกับโรคด้วยตนเองโดยที่ไม่มีการป้องกันใด ๆ เลย 

มี 3 ภาวะรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฉีดวัคซีนโควิด-19

ภาวะรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีนมีอยู่ 3 อย่างด้วยกันที่ควรจับตามอง

  • การเกิดอาการแพ้รุนแรงที่รักษาไม่ทัน

ซึ่งภาษาทางการแพทย์เรียกภาวะแพ้นี้ว่า “อนาฟัยแล็กซิส” (anaphylaxis) โดยภาวะนี้สามารถเกิดได้กับวัคซีนและยาทุกชนิด และมักจะเกิดขึ้นภายใน 30 นาทีหลังจากได้รับวัคซีน เพราะฉะนั้นผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีเพื่อไม่ให้เกิดการเสียชีวิต นั่นเป็นสาเหตุที่เราต้องเฝ้ารอดูอาการ 30 นาที หลังฉีดวัคซีนนั่นเอง

ทั้งนี้ การที่มีภาวะแพ้แบบนี้เกิดขึ้นได้ก็ไม่ได้หมายความว่าวัคซีนอันตรายและไม่ควรฉีด เพราะแต่ละคนมีการแพ้รุนแรงที่ต่างกัน เปรียบเสมือนกับคนที่แพ้กุ้ง ที่ทานเข้าไปแล้วอาจจะถึงขั้นแน่นหน้าอกและช็อก ในขณะที่คนที่ไม่แพ้กุ้งก็จะสามารถทานได้อย่างเอร็ดอร่อย เป็นต้น

  • การเกิดภาวะลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นแบบพิเศษ

ภาวะนี้จะเกิดจำเพาะเจาะจงกับวัคซีนตระกูลอะดีโนไวรัสเวกเตอร์เท่านั้น ซึ่งวัคซีนชนิดนี้ในประเทศไทยก็คือแอสตร้าเซนเนก้า แต่ก็ยังถือว่าพบได้น้อยมาก มีอัตราเพียง 1 ใน 3 ล้านโดส เท่านั้น

  • การเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเยื้อหุ้มหัวใจอักเสบ

ภาวะนี้มีโอกาสพบได้ 1 ในหมื่น หรือ 1 ในแสนราย และเป็นภาวะที่ควรเฝ้าระวัง โดยมักเกิดภายใน 7 วันหลังฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่เป็นมักไม่มีอาการรุนแรง และส่วนใหญ่จะหายได้โดยไม่ต้องการการรักษาแบบจำเพาะ นอกจากนี้ ภาวะนี้มักจะเกิดขึ้นกับวัคซีนตระกูล mRNA และพบในวัคซีนโมเดอร์นามากกว่าไฟเซอร์ โดยมักพบในผู้ชายที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ในระหว่างฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เพราะฉะนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าผู้ชายที่อายุไม่มากควรงดการออกกำลังกายหนัก และพักผ่อนให้มากขึ้นหลังฉีดวัคซีน mRNA เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยไม่เสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหากมีภาวะนี้เกิดขึ้น ภาวะนี้ก็ไม่ได้พบบ่อยมากนะคะ 1 ในหมื่น หรือ 1 ในแสนราย

สรุปแล้ว การฉีดวัคซีนโควิดมากไปก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และการฉีดน้อยไปก็อาจจะทำให้เสี่ยงต่อโรคได้ เพราะฉะนั้นผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าวิธีที่เหมาะสมที่สุดก็คือ การฉีดวัคซีนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย: ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท

ให้ความรู้โดย: ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

เรียบเรียงบทความโดย: ชณิดา ภิรมณ์ยินดี


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]