3 ระยะการตายจากการฉีดวัคซีนโควิด จริงหรือ ?

แม้ว่าจะมีงานวิจัยจากหลายองค์กรทั่วโลกที่ยืนยันว่าวัคซีนโควิด-19 นั้น ปลอดภัยและมีความเสี่ยงต่ำ ประชาชนบางกลุ่มยังคงไม่มั่นใจในความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นต่อตนเอง ปัจจุบันจึงมีข่าวลือมากมายที่อ้างถึงอันตรายของการฉีดวัคซีน รวมถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก การตรวจสอบข้อมูลจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพื่อป้องกันการเข้าใจแบบผิด ๆ และทำให้ประชาชนกลัวการฉีดวัคซีนตามมา


คำกล่าวอ้าง

มีข้อความที่ระบุถึง ระยะการตาย 3 ระยะ จากการฉีดวัคซีนโควิด โดยมีใจความหลักดังนี้

  • ระยะที่ 1 (0-30 วัน) จะทำให้เกิดลิ่มเลือด กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจวาย ฯลฯ
  • ระยะที่ 2 (1-12 เดือน) จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันบกพร่อง แพ้ภูมิตัวเอง หัวใจล้มเหลว ฯลฯ
  • ระยะที่ 2 (1-10 ปี) จะทำให้เกิดโรคมะเร็ง เกิดภาวะมีบุตรยาก ฯลฯ


บทสรุปหลังตรวจสอบ

❌ ข้อมูลไม่เป็นความจริง อย่าแชร์ ❌

  • วันที่ตรวจสอบ: 1 กุมภาพันธ์ 2565
  • ตรวจสอบโดย: ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท
  • คลิปอ้างอิง: https://youtu.be/yRoKDtUhczs

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เกี่ยวกับคำกล่าวอ้างข้างต้น  และพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยมีคำอธิบายเพื่อหักล้างคำกล่าวอ้างดังนี้

คำอธิบายข้อเท็จจริง

วัคซีนไม่อาจทำให้เสียชีวิตในระยาวแบบที่กล่าวอ้างได้

จากข้อความที่กล่าวอ้าง การตายหลังจากฉีดวัคซีนโควิดจะแบ่งเป็น 3 ระยะ ตั้งแต่ 1 เดือน 1 ปี ไปจนถึง 10 ปี ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว วัคซีนทุกชนิดที่นำมาใช้ในปัจจุบันยังไม่มีหลักการทางวิชาการใดที่ชี้ว่าจะทำให้เกิดการเสียชีวิตในระยะยาวขนาดนั้นได้เลย และหากเราได้ไปศึกษาเบื้องหลังทางวิชาการต่าง ๆ ก็จะเห็นว่าโอกาสที่จะเกิดเช่นนั้นเป็นไปได้ยากมาก


โรคที่กล่าวอ้างไม่ได้สัมพันธ์กับการฉีดวัคซีนใด ๆ

ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า วัคซีนไม่ได้นำไปสู่การแท้งบุตร การก่อมะเร็ง การเกิดภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือระบบสืบพันธ์บกพร่อง รวมถึงไม่ได้กระทบกลไกการซ่อมแซม DNA ดังที่กล่าวอ้าง ปัจจุบันยังไม่มีรายงานหรือหลักฐานทางวิชาการใด ๆ ที่ระบุว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะส่งผลให้เกิดภาวะข้างต้น

ถึงแม้ว่าวัคซีนอาจจะไปกระตุ้นให้ต่อมน้ำเหลืองโตชั่วคราว แต่ก็ไม่ได้เป็นอันตรายถึงขนาดก่อเป็นมะเร็งอย่างแน่นอน  โดยเฉพาะเรื่องของการขัดขวางกระบวนการซ่อมแซมดีเอ็นเอของร่างกาย เนื่องจากวัคซีน mRNA ไม่ได้เข้าไปไกลถึงนิวเคลียสหรือระบบดีเอ็นเอของเซลล์ของร่างกายมนุษย์ ดังนั้น ตามทฤษฎีแล้ว ยังคงเป็นไปไม่ได้ที่วัคซีน mRNA จะไปกระทบกลไกการซ่อมแซม DNA ของเรา

นอกจากนี้ ยังมีเนื้อหาที่อ้างถึงการพบเซลล์ยักษ์ และภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ที่จะส่งผลให้คนมากกว่า 80% เสียชีวิตในอีก 5 ปีหลังฉีดวัคซีน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแจ้งว่า ยังไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าวัคซีน mRNA จะทำให้เกิดภาวะนี้ได้ โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า เซลล์ยักษ์ หรือ ไจแอ้นท์เซลล์ (Giant cell) นั้น จะพบได้ในคนที่เป็นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ชนิดที่ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งวัคซีนจะไม่สามารถก่อให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่เป็นเซลล์ยักษ์นี้ได้

ระยะการตายของวัคซีนโควิดไม่มีจริง แต่ภาวะแพ้สามารถเกิดขึ้นได้

ปัจจุบันได้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วหลายล้านโดสทั่วโลก และจริงอยู่ว่ามีผู้คนจำนวนหนึ่งที่ได้รับผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์อยู่บ้าง เช่น ภาวะแพ้รุนแรง (anaphylaxis) แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังคงยืนยันว่าวัคซีนเหล่านี้ค่อนข้างปลอดภัย และการฉีดก็ยังเกิดผลดีกว่าไม่ฉีดอย่างแน่นอน เมื่อเทียบกับการที่เราต้องไปเผชิญกับโรคด้วยตนเองโดยที่ไม่มีการป้องกันใด ๆ เลย 

มี 3 ภาวะรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฉีดวัคซีนโควิด-19

ภาวะรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีนมีอยู่ 3 อย่างด้วยกันที่ควรจับตามอง

  • การเกิดอาการแพ้รุนแรงที่รักษาไม่ทัน

ซึ่งภาษาทางการแพทย์เรียกภาวะแพ้นี้ว่า “อนาฟัยแล็กซิส” (anaphylaxis) โดยภาวะนี้สามารถเกิดได้กับวัคซีนและยาทุกชนิด และมักจะเกิดขึ้นภายใน 30 นาทีหลังจากได้รับวัคซีน เพราะฉะนั้นผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีเพื่อไม่ให้เกิดการเสียชีวิต นั่นเป็นสาเหตุที่เราต้องเฝ้ารอดูอาการ 30 นาที หลังฉีดวัคซีนนั่นเอง

ทั้งนี้ การที่มีภาวะแพ้แบบนี้เกิดขึ้นได้ก็ไม่ได้หมายความว่าวัคซีนอันตรายและไม่ควรฉีด เพราะแต่ละคนมีการแพ้รุนแรงที่ต่างกัน เปรียบเสมือนกับคนที่แพ้กุ้ง ที่ทานเข้าไปแล้วอาจจะถึงขั้นแน่นหน้าอกและช็อก ในขณะที่คนที่ไม่แพ้กุ้งก็จะสามารถทานได้อย่างเอร็ดอร่อย เป็นต้น

  • การเกิดภาวะลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นแบบพิเศษ

ภาวะนี้จะเกิดจำเพาะเจาะจงกับวัคซีนตระกูลอะดีโนไวรัสเวกเตอร์เท่านั้น ซึ่งวัคซีนชนิดนี้ในประเทศไทยก็คือแอสตร้าเซนเนก้า แต่ก็ยังถือว่าพบได้น้อยมาก มีอัตราเพียง 1 ใน 3 ล้านโดส เท่านั้น

  • การเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเยื้อหุ้มหัวใจอักเสบ

ภาวะนี้มีโอกาสพบได้ 1 ในหมื่น หรือ 1 ในแสนราย และเป็นภาวะที่ควรเฝ้าระวัง โดยมักเกิดภายใน 7 วันหลังฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่เป็นมักไม่มีอาการรุนแรง และส่วนใหญ่จะหายได้โดยไม่ต้องการการรักษาแบบจำเพาะ นอกจากนี้ ภาวะนี้มักจะเกิดขึ้นกับวัคซีนตระกูล mRNA และพบในวัคซีนโมเดอร์นามากกว่าไฟเซอร์ โดยมักพบในผู้ชายที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ในระหว่างฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เพราะฉะนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าผู้ชายที่อายุไม่มากควรงดการออกกำลังกายหนัก และพักผ่อนให้มากขึ้นหลังฉีดวัคซีน mRNA เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยไม่เสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหากมีภาวะนี้เกิดขึ้น ภาวะนี้ก็ไม่ได้พบบ่อยมากนะคะ 1 ในหมื่น หรือ 1 ในแสนราย

สรุปแล้ว การฉีดวัคซีนโควิดมากไปก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และการฉีดน้อยไปก็อาจจะทำให้เสี่ยงต่อโรคได้ เพราะฉะนั้นผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าวิธีที่เหมาะสมที่สุดก็คือ การฉีดวัคซีนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย: ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท

ให้ความรู้โดย: ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

เรียบเรียงบทความโดย: ชณิดา ภิรมณ์ยินดี


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]