ชัวร์ก่อนแชร์: คนต่างด้าวคือต้นเหตุให้โควิดระบาดในสหรัฐฯ จริงหรือ?

31 มกราคม 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Factcheck.org (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ

บทสรุป:


  1. สายพันธุ์ไวรัสโควิด 19 ที่ระบาดในลาตินอเมริกาแตกต่างจากไวรัสเดลต้าที่ระบาดในสหรัฐฯ
  2. ปัจจัยที่ทำให้สหรัฐฯ เผชิญการแพร่ระบาดมาจากการแพร่เชื้อจากผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนและละเลยมาตรการโควิด 19

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่จากผลสำรวจที่จัดทำโดยมูลนิธิ Kaiser Family Foundation ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่ามีชาวอเมริกันผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันถึง 55% คิดว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในสหรัฐฯ มีต้นเหตุจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวและแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศ

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญกับการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด 19 อย่างหนักในช่วงฤดูร้อนปี 2021

ข้อมูลจากหน่วยงานป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) พบว่าสหรัฐฯ พบยอดผู้ติดเชื้อโควิด 19 ต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 12,000 คนเมื่อเดือนมิถุนายน เป็น 160,000 คนในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนปี 2021

สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนคนต่างด้าวที่ลักลอบข้ามแดนทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ โดยจำนวนคนต่างด้าวข้ามพรมแดนเพิ่มจาก 75,000 คนเมื่อเดือนมกราคม เป็น 200,000 คนในเดือนกรกฎาคมปี 2021 ตามรายงานจากหน่วยงานศุลกากรและตรวจรักษาความปลอดภัยชายแดนแห่งสหรัฐอเมริกา

แต่การเชื่อมโยงว่าคนต่างด้าวคือสาเหตุการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในสหรัฐฯ เป็นการกล่าวอ้างที่ไม่เป็นความจริง

ดร.แอนโทนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NIAID) ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว CNN เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2021 ว่า คนต่างด้าวไม่ใช่ต้นเหตุการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในสหรัฐฯ การที่ชาวอเมริกันเสียชีวิตกว่า 7 แสนคน และติดเชื้อไปกว่า 34 ล้านคนในเวลานั้น เป็นเพราะปัญหาที่เกิดจากคนในชาติ ซึ่งเป็นเหมือนกันทั่วโลก

ความเห็นของดร.แอนโทนี เฟาชี สอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญหลายราย

เอ็มมา ฮอดคราฟท์ นักวิจัยหลังปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย University of Bern ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้ร่วมพัฒนา Nextstrain เว็บไซต์ติดตามการแพร่ระบาดของไวรัส ชี้แจงว่า ไม่มีหลักฐานว่าไวรัสเดลต้า แพร่ระบาดจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเม็กซิโกหรือประเทศในแถบลาตินอเมริกา นอกจากนี้ไวรัสเดลต้ายังไม่ใช่สายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศเหล่านั้น สายพันธุ์ที่ระบาดในเม็กซิโกถึงช่วงเดือนพฤษภาคมได้แก่ 20B/S.732A, ส่วนสายพันธุ์แกมม่าและแลมด้าพบการระบาดในประเทศเปรู, อาร์เจนติน่า และชิลี, พบการระบาดของสายพันธุ์แกมม่าในบราซิล และพบการระบาดของสายพันธุ์มิวในโคลอมเบีย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่ระบาดอย่างแพร่หลายในสหรัฐฯ

ในทางตรงกันข้าม สายพันธุ์ที่ระบาดในสหรัฐฯ อย่างเดลต้า มีที่มาจากสหราชอาณาจักรและอินเดีย ซึ่งเหตุผลที่ประเทศในลาตินอเมริกาได้รับผลกระทบจากไวรัสเดลต้าช้ากว่าหลายประเทศ เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการติดต่อกับสหราชอาณาจักรและอินเดียค่อนข้างต่ำ

ดร.มิเชล ไฮสเลอร์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ องค์กรแพทย์เพื่อสิทธิมนุษยชน (Physicians for Human Rights) และศาสตราจารย์ด้านอายุรศาสตร์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัย University of Michigan อธิบายว่าไม่พบหลักฐานในเชิงระบาดวิทยาที่บ่งชี้ว่า การอพยพเข้าประเทศในเขตแดนด้านตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ เป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดของไวรัสเดลต้าหรือสายพันธุ์ใดๆ ในสหรัฐฯ

เมื่อตรวจสอบบริเวณที่พบการแพร่เชื้อโควิด 19 อย่างสูงในสหรัฐฯ จะพบว่าส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่มีอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำ มักอยู่ในเขตชนบทที่ห่างไกลจากชายแดนและมีคนต่างด้าวอาศัยอยู่เพียงเล็กน้อย ส่วนรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งมีเขตแดนติดกับประเทศเม็กซิโก กลับพบการติดเชื้อที่ต่ำมาก นอกจากนี้ข้อมูลในเชิงระบาดวิทยายังพบว่าไวรัสเดลต้าแพร่ระบาดในสหรัฐฯ ก่อนเม็กซิโกและประเทศในแถบลาตินอเมริกาเสียอีก

รายงานจากสำนักข่าว New York Times เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2021 พบว่าแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีอัตราการติดเชื้อโควิด 19 ต่ำที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากรัฐคอนเนตทิคัต โดยอัตราการติดเชื้อต่อวันในรอบสัปดาห์ของแคลิฟอร์เนียอยู่ที่ 16 คนต่อประชากร 100,000 คน

นอกจากนี้ องค์การอนามัยทวีปอเมริกา (PAHO) ยังสรุปว่า การแพร่ระบาดของไวรัสเดลต้าในเม็กซิโก มีสาเหตุจากการแพร่เชื้อจากฝั่งสหรัฐฯ อีกด้วย

ดร.มิเชล ไฮสเลอร์ ย้ำว่าคนต่างด้าวกลายเป็นแพะรับบาปในข้อหาทำให้สหรัฐฯ เผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทั้งๆ ที่หลักฐานจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือต่างยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า อัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำคือสาเหตุการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 และต้นเหตุการแพร่ระบาดมาจากคนที่ไม่ฉีดวัคซีน ทั้งหมดเป็นปัญหาด้านสาธารณสุข ไม่ใช่ปัญหาด้านการข้ามแดน เจ้าหน้าที่ของรัฐที่พยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาให้คนต่างด้าวว่าเป็นเหมือนพาหะนำโรคจากแนวคิดหวาดกลัวชาวต่างชาติและแนวคิดเหยียดเชื้อชาติ ควรหันไปกระตุ้นอัตราการฉีดวัคซีนของคนในชาติและปรับปรุงจิตสำนึกด้านด้านสาธารณสุขในชุมชนของพวกเขา

ข้อมูลอ้างอิง:

https://www.factcheck.org/2021/10/scicheck-migrants-not-responsible-for-latest-covid-19-surge/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย