เวที “ค้านปิดหัวลำโพง” ดุเดือด

กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.- เวทีค้านปิดหัวลำโพง สหภาพรถไฟฯ เดินหน้ายืนยัน เปิดสถานีกลางบางซื่อ ไม่จำเป็นต้องปิดหัวลำโพง พร้อมขอรัฐบาลแก้ปัญหาขาดทุนของการรถไฟอย่างตรงจุด ส่วนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ หวั่นเอื้อนายทุนรายใหญ่สร้างโรงแรม-ศูนย์การค้า


นายสาวิทย์ แก้วหวาน ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เปิดเผยว่า สำหรับการเปิดรับฟังความคิดเห็นในการหยุดให้บริการเดินรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพง นั้น ทางสหภาพมองว่าสถานีรถไฟหัวลำโพงถือเป็นสถานีประวัติศาสตร์และเป็นที่พึ่งของประชาชน หากมีการปิดสถานีหัวลำโพงจะส่งผลกระทบให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ที่ผ่านมาทางสหภาพได้ดำเนินการล่ารายชื่อและพบปะประชาชนผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมดโดยต้องการให้หรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหยุดดำเนินการนโยบายเหล่านี้

อย่างไรก็ตามส่วนกรณีที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีแผนให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทบทวนแผนการเดินรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพง เบื้องต้นสร.รฟท.ยืนยันต้องมีขบวนรถไฟจำนวน 22 ขบวน เข้าสถานีหัวลำโพงเหมือนเดิม ส่วนข้อเสนออื่นๆคงต้องฟังภาคประชาชนอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุป เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป


ทั้งนี้หากมีการเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อและต้องปิดให้บริการสถานีรถไฟหัวลำโพงไม่ใช่เรื่องจำเป็น เพราะสถานีหัวลำโพงถือว่ายังมีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และการให้บริการประชาชน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต้องทบทวนในเรื่องนี้ว่าจะเห็นผลประโยชน์ในการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์หรือให้ผลประโยชน์แก่ประชาชนมากกว่ากัน ทุกวันนี้เราต้องพูดความจริงว่ารฟท. เป็นหนี้เพราะมีการให้บริการเก็บค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุน ทำให้มีหนี้สะสม 2.4 แสนล้านบาท เนื่องจากภาครัฐไม่ได้มีการชดเชยรายได้ให้กับรฟท. ขณะเดียวกันที่ดินของรฟท.บริเวณอื่นๆสามารถหาประโยชน์ได้เช่นกัน แต่การยกเลิกสถานีรถไฟหัวลำโพง ทั้งๆที่เป็นสถานีให้บริการด้านระบบรางถือเป็นการผิดกฎหมายอย่างชัดเจน

นายสาวิทย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่กระทรวงคมนาคมยกประเด็นถึงรฟท.เป็นหนี้ถึง 6 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ในอนาคตที่ไม่มีความจริง โดยปัจจุบันภาครัฐค้างจ่ายหนี้ให้รฟท. อยู่ที่ 2.4 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันการพัฒนาที่ดินในพื้นที่รฟท.มีหลายแปลง เช่น สถานีย่านจตุจักร ,สถานีบางซื่อ ฯลฯ ที่สามารถพัฒนาพื้นที่ได้ แต่เหตุใดถึงเร่งรัดการพัฒนาพื้นที่สถานีรถไฟหัวลำโพง รวมทั้งบริเวณรอบสถานีรถไฟหัวลำโพงมีหลายธุรกิจที่เช่าบนพื้นที่ของรฟท. เช่น โรงแรมทวินทาวเวอร์ สามารถทำควบคู่กับการให้บริการสถานีรถไฟหัวลำโพงต่อไปได้
 
 สำหรับข้อเสนอของสหภาพฯรถไฟต่อรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาดังต่อไปนี้ 1. การให้มีบริการขบวนรถไฟรับ – ส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ควรมีอยู่ต่อไป โดยให้มีขบวนรถไฟชานเมืองทุกสาย และรถบริการเชิงสังคม(PSO)ทางไกล อย่างน้อยเส้นทางละ 1 ขบวน มีต้นทาง – ปลายทางที่สถานีกรุงเทพ เพื่อเป็นบริการขนส่งสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐ ที่รองรับประชาชนจำนวนมากจากทั่วทุกส่วนภูมิภาคเข้ามาสู่กรุงเทพมหานคร ด้วยความสะดวก ปลอดภัย รวมทั้งใช้ในการเดินขบวนรถพิเศษเนื่องในโอกาสต่างๆ ที่สำคัญของประเทศ และของการรฟท.อีกทั้งเป็นพื้นที่อันควรค่ายิ่งแก่การอนุรักษ์ใช้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ได้ ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต ส่วนที่สถานีกลางบางซื่อ ให้เป็นต้นทาง – ปลายทาง ของขบวนรถเชิงพาณิชย์และขบวนอื่นๆที่จะมีต่อไปในอนาคต
  
2.การแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ กทม. รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการขนส่งทางรางเป็นระบบหลักอย่างสมบูรณ์เต็มระบบ ซึ่งในประเทศที่เจริญแล้วต่างก็ใช้ระบบขนส่งทางรางเป็นระบบขนส่งหลักในเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร ส่งเสริมให้ลดปริมาณการใช้รถยนต์ เนื่องจากขนส่งคนได้เป็นจำนวนมาก ไม่สร้างมลภาวะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทางแก้ควรขยายทางยกระดับข้ามทางรถไฟ หรือขุดอุโมงค์ที่ถนนตัดผ่านเสมอระดับทางที่ยมราช โดยรัฐบาลควรดำเนินการเร่งรัดโครงการก่อสร้างโครงข่ายรถไฟชานเมืองสายสีแดงส่วนต่อขยายให้เต็มรูปแบบ ที่ดำเนินการโดยรัฐทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารจัดการ เพื่อควบคุมราคาค่าบริการและเป็นรัฐสวัสดิการให้กับประชาชน

3.การพัฒนาพื้นที่ในเชิงพาณิชย์เพื่อมาชดเชยผลการดำเนินงานที่ขาดทุนของรฟท.ควรดำเนินการจากที่ดินของรฟท.ในพื้นที่ที่มีความพร้อม เช่น พื้นที่ย่านพหลโยธิน บางซื่อ จตุจักร รัชดาภิเษก สถานีแม่น้ำ หรือพื้นที่อื่นๆที่มีศักยภาพและความพร้อมทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ พิษณุโลก อรัญประเทศ สงขลา พังงา ประจวบคีรีขันธ์ อุดรธานี ขอนแก่นอุบลราชธานี นครราชสีมา และ บุรีรัมย์ เป็นต้น


นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศ(รฟท.) เปิดเผยว่าจากกรณีการปิดสถานีหัวลำโพงนั้น ตั้งข้อสังเกตว่าพื้นที่ของการรถไฟฯมีอยู่ทั่วประเทศทำไมไม่มีการดำเนินการพัฒนาเหตุใดต้องเป็นสถานีหัวลำโพง คำถามนี้ต้องมีการชี้แจง การรถไฟฯเป็นลูกจ้างของประชาชนไม่ใช่ลูกจ้างของรัฐบาล ในประเด็นของการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนหรือไม่นั้นก็มองว่าตั้งแต่มีการยึดอำนาจเข้ามาก็มีการเอื้อให้นายทุนอยู่แล้ว ที่ผ่านมามีจำนวนศูนย์การค้าและแหล่งท่องเที่ยวไม่เพียงพออีกหรือ สถานีรถไฟหัวลำโพงมีความสำคัญในการเดินทางของประชาชนที่มีรายได้ไม่มากที่อาศัยรถไฟในการเดินทาง หากจะยกตัวอย่างการพัฒนาของต่างประเทศอย่างญี่ปุ่นนั้น ญี่ปุ่นมีการพัฒนาสิทธิเหนือสถานีและไม่ได้มีสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์แบบเราทุกประเทศมีสถานีหลายสถานีเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางให้ประชานเดินทางได้สะดวกรวดเร็ว

สำหรับจำนวนหนี้ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการระบุว่ามีประมาณ 600,000 ล้านบาทนั้น จำนวนนี้มาจากส่วนไหนต้องให้ทางบัญชีอธิบาย โดยยืนยันหนี้ของการรถไฟฯมีหนี้แค่เพียงประมาณ 200,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น และหากพูดถึงหนี้ของรถไฟฯนั้นตามกฎหมายหากรถไฟฯเงินขาดรัฐบาลต้องจ่ายชดเชยในส่วนที่รัฐบาลเป็นหนี้บริการสาธารณะ(PSO) ประมาณ 200,000 กว่าล้านบาท

ด้านนางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวต่อว่า เราต้านการปิดสถานีรถไฟหัวลำโพง เนื่องจากปัจจุบันผังเมืองสถานีหัวลำโพงเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งไม่สามารถนำไปบริหารเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้ แต่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต้องการหยุดเดินรถไฟโดยปรับสีผังเมืองเพื่อดำเนินการหารายได้ในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยการเปิดประมูล ถึงแม้กระทรวงคมนาคมยืนยันว่าไม่มีการทุบสถานีรถไฟหัวลำโพงแต่ก็ถือเป็นการเอื้อนายทุน ทำให้สถานีรถไฟหัวลำโพงกลายเป็นประตูทางเข้าเพื่อสร้างศูนย์การค้าในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย