fbpx

ครม.อนุมัติปรับเกณฑ์และเงื่อนไขสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและเอสเอ็มอี

ทำเนียบฯ 28 ก.ย.-ครม.อนุมัติปรับเกณฑ์และเงื่อนไขสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและเอสเอ็มอีจากผลกระทบโควิด-19 หนุนการเข้าถึงเงินทุนแบ่งเบาภาระชำระหนี้ประคองการฟื้นตัวเศรษฐกิจ 


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 ก.ย.64 เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์เงื่อนไขโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พร้อมอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับดำเนินโครงการ 135 ล้านบาท  

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ปรับปรุง ได้แก่ วัตถุประสงค์การกู้ ให้ครอบคลุมถึงการลงทุน ขยายและปรับปรุงกิจการ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจ จากเดิมที่จะให้สินเชื่อเฉพาะการเสริมสภาพคล่องเท่านั้น  


ปรับปรุงระยะเวลาการกู้จากเดิมไม่เกิน 5 ปี เป็นไม่เกิน 10 ปี โดยปลอดชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 2 ปี โดยให้รวมถึงลูกหนี้ที่ได้รับสินเชื่อไปก่อนมีการปรับปรุงรายละเอียดครั้งนี้ด้วย โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ดำเนินโครงการ จะประสานติดต่อลูกหนี้เพื่อดำเนินตามขั้นตอนต่อไป 

ปรับปรุงเงื่อนไขการชดเชยของรัฐบาล ที่จะชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ร้อยละ 100 สำหรับ NPL ไม่เกินร้อยละ 40 ของวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ จากเดิมที่กำหนดชดเชยร้อยละ 100 สำหรับกรณี NPL ไม่เกินร้อยละ 25 และชดเชยร้อยละ 50 กรณี NPL เกินร้อยละ 25 แต่ไม่เกินร้อยละ 40 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การปรับปรุงเกณฑ์และเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยและเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น และสามารถช่วยแบ่งเบาภาระการผ่อนชำระหนี้ เพื่อประคับประคองการฟื้นฟูธุรกิจให้สามารถดำเนินการได้ต่อไป รวมถึงช่วยให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอน


ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง รายงานว่า โครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ได้รับอนุมัติจาก ครม. เมื่อวันที่ 24 มี.ค.63 ซึ่ง ณ วันที่ 24 ส.ค.64 ธพว.ได้อนุมัติสินเชื่อตามโครงการแล้ว 4,639 ราย เป็นเงิน 8,008 ราย จากวงเงินทั้งโครงการ 10,000 ล้านบาท มีวงเงินคงเหลือ 1,992 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร