“ศักดิ์สยาม” แจงเบิกจ่ายงบคมนาคม

กรุงเทพฯ 8 ก.ย.-“ศักดิ์สยาม” เปิดแผน “คมนาคม” เบิกจ่ายงบปี 64 วงเงิน 2.27 แสนล้าน อัปเดตโค้งสุดท้าย 11 เดือน ภาพรวมเบิกจ่ายได้ 72.43% วงเงิน 1.65 แสนล้าน คาดสิ้นปีงบฯ  เบิกจ่ายได้ 91% มูลค่าวงเงินแตะ 2 แสนล้าน ชี้เหตุโควิด-ร้องเรียน ฉุดเบิกจ่ายหลุดเป้า ฟาก 5 รัฐวิสาหกิจ คาดเบิกจ่ายได้ 88.04% 


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมเร่งรัดติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2564 ของกระทรวงคมนาคม (งบแผ่นดิน) ผ่านการประชุมทางไกลด้วยระบบ Zoom Cloud Meetings ว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมเพื่อติดตามการดำเนินงาน การลงนามในสัญญา เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2564 ของหน่วยงานในสังกัดฯ ให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้ตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้รับจัดสรรงบประมาณแผ่นดินปี 2564 (8 ส่วนราชการ, 5 รัฐวิสาหกิจ) ในภาพรวม จำนวน 227,899.22 ล้านบาท มีแผนการเบิกจ่ายเงิน (1 ต.ค. 2563-31 ส.ค. 2564) จำนวน 223,148.68 ล้านบาท ซึ่ง ณ สิ้น ส.ค. 2564 มีการเบิกจ่ายเงินแล้ว 165,064.03 ล้านบาท หรือ 72.43% ของงบประมาณที่ได้รับจัดสรร 


นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า กระทรวงคมนาคมได้ประมาณการผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ณ สิ้นปีงบประมาณ 2564 (ก.ย. 2564) กระทรวงคมนาคมจะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ 91% หรือวงเงิน 207,388.29 ล้านบาท ซึ่งจะมีกันงบประมาณไว้ใช้ในปี 2565 วงเงิน 26,350.32 ล้านบาท ซึ่งเบิกจ่ายได้มากกว่าปีงบประมาณ 2563 ประมาณ 12-14% โดยเหตุที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ครบ 100% ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้นั้น สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รวมถึงการร้องเรียนหลังการประกวดราคา ส่งผลให้การดำเนินการมีความล่าช้าด้วย

สำหรับหน่วยงานส่วนราชการที่เบิกจ่ายได้มากที่สุด คือ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) อยู่ที่ 90.91% หรือวงเงิน 231.82 ล้านบาท รองลงมา คือ กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เบิกจ่ายได้ 90.74% หรือวงเงิน 112.28 ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เบิกจ่ายได้ 90% หรือวงเงิน 43,887.30 ล้านบาท ส่วนหน่วยงานส่วนราชการที่เบิกจ่ายได้น้อยที่สุด คือ กรมท่าอากาศยาน (ทย.) เบิกจ่ายได้ 66.64% หรือวงเงิน 3,784 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ในส่วนของงบรายจ่ายลงทุน จำนวน 188,177.30 ล้านบาท มีแผนการเบิกจ่ายเงิน (1 ต.ค. 2563-31 ส.ค. 2564) ให้ครบ 100% ซึ่ง ณ สิ้น ส.ค. 2564 มีการเบิกจ่ายเงินแล้ว 132,819.50 ล้านบาท หรือ 72.42% ของงบประมาณที่ได้รับจัดสรร คงเหลือการเบิกจ่ายอีก 55,357.80 ล้านบาท


สำหรับการลงนามในสัญญารายจ่ายลงทุน กระทรวงคมนาคมมีรายการที่จะต้องลงนามในสัญญาในรายการที่จะต้องลงนามในสัญญา จำนวน 9,853 รายการ วงเงินรวม 98,470.53 ล้านบาท แบ่งเป็น รายจ่ายลงทุนปีเดียว จำนวน 9,606 รายการ วงเงินปี 2564 รวม 84,241 ล้านบาท (รายการรายจ่ายลงทุนปีเดียว รายการลงทุนผูกพันรายการใหม่ และรายการรายจ่ายลงทุนที่มีวงเงินเกิน 1,000 ล้านบาท) 

ทั้งนี้ ณ สิ้น ส.ค. 2564 ลงนามในสัญญาแล้ว 9,600 รายการ วงเงิน 84,164.50 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 6 รายการ วงเงิน 76.48 ล้านบาทจะทยอยการลงนามในสัญญาให้ครบทุกรายการ ภายใน ก.ย. 2564 ซึ่งจะส่งผลให้การเบิกจ่ายงบลงทุนของกระทรวงคมนาคมในแต่ละเดือนเพิ่มสูงขึ้น

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ขณะที่ รายการรายจ่ายลงทุนผูกพันรายการใหม่ 231 รายการ วงเงินปี 2564 จำนวน 10,609.56 ล้านบาท ลงนามแล้ว 183 รายการ วงเงิน 4,990.04 ล้านบาท และยังไม่ลงนาม 48 รายการ วงเงิน 5,619.52 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ภายใน ก.ย. 2564จะลงนามเพิ่มอีก 44 รายการ และลงนามไม่ทันใน จำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย โครงการของกรมทางหลวง (ทล.) 2 โครงการ คือ 1.สายสามแยกปลาลัง-อ.เหนือคลอง ตอน 1 จ.กระบี่ วงเงิน 120 ล้านบาท 

2.สายสามแยกปลาลัง-อ.เหนือคลอง ตอน 2 จ.กระบี่ วงเงิน 140 ล้านบาท, โครงการของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) 1 รายการ คือ ถนนสาย ข1 ผังเมืองรวมเมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ วงเงิน 31.62 ล้านบาท และโครงการของสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม (สปค.) 1 รายการ คือ โครงการปรับปรุงสถานีภาคพื้นของระบบช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย COSPASS-SARSAT ฯ วงเงิน 60 ล้านบาท

ในส่วนของรายการรายจ่ายลงทุน วงเงิน 1,000 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 16 รายการ (วงเงินปี 2564 จำนวน 3,620 ล้านบาท ลงนามแล้ว 10 รายการ วงเงิน 2,108 ล้านบาท และยังไม่ลงนาม 6 รายการ วงเงิน 1,512 ล้านบาท โดยจะลงนามครบภายใน ก.ย. 2564 ประกอบด้วย โครงการของ ทล. จำนวน 5 รายการ และ ทย. 1 รายการ ได้แก่ 1. สาย บ.น้ำปลีก-บ.หนองผือ ตอน 2 จ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี วงเงิน 200 ล้านบาท 2.สายทางเลี่ยงเมืองเชียงของ จ.เชียงราย วงเงิน 220 ล้านบาท 3.สาย อ.สุวรรณภูมิ – ยโสธร จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ วงเงิน 222 ล้านบาท 

4.ทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวงหมายเลข 290 กับทางหลวง หมายเลข 304 จ.นครราชสีมา วงเงิน 316 ล้านบาท 5.สายทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ด้านตะวันออก ตอนแยกทางหลวง หมายเลข 117-บรรจบทางหลวงหมายเลข 225 ตอน 4 จ.นครสวรรค์ วงเงิน 194 ล้านบาท และ 6.งานก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่งพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน และองค์ประกอบอื่นๆ ท่าอากาศยานตรัง วงเงิน 360 ล้านบาท

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ส่วนงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ปี 2564 (5 รัฐวิสาหกิจ) ภาพรวมวงเงินรวม 37,947.65 ล้านบาท ณ สิ้น ส.ค. 2564 มีการเบิกจ่ายเงินแล้ว 28,741.70 ล้านบาท หรือ 75.74% ของวงเงินงบประมาณทั้งปี  โดยรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่สามารถเบิกจ่ายเงินได้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ประมาณการผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ณ สิ้นปีงบประมาณ 2564 (ก.ย. 2564) จะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ 88.04% หรือวงเงิน 33,409.86 ล้านบาท ซึ่งจะมีกันงบประมาณไว้ใช้ในปี 2565 วงเงิน 3,883.33 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผล

นนทบุรี 15 ก.ค. – จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำกำลังเข้าจับกุม สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.147, ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน, รับของโจร ภายในบ้านพักหมู่บ้านหรู ย่านนนทบุรี หลังพบเส้นทางการเงินของอดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โอนเงินเข้าบัญชีสีกากอล์ฟ 3.8 แสนบาท ซึ่งบัญชีโอนเข้าเป็นเงินบัญชีของวัดชูจิตธรรมาราม ขณะนี้ควบคุมตัวสีกากอล์ฟ เข้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ทำการสอบปากคำด้วยตัวเอง ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมขยายผลไปยังผู้ที่มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ โดยจะมีการตรวจสอบคลิปทุกคลิป […]

ยอมสึกแล้ว “เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร” เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ

15 ก.ค. – ยอมสึกแล้ว! พระเทพวัชรสิทธิเมธี เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ หลังมีแชตหลุดคุยหวานสีกา แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด ขณะที่เช้านี้ไร้เงาเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ล่าสุดมีหนังสือลาออกของพระเทพวัชรสิทธิเมธี จากการเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรและเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ส่วนสีกากอล์ฟ มีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป.เพิ่มอีก กรณีเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร หรือเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ยืนยันไม่สึก เพราะไม่เคยมีสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ แต่ไม่ทันข้ามวันมีแชตหลุดคุยหวานสีกากอล์ฟ แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด วันนี้นักข่าวไปที่วัด ปรากฏ “พระล่องหน” ส่วนสีกากอล์ฟมีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป. เพิ่มเติม เสียงการให้สัมภาษณ์ของ พระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ที่เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) ออกมายืนยันยังทำกิจของสงฆ์ต่อเนื่อง รอพระผู้ใหญ่และตำรวจเรียกไปให้ปากคำ เพราะมั่นใจว่าสามารถตอบได้ทุกคำถามที่โยงไปถึงสีกากอล์ฟ มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่คิดสึกจากความเป็นพระ ปรากฏว่าช่วงบ่ายๆ มีแชตหลุดของพระเทพวัชรสิทธิเมธีหลุดออกมา ในแชตเป็นการคุยโต้ตอบกับสีกากอล์ฟ และท่านสวมใส่เสื้อยืด ไม่ใช่จีวรพระ โดยการพูดคุยเริ่มจากบอกว่า “ทำอะไรก็คิดถึงตลอด” แล้วตามมาด้วยข้อความว่า “ภาพนี้อย่าให้หลุดนะ เดี๋ยวเป็นเรื่อง” ส่วนสีกากอล์ฟก็ตอบไปคำเดียวว่า “ค่ะ” เช้านี้ไร้เงา “พระเทพวัชรสิทธิเมธี”วันนี้ (15 ก.ค.) นักข่าวไปหาพระเทพวัชรสิทธิเมธี […]

ศาลออกหมายจับ “ลูกก๊กอาน” พร้อมพวกรวม 6 คน ลุยค้น 7 จุด

15 ก.ค.- ศาลออกหมายจับ “ลูกสาว-ลูกชาย” ก๊กอาน พร้อมพวกรวม 6 คน ข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก่อนลุยค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ตำรวจไซเบอร์รวบรวมพยานหลักฐานคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ พร้อมยื่นศาลออกหมายจับเครือข่ายก๊กอานเพิ่มอีก 6 คน ประกอบด้วย นางจุฬี หรือเชอร์รี่ นางสาวภูเฌหลิน นายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกสาวและลูกชายก๊กอาน และพวกรวม 6 คน ในฐานความผิดการมีส่วนร่วมในองค์อาชญากรรมข้ามชาติ และพบว่าบุคคลตามหมายจับมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย รวมถึงมีการขอศาลออกหมายค้น 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลังศาลออกหมาย นอกจากนี้ ทางกรมปกครองอยู่ระหว่างตรวจสอบความผิดปกติบัตรประชาชนคนไทยของเชอรี่ หลังตำรวจตรวจสอบพบมีข้อมูลน่าสงสัยไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ – สำนักข่าวไทย