พิษโควิด คนไทยช้อปออนไลน์ดันยอดจดทะเบียนโฆษณาพุ่งตาม

นนทบุรี 4 ส.ค.-รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์เผยจากผลกระทบโควิดทำให้คนไทยหันมาช้อปออนไลน์เพียบ ดันยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจโฆษณารายใหม่ครึ่งปีแรกเติบโตตามกระแส แถมพฤติกรรมผู้บริโภคที่อยู่บ้านท่องโลกออนไลน์มากขึ้น


นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป มีการทำงานและเรียนผ่านออนไลน์ที่บ้านมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการใช้งานระบบออนไลน์ การใช้โซเชียลมีเดีย และการรับชมทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย จากสถิติการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือของผู้ใช้งานอายุระหว่าง 16 – 64 ปี ในประเทศไทย พบว่า มีการใช้งานเฉลี่ย 5.07 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก และหากนับรวมการใช้อินเทอร์เน็ตทั้งระบบ คนไทยมีการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ยวันละ 10 ชั่วโมง หรือคิดเป็นร้อยละ 41 ของการใช้เวลาภายใน 1 วัน ดังนั้น ภาคธุรกิจจึงให้ความสำคัญและหันมาประกอบธุรกิจ ทำการตลาดบนโลกออนไลน์มากขึ้น สอดคล้องกับข้อมูลเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัล ปี 2563 ของสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ที่ภาคธุรกิจมีการใช้งบประมาณซื้อสื่อโฆษณาดิจิทัลมูลค่าสูงถึง 21,058 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับปี 2562 (19,555 ล้านบาท) และข้อมูลของบริษัท นีลเส็น ประเทศไทย จำกัด รายงานว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 (มกราคม – มิถุนายน) มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางรวมแล้วจำนวน 53,640 ล้านบาท”

ทั้งนี้ จากข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าในปี 2564 (มกราคม – มิถุนายน) ธุรกิจโฆษณา มีจำนวนการจดทะเบียนฯ ใหม่ ทั้งสิ้น 557 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.59 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 (440 ราย) และทุนจดทะเบียนของธุรกิจโฆษณาในช่วงครึ่งปีแรก ปี 2564 มีจำนวน 893.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.39 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 (560.34 ล้านบาท) เป็นการส่งสัญญาณแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีของธุรกิจโฆษณาในประเทศไทย”


 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีธุรกิจโฆษณาที่ดำเนินกิจการอยู่จำนวนทั้งสิ้น 10,293 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.28 ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินกิจการอยู่ และมูลค่าทุนรวม 52,668.81 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.27 ของมูลค่าทุนธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ ส่วนใหญ่ดำเนินกิจการในรูปแบบบริษัทจำกัด จำนวน 8,868 ราย คิดเป็นร้อยละ 86.15 มูลค่าทุนรวม 43,541.39 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 82.67 ธุรกิจโฆษณาส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 6,365 ราย คิดเป็นร้อยละ 61.84 รองลงมาคือ ภาคกลาง 1,990 ราย คิดเป็นร้อยละ 19.33 ภาคเหนือ 598 ราย คิดเป็นร้อยละ 5.81 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 435 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.23 ภาคใต้ 426 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.14 ภาคตะวันออก 368 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.58 และภาคตะวันตก 111 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.08

 นอกจากนี้ ในส่วนของนักลงทุนชาวต่างชาติที่เข้ามาประกอบธุรกิจโฆษณาในประเทศไทย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 มีมูลค่าการลงทุนจำนวน 3,804.31 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7.23 ของการลงทุนในธุรกิจโฆษณา โดยสัญชาติที่เข้ามาลงทุนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อเมริกัน 1,689.05 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.21 จีน 408.70 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.78 และ เยอรมัน 345.70 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.66 ปัจจัยสนับสนุนให้ธุรกิจโฆษณาดิจิทัลมีอัตราการเติบโตที่ดี คือ ภาคธุรกิจสามารถเลือกช่องทางการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากขึ้น มีแพลตฟอร์มที่เข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว และการมีเทคโนโลยีที่สามารถรองรับให้ผู้บริโภคเปิดรับสื่อได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่องทางโซเชียลมีเดียที่มีการเติบโตของการลงเงินโฆษณาถึงร้อยละ 20 โดยสื่อดิจิทัลที่มีเม็ดเงินการลงทุนในปี 2564 ได้แก่ Facebook ร้อยละ 32, YouTube ร้อยละ 23 และ TikTok มีแนวโน้มการเติบโตสูงอยู่ที่ร้อยละ 21 การลงทุนในแต่ละสื่อมีมูลค่าเม็ดเงินสูงถึงพันล้านบาท โดยการโฆษณาทางโซเชียลมีเดียในปัจจุบันมีความเหมาะสมกับกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีหรือผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นดำเนินธุรกิจ เนื่องจากเป็นช่องทางการสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างสะดวกรวดเร็วและใช้เงินลงทุนที่ไม่สูงมากนัก โดยการดำเนินธุรกิจโฆษณาต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นลำดับแรก การเลือกช่องทางการสื่อสาร การเลือกช่วงเวลา และความถี่ที่เหมาะสม รวมทั้งการคิดนอกกรอบในการสร้างสรรค์สื่อโฆษณา เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลายเข้าใจในคุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือสินค้าของลูกค้าได้อย่างแท้จริง จะทำให้ธุรกิจโฆษณาสามารถอยู่รอดในตลาดและสามารถแข่งขันได้อย่างสมบูรณ์และยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

บุญทรงรายงานตัว

“บุญทรง” รายงานตัวครั้งแรกหลังได้พักโทษ

“บุญทรง” รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติครั้งแรก หลังได้รับการพักโทษจากคดีทุจริตจำนำข้าว ด้านลูกชายเผยพ่อตั้งใจบวชหลังพ้นโทษ

ชุมนุมเกาหลีใต้

นายกฯ ขอคนไทยในเกาหลีใต้ เลี่ยงพื้นที่ชุมนุม

“นายกฯ แพทองธาร” ขอคนไทยในเกาหลีใต้ ระมัดระวังหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม ติดตามข่าวสถานทูตใกล้ชิด หวังสถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว

อัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว

อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีนสู่ไทย

“ชูศักดิ์” นำคณะผู้แทนไทยเดินทางไปยังวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในไทยเป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง ระหว่าง 5 ธ.ค. 67 – 14 ก.พ. 68

ต้มยำกุ้งมรดกโลก

“ต้มยำกุ้ง” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมฯ ยูเนสโก

เฮ! “ต้มยำกุ้ง” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมฯ โดยยูเนสโก ด้านนายกฯ เชิญชวนลิ้มลองรสชาติความอร่อย มั่นใจเป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ไทย สร้างความมั่นคงด้านอาหาร สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน