คมนาคม เตรียมพร้อมการเดินทางรับการเปิดประเทศ


กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – “ศักดิ์สยาม” นั่งหัวโต๊ะติดตาม-แก้ไขอุปสรรค เตรียมพร้อม รับการเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาล


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมกำกับ ติดตาม แก้ไขปัญหาอุปสรรค ให้มีความพร้อมในการเปิดประเทศ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามนโยบายรัฐบาล ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการดำเนินงานด้านคมนาคม เพื่อรองรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามแนวทาง ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และการเตรียมความพร้อมด้านคมนาคมตามแนวทาง สมุย พลัส โมเดล และพื้นที่อื่นๆ อาทิ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และกระบี่ ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ ผ่านการท่องเที่ยวตามมาตรฐานทางด้านสาธารณสุขที่เข้มงวดเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการ ตามแนวทางภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 1-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พบว่า มีเที่ยวบินขาเข้าสะสม รวม 111 เที่ยวบิน ผู้โดยสารสะสม รวม 9,138 คน ประกอบด้วย นักท่องเที่ยวต่างชาติ 7,968 คน และนักท่องเที่ยวชาวไทย 1,170 คน และรายงานการเตรียมความพร้อมด้านคมนาคมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามแนวทางสมุยพลสโมเดล ซึ่งเปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ตามเส้นทางที่กำหนด แบบมีเงื่อนไข ตามมาตรการ D-M-H-T-T-A ก่อนเดินทางไปยังจังหวัดอื่น ๆ หรือเดินทางออกนอกราชอาณาจักร รวมทั้งรายงานแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่อื่นๆ อาทิ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และกระบี่


นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ทั้งนี้ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 มิติ บก ราง น้ำ และอากาศ ได้เตรียมมาตรการ และรายงานผลการดำเนินงาน ตลอดจนมาตรการการแก้ไขปัญหา อาทิ การปฏิบัติงานของท่าอากาศยานภูเก็ตในการรองรับผู้โดยสารต่างประเทศ การปฏิบัติงานของขนส่งจังหวัดภูเก็ตที่ต้องใช้มาตรการในการกำกับอัตราค่าโดยสารรถยนต์สาธารณะ และการเข้มงวดการเดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ต ผ่านระบบคัดกรองโดยผู้เดินทางต้องได้รับวัคซีนตามข้อกำหนดที่จังหวัดภูเก็ตได้ออกประกาศไว้

การบริหารจัดการท่าเทียบเรือเพื่อรองรับเรือส่วนบุคคลจากต่างประเทศได้กำหนดท่าเทียบเรือไว้ 6 ท่า จากท่าเรือที่มีอยู่ 20 ท่า ในจังหวัดภูเก็ต เป็นท่าเรือในการคัดกรองรองรับการเดินทางตามมาตรการตรวจคนเข้าเมืองและสาธารณสุข ในส่วนการกำกับการเดินทางทางรางในขณะนี้เน้นการคัดกรองและดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข เพื่อรองรับการเดินทางไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งการเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวในครั้งนี้ จะเป็นผลดีต่อการประเมินผลการปฏิบัติ และซักซ้อมเป็นแนวทางการปฏิบัติในพื้นที่อื่นๆ ในระยะต่อไป เมื่อมีการเปิดประเทศในช่วงที่มีความพร้อม และเพื่อให้หน่วยงานปฏิบัติดำเนินการตามมาตรการต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า จากการประชุมดังกล่าวได้รับทราบความคืบหน้า และได้มอบหมายสั่งการเพื่อแก้ไขปัญหาในการดำเนินงาน ดังนี้


1.ให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการทำประชาสัมพันธ์เชิงรุกในทุกมิติ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบการดำเนินงานที่แท้จริง ซึ่งจะทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการใช้บริการ และสามารถลดการบิดเบือนของข้อมูลที่ไม่เป็นจริงตาม Social Media ได้อีกทางหนึ่งด้วย

2.ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ของทุกหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการด้านความปลอดภัยและสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด 3.ให้หน่วยงานในพื้นที่ทุกหน่วยงานกำกับดูแลผู้ประกอบการในความรับผิดชอบอย่างใกล้ชิด โดยรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการและประชาชนด้วยเหตุและผล เพื่อนำมาแก้ไขอย่างตรงประเด็นและรวดเร็ว ทั้งนี้ หากมีปัญหาใดที่ต้องการให้ส่วนกลางช่วยแก้ไขสามารถประสานงานเข้ามาที่กระทรวงคมนาคมหรือหน่วยงานส่วนกลางได้ และ 4.ให้ทุกหน่วยงานพิจารณานำแนวทางการดำเนินงานใน ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มากำหนดใช้ในสมุยโมเดลพลัส เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติงานต่อไป

“กระทรวงฯ ได้ตระหนักถึงสภาพการณ์ในปัจจุบัน แต่เพื่อให้หน่วยงานปฏิบัติ มีความพร้อมต่อการรองรับสถานการณ์และเตรียมพร้อมหากเมื่อมีการเปิดประเทศในระยะต่อไป จึงได้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินผล เพื่อให้เกิดแนวทางที่มีประสิทธิภาพต่อการปฏิบัติงานในอนาคต และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน กระทรวงคมนาคมจึงได้ให้ความสำคัญ ต่อการเตรียมความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในครั้งนี้” นายศักดิ์สยาม กล่าว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.ออกแถลงการณ์กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

30 ก.ค.- กองทัพบกออกแถลงการณ์ กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเป็นครั้งที่สอง บ่อนทำลายการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี ขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบ ย้ำจะดำเนินการอย่างเหมาะสม เด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยไทย ตามที่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการประกาศหยุดยิง เพื่อยุติการปะทะทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 นาฬิกา ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นั้น กองทัพบกขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยได้ระงับการใช้กำลังทุกรูปแบบ และลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ในวันที่ 29 – 30 กรกฎาคม 2568 กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การกระทำของกองทัพกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง นับเป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่างสองประเทศ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายไทยจะยังคงดำรงตนอยู่บนหลักแห่งความอดกลั้น สันติภาพ และมนุษยธรรมอย่างสูงสุด อย่างไรก็ดี หากมีการละเมิดต่อเนื่อง กองทัพบกจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยไม่ละเว้น จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน -สำนักข่าวไทย

กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เปิดแนวปะทะพื้นที่ “อานม้า-ภูมะเขือ”

30 ก.ค. – กัมพูชากลับกลอก ละเมิดข้อตกลงอีก เปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ “อานม้า และภูมะเขือ” ขณะที่ ทบ.เผยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็ก สลับระเบิดขว้าง เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อนอีกแล้ว ละเมิดข้อตกลงถึง 2 ครั้ง โดยเปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ที่ อานม้า และภูมะเขือ ทบ.เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กสลับระเบิดขว้าง โดยเมื่อเวลา 20.45 น. แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงรายงานว่า ช่องอานม้า มีเหตุปะทะ กัมพูชาเปิดฉากยิง หวังยึดพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้ ขณะที่ช่วงเวลา 22.19 น. พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้นเกิดเหตุปะทะที่ภูมะเขือ และช่องอานม้า โดยมีปืนเล็กกับระเบิดขว้างเข้ามาที่ฐานฝั่งไทย ประมาณ 30 นาที ขณะที่เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์ไม่ต้องนอน ตามคาด! กัมพูชาละเมิดอีกแล้ว อานม้าปะทะภูมะเขือ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย