รัฐสภา 16 ก.ค.-“หมอระวี” จี้ รัฐบาลต้องเจรจากับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ให้ส่งวัคซีนตามกำหนดเดิม ถ้ายังเฉยให้ดำเนินคดีตามกม.
นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ขอสนับสนุนรัฐบาลการเจรจากับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ให้จัดส่งวัคซีนให้ไทยตามไทม์ไลน์ที่รัฐบาลไทยแจ้งไว้ตั้งแต่แรก เพราะจากการตกลงล่วงหน้าระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าในการจองซื้อรวม 61 ล้านโดส พร้อมกับส่งไทม์ไลน์การขอให้จัดส่งวัคซีนให้ไทยตั้งแต่แรก และทางบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าไม่ได้ตอบปฏิเสธแต่ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าจำนวนมาก ยิ่งทำให้ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องได้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าตามกำหนด
“ตามข้อตกลงเดือนนี้ไทยต้องได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจำนวน 10 ล้านโดส แต่ปรากฏว่าทางบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าไม่สามารถจัดส่งวัคซีนให้ไทยได้ตามกำหนด ด้วยเหตุผลที่ต้องส่งออกไปให้ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน ผมจึงขอสนับสนุนให้รัฐบาลไทยเจรจากับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อขอให้จัดส่งวัคซีนให้ไทยตามแผนงานเดิมที่กำหนดไว้ เพราะการเจรจาครั้งนี้ รัฐบาลไทยเพียงแต่ขอให้บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าจัดส่งวัคซีนให้ตามไทม์ไลน์ที่ตกลงกันแล้วเท่านั้น ไทยไม่ได้ขอให้งดการส่งออกทั้งหมด บริษัทแอสตร้าเซนเนก้ายังสามารถส่งวัคซีนจำนวนที่เหลือได้ตามปกติ ซึ่งการที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ไม่ส่งมอบวัคซีนให้ไทยในภาวะวิกฤติที่มีการระบาดของเชื้อเดลต้ามาก ที่บังคับให้รัฐบาลไทยต้องใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแทนซิโนแวค จึงมีความจำเป็นอย่างที่สุดที่ต้องขอให้ทางบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ส่งวัคซีนให้ไทยตามข้อตกลง เพราะการแจ้งเลื่อนการส่งวัคซีนฉุกละหุกแบบนี้ไทยไม่สามารถติดต่อสั่งซื้อวัคซีนอื่นมาแทนได้ทัน” นพ.ระวี กล่าว
นพ.ระวี กล่าวว่า มีบทเรียนจากประเทศอินเดีย ที่มีกำลังการผลิตวัคซีนถึง 200 ล้านโดสต่อเดือน และทุกบริษัทในอินเดียก็มีสัญญาส่งให้ภายในประเทศ และส่งออกภายนอกประเทศ เมื่อการระบาดโควิดสายพันธุ์เดลต้าอย่างรุนแรง รัฐบาลอินเดียตัดสินใจระงับการส่งออกว่าวัคซีนทั้งหมด 100% ต้องใช้ภายในประเทศเท่านั้น รัฐบาลอินเดียก็ได้ทำมาแล้ว โดยไม่สนใจประชาคมโลกที่จองวัคซีน และปัจจุบันนี้ที่การระบาดในอินเดียลดลงมาแล้ว เขาก็ยังไม่ยอมให้มีการส่งออก รัฐบาลอินเดียตั้งเป้าต้องฉีดวัคซีนให้ชาวอินเดียให้ได้เป็น1,000 ล้านคน จึงจะยอมให้ส่งออกวัคซีนได้
“ในอดีตที่รัฐบาลไทยถูกเรียกร้องให้จัดซื้อวัคซีนต่าง ๆ ที่หลากหลาย มีคนโจมตีวัคซีนทั้งซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า แต่รัฐบาลไทยก็ตัดสินใจเลือกแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนหลัก 61 ล้านโดส และยืนยันมาจนถึงทุกวันนี้ แต่พอวิกฤติ บริษัทแอสตร้าเซนเนก้ากลับจะมาทิ้งประเทศไทยแบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การเจรจาด้วยเหตุด้วยผลระหว่างสองฝ่ายเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ที่รัฐบาลควรจะทำ สุดท้าย ถ้าการเจรจาแบบมีเหตุมีผลไม่ได้รับการตอบสนอง ผมสนับสนุนให้รัฐบาลไทยต้องเลือกดำเนินการตามกฏหมายที่มี เพื่อบังคับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าให้ดำเนินการตามที่ตกลงกันไว้ # THAILAND FIRST” นพ.ระวี กล่าว.-สำนักข่าวไทย