“วีริศ” เผย 4 โปรเจกต์ด่วน เดินหน้างาน กนอ.


กรุงเทพฯ 28 พ.ค. – ผู้ว่าการ กนอ.เผย 4 โปรเจกต์เร่งด่วน ขับเคลื่อน กนอ.ทั้งการเร่งดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ เดินหน้าก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) หลังญี่ปุ่นปักหมุดสนใจ


นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เผย ถึงภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ หลังเข้ารับตำแหน่ง ว่า ได้เปิดแผนการดำเนินงานไว้ 6 ด้าน และคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าในระยะ 3-4 เดือนต่อจากนี้ สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา (COVID 2019) จะคลี่คลาย และสภาพเศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัว เนื่องจากในหลายประเทศทั่วโลก และประเทศมหาอำนาจ เช่น สหภาพยุโรป อังกฤษ และจีน ต่างก็เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศ และเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ แล้ว ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เห็นได้จากการที่ประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่เริ่มหาแนวทางลงทุนในต่างประเทศแล้ว เช่น สหรัฐฯ จีน รวมทั้งญี่ปุ่น ซึ่ง กนอ.ก็จะใช้โอกาสในการแสวงหาการลงทุนเหล่านี้ด้วยเช่นกัน โดยการทำการตลาดออนไลน์และประสานงานกับสถานทูตของประเทศกลุ่มเป้าหมายนำหน้าไปก่อน

อย่างไรก็ตาม ยังถือเป็นโอกาสที่ดีของ กนอ.ที่นักลงทุนที่ได้จองเช่าและซื้อที่ดินไว้ก่อนหน้าได้เริ่มเข้ามาดำเนินกิจการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ส่งผลให้มูลค่าการลงทุนในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค.63-เม.ย.64) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 153.36 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ต.ค.62-เม.ย.63) ที่มีมูลค่าสูงถึง 113,393.90 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 68,637.75 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็นการลงทุนในพื้นที่อีอีซี 102,176.52 ล้านบาท และนอกพื้นที่อีอีซี 11,217.52 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน รวม 8,783 คน ขณะที่ยอดขาย/เช่าพื้นที่ในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวน 773.20 ไร่ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ขายได้ 1620 ไร่ ประมาณ 847.24 ไร่ ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนไม่สามารถเดินทางเข้ามาดูพื้นที่ได้ ดังนั้นในปี 2564 กนอ.จึงได้ปรับเป้าประมาณการณ์ขาย/เช่าที่ดินของปีนี้ลงจากเดิมที่ตั้งไปไว้ที่ 1,500 ไร่ เหลือ 1,200 ไร่


“ปี 64 กนอ.จะมีการปรับลดเป้าการซื้อ/ขาย ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมลง เหลือประมาณ 1,200 ไร่ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติ ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผมยังเชื่อว่าภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้น เห็นจากการที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) มีการเปิดเผยตัวเลขดัชนีอุตสาหกรรมและ GDP ที่เพิ่มขึ้น และการที่นิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินการ อย่างเช่น บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เห็นพ้องต้องกันว่า เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเริ่มฟื้นตัวแน่นอน”นายวีริศ กล่าว

ทั้งนี้ กนอ.มีโปรเจกต์ที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะโครงการการก่อสร้างและพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค ที่ล่าสุดนักลงทุนให้ความสนใจที่จะมาลงทุน โดยเฉพาะในเรื่องของพลังงานทางเลือก ซึ่งปัจจุบันโครงการฯ มีความคืบหน้าในเรื่องของการจัดหาบริษัทที่จะมาดำเนินการก่อสร้าง ที่คาดว่าไม่เกิน 6 เดือน- 1 ปี น่าจะเริ่มการก่อสร้างได้

ขณะเดียวกันในส่วนของการบริหารจัดการความเสี่ยงเรื่องสาธารณูปโภคโดยเฉพาะเรื่องน้ำในพื้นที่อีอีซี ได้มีการหารือกันในเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการหาแหล่งน้ำสำรอง โดยที่ กนอ.อาจไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตามต้องศึกษาถึงแนวทางความเป็นไปได้ในเบื้องต้นก่อน
เช่นเดียวกับการจัดตั้งบริษัทลูกของ กนอ.เพื่อต่อยอดการทำธุรกิจ อยู่ระหว่างการเร่งศึกษาจะเป็นลักษณะของการร่วมลงทุน โดยที่ต้องศึกษาในแนวทาง และจัดตั้งทีมดำเนินงาน และอาจตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญพิเศษเข้ามาดำเนินการได้ โดยจะดูเป็นรายโปรเจกต์ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการจัดตั้งทีม ประมาณ 6 เดือน- 1 ปี น่าจะได้เห็นเป็นรูปธรรมได้ รวมถึงแนวทางธุรกิจใหม่ๆ ของ กนอ.ในอนาคตด้วย โดยที่ทุกการดำเนินการต้องอยู่ในกรอบที่รับได้ และไม่เกิดข้อผิดพลาดเช่นเดียวกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เคยได้ดำเนินการมาในอดีต


“จากที่ได้เข้ามาเริ่มงาน จนถึงวันนี้ 1 เดือน กับอีก 8 วัน มีเรื่องที่ตั้งเป้าดำเนินการใหญ่ๆ 4 เรื่อง และเรื่องเร่งด่วนคือ เรื่องวัคซีนโควิด -19 ที่เบื้องต้น ได้ทำการขอไปแล้วว่านิคมฯ จะใช้ประมาณ 1 ล้านโดส โดยจะเป็นการฉีดให้กับทุกนิคมฯที่ขอเข้ามา โดยแต่ละนิคมฯ ต้องประสานกับทางสาธารณสุขจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด โดย กนอ.อาสาเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนให้นิคมอุตสาหกรรมที่ได้ประสานไว้เบื้องต้น ซึ่งขณะนี้มี 3 นิคมฯ ที่ได้ขึ้นทะเบียนไปแล้ว อย่างไรก็ตามคงต้องรอให้ได้รับวัคซีนจากทางกรมควบคุมโรคก่อน”นายวีริศ กล่าว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]