ชัวร์ก่อนแชร์ : ภาพโรงพยาบาลสนามรัฐ กับงบประมาณ 239 ล้าน จริงหรือ ?

20 พฤษภาคม 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริง / เรียบเรียง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, กลาง ณัฐนที

บนสังคมออนไลน์แชร์ข้อมูลว่า รัฐบาลสร้างโรงพยาบาลสนาม 1,092 เตียง ใช้งบประมาณ 239 ล้านบาท พร้อมกับภาพโรงพยาบาลสนามแห่งหนึ่งที่ไม่มีฉากกั้น และที่เก็บของนั้น ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบแล้วพบว่า “ไม่เป็นความจริง”

บทสรุป : ไม่จริง เป็นการโยงมั่ว ไม่ควรแชร์ต่อ
• ภาพและข้อความที่แชร์ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
• ภาพโรงพยาบาลสนามที่ถูกแชร์ คือโรงพยาบาลสนาม ที่จังหวัดสมุทรสาคร มีจำนวน 350 เตียง
• โรงพยาบาลสนาม 1,092 เตียง คือโรงพยาบาลสนามบุษราคัม มีศักยภาพในการรักษาระดับโรงพยาบาล

ข้อมูลที่ถูกแชร์
ภาพโรงพยาบาลสนาม 2 แห่ง ถูกแชร์มาพร้อมกับข้อความระบุว่า อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังรายหนึ่ง สร้างโรงพยาบาลสนาม 50 เตียง ด้วยงบประมาณ 170,000 บาท (เฉลี่ยค่าใช้จ่ายเตียงละ 3,400 บาท) ซึ่งมีฉากกั้น, ตู้เก็บของ, เครื่องนอน, ทำฝ้า, ติดไฟ และมุ้งลวด ให้พร้อม ในขณะที่รัฐบาลสร้างโรงพยาบาลสนาม 1,092 เตียง ใช้งบประมาณมากถึง 239,280,000 บาท (เฉลี่ยค่าใช้จ่ายเตียงละ 220,000 บาท) แต่ไม่มีฉากกั้น และที่เก็บของ ภาพและข้อความดังกล่าวถูกแชร์ต่ออย่างแพร่หลายบนสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะบน Facebook, Twitter, Instagram และ Line นอกจากนี้ยังมีเพจ Facebook ชื่อดัง นำข้อมูลไปเผยแพร่ต่อ ทำให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความสงสัย และต้องการทราบข้อเท็จจริงของเรื่องนี้


FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ภาพและข้อความที่แชร์ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน โดยโรงพยาบาลสนาม 1,092 เตียง คือ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีศักยภาพในการรักษาระดับโรงพยาบาล มีความพร้อมด้านยา เวชภัณฑ์ เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ฆ่าเชื้อในอากาศ เครื่องออกซิเจน ฯลฯ ซึ่งไม่ใช่โรงพยาบาลสนามในภาพที่แชร์กันแต่อย่างใด

ข้อเท็จจริง ของภาพโรงพยาบาลสนามที่ถูกแชร์
ส่วนภาพโรงพยาบาลสนามที่แชร์กัน เป็นภาพของ “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 4” หรือโรงพยาบาลสนาม ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีจำนวน 350 เตียง มีความพร้อมเรื่องเตียง, เครื่องนอน, ห้องน้ำ, ห้องอาหาร, สถานที่พักผ่อน รวมถึงระบบกำจัดของเสียที่เป็นไปตามหลักสุขอนามัยที่ถูกต้อง ผู้ที่เข้ากักตัวในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้คือ แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่มีสถานที่กักตัวเพื่อรอดูอาการ ทั้งนี้ ไม่ใช่โรงพยาบาลสนาม 1,092 เตียง ที่ใช้งบประมาณ 239.28 ล้านบาท อย่างที่มีการแชร์กัน

ข้อเท็จจริงของ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม
เว็บไซต์รัฐบาลไทย และ เว็บไซต์สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รายงานตรงกันว่า “โรงพยาบาลสนามบุษราคัม” เป็นโรงพยาบาลสนามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี สามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 5,200 เตียง แบ่งเป็น อาคาร 1-2 อาคารละ 2,000 เตียง และอาคาร 3 สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ ภายในจะตั้งเต็นท์ความดันลบ มีเครื่องช่วยหายใจ สามารถรองรับได้ 1,200 เตียง (เฟสแรก 1,092 เตียง) ทั้งนี้ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม มีความพร้อมด้านยา เวชภัณฑ์ เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ฆ่าเชื้อในอากาศ เครื่องออกซิเจน เครื่องอุปโภคจากเอกชน และระดมบุคลากรทางการแพทย์จากทั่วประเทศร่วมดูแล รวมมูลค่ากว่า 239.28 ล้านบาท

โรงพยาบาลสนามบุษราคัม เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองที่มีอาการน้อยถึงปานกลางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ลดความรุนแรง ลดการเสียชีวิต และช่วยให้โรงพยาบาลในเขตกรุงเทพมหานครมีเตียงรองรับผู้ป่วยอาการหนักได้อย่างเต็มที่ โดยใช้เวลาในการจัดตั้งเพียง 7 วัน (7 – 14 พฤษภาคม 2564) นอกจากพื้นที่รักษาพยาบาลแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับพักผ่อน ดูหนัง ออกกำลังกาย มีเครื่องฟอกอากาศ ทำให้ระบายอากาศได้ดี ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต มีระบบจัดการและป้องกันเชื้อไม่ให้แพร่กระจายสู่ภายนอก

ดีอีเอสจ่อเอาผิดผู้เผยแพร่ข้อมูลเท็จ
สำนักข่าวไทย อสมท รายงานเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ว่า นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เตรียมเอาผิดกับผู้เผยแพร่ข้อมูลเท็จดังกล่าว พร้อมสั่งให้ลบโพสต์โดยเร็วที่สุด รวมถึงให้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบ มิเช่นนั้นจะดำเนินการเอาผิดทางกฏหมาย

บทสรุป : ไม่จริง เป็นการโยงมั่ว ไม่ควรแชร์ต่อ
ภาพและข้อความที่แชร์ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ภาพที่ถูกแชร์ เป็นภาพโรงพยาบาลสนามที่จังหวัดสมุทรสาคร แต่แชร์มาพร้อมกับข้อความที่ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรงพยาบาลบุษราคัมที่ใช้พื้นที่อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

ข้อมูลอ้างอิง :
https://fb.watch/5B_36X5Dmh/
https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/all/04/158199
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/41488
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1041173383051717&id=330792914089771
https://web.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/photos/a.717595134932676/6208432175848917/
https://tna.mcot.net/techsci-698833

🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]