ชัวร์ก่อนแชร์ : ภาพโรงพยาบาลสนามรัฐ กับงบประมาณ 239 ล้าน จริงหรือ ?

20 พฤษภาคม 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริง / เรียบเรียง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, กลาง ณัฐนที

บนสังคมออนไลน์แชร์ข้อมูลว่า รัฐบาลสร้างโรงพยาบาลสนาม 1,092 เตียง ใช้งบประมาณ 239 ล้านบาท พร้อมกับภาพโรงพยาบาลสนามแห่งหนึ่งที่ไม่มีฉากกั้น และที่เก็บของนั้น ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบแล้วพบว่า “ไม่เป็นความจริง”

บทสรุป : ไม่จริง เป็นการโยงมั่ว ไม่ควรแชร์ต่อ
• ภาพและข้อความที่แชร์ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
• ภาพโรงพยาบาลสนามที่ถูกแชร์ คือโรงพยาบาลสนาม ที่จังหวัดสมุทรสาคร มีจำนวน 350 เตียง
• โรงพยาบาลสนาม 1,092 เตียง คือโรงพยาบาลสนามบุษราคัม มีศักยภาพในการรักษาระดับโรงพยาบาล

ข้อมูลที่ถูกแชร์
ภาพโรงพยาบาลสนาม 2 แห่ง ถูกแชร์มาพร้อมกับข้อความระบุว่า อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังรายหนึ่ง สร้างโรงพยาบาลสนาม 50 เตียง ด้วยงบประมาณ 170,000 บาท (เฉลี่ยค่าใช้จ่ายเตียงละ 3,400 บาท) ซึ่งมีฉากกั้น, ตู้เก็บของ, เครื่องนอน, ทำฝ้า, ติดไฟ และมุ้งลวด ให้พร้อม ในขณะที่รัฐบาลสร้างโรงพยาบาลสนาม 1,092 เตียง ใช้งบประมาณมากถึง 239,280,000 บาท (เฉลี่ยค่าใช้จ่ายเตียงละ 220,000 บาท) แต่ไม่มีฉากกั้น และที่เก็บของ ภาพและข้อความดังกล่าวถูกแชร์ต่ออย่างแพร่หลายบนสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะบน Facebook, Twitter, Instagram และ Line นอกจากนี้ยังมีเพจ Facebook ชื่อดัง นำข้อมูลไปเผยแพร่ต่อ ทำให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความสงสัย และต้องการทราบข้อเท็จจริงของเรื่องนี้


FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ภาพและข้อความที่แชร์ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน โดยโรงพยาบาลสนาม 1,092 เตียง คือ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีศักยภาพในการรักษาระดับโรงพยาบาล มีความพร้อมด้านยา เวชภัณฑ์ เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ฆ่าเชื้อในอากาศ เครื่องออกซิเจน ฯลฯ ซึ่งไม่ใช่โรงพยาบาลสนามในภาพที่แชร์กันแต่อย่างใด

ข้อเท็จจริง ของภาพโรงพยาบาลสนามที่ถูกแชร์
ส่วนภาพโรงพยาบาลสนามที่แชร์กัน เป็นภาพของ “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 4” หรือโรงพยาบาลสนาม ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีจำนวน 350 เตียง มีความพร้อมเรื่องเตียง, เครื่องนอน, ห้องน้ำ, ห้องอาหาร, สถานที่พักผ่อน รวมถึงระบบกำจัดของเสียที่เป็นไปตามหลักสุขอนามัยที่ถูกต้อง ผู้ที่เข้ากักตัวในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้คือ แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่มีสถานที่กักตัวเพื่อรอดูอาการ ทั้งนี้ ไม่ใช่โรงพยาบาลสนาม 1,092 เตียง ที่ใช้งบประมาณ 239.28 ล้านบาท อย่างที่มีการแชร์กัน

ข้อเท็จจริงของ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม
เว็บไซต์รัฐบาลไทย และ เว็บไซต์สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รายงานตรงกันว่า “โรงพยาบาลสนามบุษราคัม” เป็นโรงพยาบาลสนามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี สามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 5,200 เตียง แบ่งเป็น อาคาร 1-2 อาคารละ 2,000 เตียง และอาคาร 3 สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ ภายในจะตั้งเต็นท์ความดันลบ มีเครื่องช่วยหายใจ สามารถรองรับได้ 1,200 เตียง (เฟสแรก 1,092 เตียง) ทั้งนี้ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม มีความพร้อมด้านยา เวชภัณฑ์ เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ฆ่าเชื้อในอากาศ เครื่องออกซิเจน เครื่องอุปโภคจากเอกชน และระดมบุคลากรทางการแพทย์จากทั่วประเทศร่วมดูแล รวมมูลค่ากว่า 239.28 ล้านบาท

โรงพยาบาลสนามบุษราคัม เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองที่มีอาการน้อยถึงปานกลางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ลดความรุนแรง ลดการเสียชีวิต และช่วยให้โรงพยาบาลในเขตกรุงเทพมหานครมีเตียงรองรับผู้ป่วยอาการหนักได้อย่างเต็มที่ โดยใช้เวลาในการจัดตั้งเพียง 7 วัน (7 – 14 พฤษภาคม 2564) นอกจากพื้นที่รักษาพยาบาลแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับพักผ่อน ดูหนัง ออกกำลังกาย มีเครื่องฟอกอากาศ ทำให้ระบายอากาศได้ดี ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต มีระบบจัดการและป้องกันเชื้อไม่ให้แพร่กระจายสู่ภายนอก

ดีอีเอสจ่อเอาผิดผู้เผยแพร่ข้อมูลเท็จ
สำนักข่าวไทย อสมท รายงานเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ว่า นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เตรียมเอาผิดกับผู้เผยแพร่ข้อมูลเท็จดังกล่าว พร้อมสั่งให้ลบโพสต์โดยเร็วที่สุด รวมถึงให้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบ มิเช่นนั้นจะดำเนินการเอาผิดทางกฏหมาย

บทสรุป : ไม่จริง เป็นการโยงมั่ว ไม่ควรแชร์ต่อ
ภาพและข้อความที่แชร์ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ภาพที่ถูกแชร์ เป็นภาพโรงพยาบาลสนามที่จังหวัดสมุทรสาคร แต่แชร์มาพร้อมกับข้อความที่ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรงพยาบาลบุษราคัมที่ใช้พื้นที่อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

ข้อมูลอ้างอิง :
https://fb.watch/5B_36X5Dmh/
https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/all/04/158199
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/41488
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1041173383051717&id=330792914089771
https://web.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/photos/a.717595134932676/6208432175848917/
https://tna.mcot.net/techsci-698833

🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]