คปภ.คลอดประกันโควิดคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์

กรุงเทพฯ 11 พ.ค. – คปภ.คลอดประกันโควิดคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์โดยเฉพาะ พร้อมนำสองสมาคมประกันภัย และไทยเบฟฯ เข้าพบนายกฯ ประยุทธ์ เพื่อร่วมกันส่งมอบประกันโควิดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่รวม 2.7 แสนราย เงินเอาประกันกว่า 2.75 แสนล้านบาท


นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) ได้เข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของสำนักงาน คปภ. สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย มูลนิธิสิริวัฒนภักดี มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เพื่อมอบกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้บุคลากรดังกล่าว โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติรับมอบกรมธรรม์ประกันภัย เพื่อส่งมอบแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ เหมือนกับที่เคยได้พูดไว้ว่าพวกเราต้องชนะไปด้วยกัน โดยเฉพาะการดูแลบุคลากร ทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในส่วนหน้า

เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า ตามที่ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก. ศบค.) ได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ถึงแนวทางการจัดทำประกันภัยคุ้มครองให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งเป็นผู้เสียสละต้องปฏิบัติงานตามหน้าที่ด้วยความเสี่ยงเพื่อปกป้องประชาชนไทย ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำนักงาน คปภ. จึงได้บูรณาการร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย และสมาคมประกันชีวิตไทย พัฒนาแบบกรมธรรม์ประกันภัยโดยเฉพาะสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งคุ้มครองการเสียชีวิต/ภาวะโคม่าเนื่องจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และผลประโยชน์กรณีตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งตน ในฐานะนายทะเบียนได้เห็นชอบแบบกรมธรรม์ประกันภัยและอัตราเบี้ยประกันภัยแล้ว โดยมีสำนักงาน คปภ. สมาคมประกันวินาศภัยไทย และสมาคมประกันชีวิตไทย มูลนิธิสิริวัฒนภักดี มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันสนับสนุนค่าเบี้ยประกันภัย ทั้งหมดกว่า 38,000,000 บาท เพื่อคุ้มครองภัยจากการติดเชื้อ COVID-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 270,000 ราย วงเงินความคุ้มครอง 275,410 ล้านบาท โดยแต่ละรายจะได้รับความคุ้มครองจาก 3 กรมธรรม์ ดังนี้


  1. กรมธรรม์คุ้มครองการเสียชีวิต ระยะเวลาคุ้มครอง 2 เดือน นับตั้งแต่วันที่แจ้งรายชื่อ จำนวนเงินความคุ้มครอง 1,000,000 บาท
  2. กรมธรรม์คุ้มครองภาวะโคม่าอันเนื่องมาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่แจ้งรายชื่อ จำนวนเงินความคุ้มครอง 1,000,000 บาท
  3. กรมธรรม์คุ้มครองผลประโยชน์กรณีตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่แจ้งรายชื่อ จำนวนเงินความคุ้มครอง 10,000 บาท และกรณีเสียชีวิต จากอุบัติเหตุ จำนวน 10,000 บาท
    ทั้งนี้ มีบริษัทประกันภัย จำนวน 22 บริษัท เข้าร่วมรับประกันภัย ประกอบด้วย บริษัทประกันชีวิต 10 บริษัท ได้แก่ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) บมจ.ทิพยประกันชีวิต บมจ.ไทยประกันชีวิต บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต บมจ.เอ็ม บี เค ไลฟ์ ประกันชีวิต บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต บมจ.เอไอเอ และ บมจ.อาคเนย์ประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัย 12 บริษัท ได้แก่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย บมจ.กรุงไทยพานิชประกันภัย บมจ.ทิพยประกันภัย บมจ.นวกิจประกันภัย บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ บมจ.แปซิฟิค ครอส ประกันสุขภาพ บมจ.เมืองไทยประกันภัย บมจ.วิริยะประกันภัย บมจ.สินทรัพย์ประกันภัย บมจ.สินมั่นคงประกันภัย บมจ.อาคเนย์ประกันภัย และ บมจ.เอเชียประกันภัย 1950 นอกจากนี้ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้มอบเครื่องช่วยหายใจให้แก่โรงพยาบาลบุษราคัม ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนาม ณ อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 50 เครื่อง รวมมูลค่า 10.5 ล้านบาท ในครั้งนี้ด้วย
    เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า สำนักงาน คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัยไทย มีความห่วงใยต่อบุคลากรทางการแพทย์ โดยตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกแรกช่วงต้นปี 2563 ได้มอบกรมธรรม์ประกันภัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์แล้ว 70,000 ราย เบี้ยประกันภัย 7 ล้านบาท วงเงินความคุ้มครอง 3,500 ล้านบาท
    สำหรับ ความร่วมมือระหว่างสำนักงาน คปภ. ภาคอุตสาหกรรมประกันภัยไทย องค์กรการกุศล และบริษัทเอกชน เพื่อมอบกรมธรรม์ประกันภัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สอง ซึ่งเป็นการส่งมอบความคุ้มครองให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ผ่านความคุ้มครองจาก 3 กรมธรรม์ แบบครบวงจร เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายใต้ความเสี่ยงได้อุ่นใจ หากเกิดเหตุการณ์ไม่พึ่งประสงค์จากการปฏิบัติงานดังกล่าว

“สำนักงาน คปภ. ขอขอบคุณรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ทุ่มเทสรรพกำลังทุกอย่าง เพื่อดูแลประชาชนผู้ติดเชื้อและผู้ที่ได้รับผลกระทบ และขอส่งความห่วงใยพร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้กับคนไทยทุกคนให้ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ครั้งนี้ ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จะมุ่งมั่นนำระบบประกันภัยเข้ามาช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ โดยจะบูรณาการกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัยและทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันช่วยให้ประเทศไทยข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]

บุกจับปลัด อบจ. เรียกเงินผู้รับเหมา

22 ส.ค.- รวบคาโต๊ะทำงาน ตำรวจบุกจับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินกว่า 12 ล้านบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายงบฯ เจ้าหน้าที่บุกอ่านหมายจับ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ, ข่มขืนใจ บุคคลใดมอบให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง  และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 เป็นการเข้าทำการตรวจค้น จับกุมที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาเข้าร้องเรียนกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4  ว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในตำแหน่งปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.มุกดาหาร ระหว่างนั้น ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญา รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท โครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ […]

ผบ.ทอ. บินสวีเดน ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 ส.ค.นี้

22 ส.ค.- กองทัพไทยเพิ่มแสนยานุภาพ เสริมความแข็งแกร่ง ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” กับสวีเดน อย่างเป็นทางการ 25 สิงหาคมนี้ การลงนามครั้งนี้ นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะลงนามกับบริษัท SAAB AB ที่ประเทศสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตามมติ คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง ( วงเงิน 19,500 ล้านบาท ) การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหาร ในการเสริมศักยภาพป้องกันประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี ในการลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 สิงหาคมนี้ ทางประเทศสวีเดน จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน เข้าร่วมในฐานะสักขีพยาน “มาริษ” ร่วมเป็นสักขีพยานจัดซื้อ “กริพเพน” […]