fbpx

ตั้งศูนย์แก้โควิดกทม.-ปริมณฑล

ตั้งศูนย์แก้โควิดกทม.-ปริมณฑล

ทำเนียบรัฐบาล 5 พ.ค.-ผช.โฆษกศบค.เผยนายกฯลงนามตั้งศูนย์แก้โควิดกทม.-ปริมณฑล มี 8 อาจารย์หมอเป็นที่ปรึกษา พร้อมตั้งเลขาฯสมช.ประธานกรรมการเฉพาะกิจบูรณาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข “อนุทิน-สาธิต” เป็นที่ปรึกษา


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะผอ.ศบค.ลงนามคำสั่งตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขโควิด-19พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ตามที่พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เสนอรายละเอียด โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อำนวยการศูนย์แบ่งการทำงานเป็น 5 ฝ่าย ได้แก่ 1.ฝ่ายอำนวยการ 2.ฝ่ายปฏิบัติการการตรวจเชิงรุก 3.ฝ่ายบริหารจัดหารผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยง 4.ฝ่ายบริหารจัดการพื้นที่ 5.ฝ่ายบริหารจัดการการฉีดวัคซีน โดยให้ผอ.เขต ,ผอ.ศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดโควิดในระดับเขต จะทำงานร่วมกับศูนย์ใหญ่ บริหารจัดการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกัน

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษา ความเห็น และข้อเสนอแนะทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับมาตรการสาธารณสุขและแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์ ฉุกเฉินอันเกิดจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด – 19 ประกอบด้วย 1.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร 2. นพ.อุดม คชินทร 3. นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา 4. นพ.สุทธิพงศ์ วัสรสิทธุ 5.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา 7.นพ.อนันต์ ศรีเกียรติขจร 7. พญ.จิรายุ เอื้อวรากุล และ 8.นพ.ไพโรจน์ จงบัญญัติเจริญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อการบูรณาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด – 19 โดยมีคณะกรรมการ 22 คน ประกอบด้วย 1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นที่ปรึกษา 2. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นที่ปรึกษา 3. เลขาธิการสมช. เป็นประธานกรรมการ 4.ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองประธานกรรมการ 5.ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธานกรรมการ 6. อธิบดีกรมการปกครอง เป็นกรรมการ 7.อธิบดีกรมการแพทย์ เป็นกรรมการ 8.อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นกรรมการ 9.อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นกรรมการ 10.อธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นกรรมการ


11. อธิบดีกรมอนามัย เป็นกรรมการ 12. ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เป็นกรรมการ 13.เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นกรรมการ 14.เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เป็นกรรมการ 15.เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นกรรมการ 16.ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เป็นกรรมการ 17.เสนาธิการทหาร เป็นกรรมการ 18.ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กระทรวงกลาโหม เป็นกรรมการ 19.นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เป็นกรรมการ 20.อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นกรรมการและเลขานุการ 21.รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และ 22.ผู้ช่วยเลขาธิการ สมช. เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ทั้งนี้ คำสั่งแต่งตั้งมีผลตั้งแต่วันนี้(5 พ.ค.) เป็นต้นไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง