fbpx

FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรงต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ 5 พ.ค. –  FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนแม้ลดลงแต่ยังอยู่ในโซนร้อนแรงต่อเนื่อง พร้อมประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้คาดจะขยายตัวร้อยละ 1.5 – 2.5  และ ปี 2565  คาดจะขยายตัวร้อยละ 4  ส่วนกำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้คาดว่าขยายตัวร้อยละ 32  และปี 2565 คาดจะขยายตัวร้อยละ 17


นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนเมษายน 2564 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 124.37 ปรับตัวลดลง 14.6% จากเดือนก่อน ยังคงอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” อย่างต่อเนื่อง นักลงทุนคาดหวังแผนการกระจายวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ Covid-19 เป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด  รองลงมาคือผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และสถานการณ์เศรษฐกิจจีน สำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ระบาดของ Covid-19 ระลอกใหม่ในไทย รองลงมาคือการถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ และสัดส่วนหนี้ภาคครัวเรือน โดยหมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (PETRO) และหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดแฟชั่น (FASHION)

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนเมษายน 2564 SET Index ผันผวนอยู่ระหว่าง 1,541.12  –1,596.27 โดยได้รับแรงกดดันจากการระบาดรอบใหม่ของ Covid-19 จากกลุ่มสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนในกรุงเทพ และแพร่กระจายไปยังหลายจังหวัดทั่วประเทศในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ที่ประชาชนกลับต่างจังหวัด ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ที่เพิ่มสูงเกินกว่า 1,000 รายต่อวัน อีกทั้งได้รับผลกระทบจากตลาดหุ้นอเมริกาที่ปรับลงอย่างหนัก จากการประกาศข้อเสนอเก็บภาษีกำไรจากการลงทุน (Capital Gains Tax) เพิ่มเกือบเท่าตัว อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากรัฐบาลไทยประกาศแผนการจัดหาวัคซีนทางเลือกเพิ่มขึ้น และ ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท รวมถึงมูลค่าการส่งออกของไทยเดือนมีนาคม 2564 ขยายตัวถึงร้อยละ 8.5 YOY โดย ณ สิ้นเดือนเมษายน SET index ปิดที่ 1,583.13 ปรับตัวลงลง 0.26% จากเดือนก่อนหน้า


 ปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ ความชัดเจนของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและแผนการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนหลังจาก GDP จีนช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 ขยายตัวมากถึง 18.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว การระบาดระลอกใหม่ที่มีการกลายพันธุ์ของไวรัส Covid-19 ในอินเดีย และการประกาศ lockdown อีกครั้งในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เยอรมัน ซี่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก ในส่วนของปัจจัยในประเทศ ได้แก่ การแพร่ระบาดของ Covid-19 ระลอกใหม่ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ แผนจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมและเร่งฉีดวัคซีนเพื่อให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเพื่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ถูกสั่งปิดในพื้นที่ควบคุม รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1 ปี 2564

ด้านมุมมองตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มอยู่ในขาขึ้นใน 12 เดือนข้างหน้า ปัจจัยสนับสนุนหลักคือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย การฟื้นตัวของกำไรบริษัทจดทะเบียน อัตราเร่งในการฉีดวัคซีน การเปิดประเทศ และการไหลเข้าของเงินลงทุนต่างชาติ

พร้อมมองว่า มาตรการคุมเข้มของ ศบค. น่าจะช่วยให้สถานการณ์โควิดระลอกนี้ดีขึ้นในไม่ช้า และเชื่อว่า รัฐบาลจะออกมาตรการเยียวยาเพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทั้งนี้ การเพิ่มจำนวนวัคซีนที่รัฐจัดหาเป็น 100 ล้านโดส ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้มาก ขณะที่ตลาดหุ้นจะตอบรับอีกมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการกระจายและฉีดวัคซีน


ด้านเม็ดเงินต่างชาติส่วนใหญ่ยังไม่ได้ไหลกลับเข้าตลาดหุ้นเอเชีย สำหรับไทยเงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มไหลเข้าเมื่อเกิดความชัดเจนกว่านี้ในการเปิดประเทศ ซึ่งจะเริ่มเห็นนักลงทุนต่างประเทศทยอยซื้อหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ทั้งนี้ เงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลกในช่วงนี้เป็นเพียงภาวะชั่วคราว โดยโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยก่อนปี 2022 มีน้อยมาก ขณะที่การปรับลดเม็ดเงินที่ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการ QE ของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเริ่มต้นในปีหน้า แต่ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมองว่ามีไม่มากนัก

อย่างไรก็ดี FETCO ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้คาดจะขยายตัวร้อยละ 1.5 – 2.5  และ ปี 2565  คาดจะขยายตัวร้อยละ 4  ส่วนกำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้คาดว่าขยายตัวร้อยละ 32  และปี 2565 คาดจะขยายตัวร้อยละ 17 เป็นต้น . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

จับตา ครม.เศรษฐา 2 โผเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์

จับตา “ครม.เศรษฐา 2” โผเพื่อไทยเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์ รอตรวจสอบประวัติว่าที่รัฐมนตรี “สุทิน-หมอชลน่าน-ไชยา-เกรียง” ส่อหลุดเก้าอี้ ด้าน “ธรรมนัส” ยันโควตา พปชร. อีก 1 ตำแหน่ง เป็นของ “ไผ่ ลิกค์”

“ดาว บ้านดอน” ลูกทุ่งดัง ล้มในห้องน้ำ

“ดาว บ้านดอน” วัย 76 ปี เจ้าของผลงานเพลงดัง ประสบอุบัติเหตุล้มในห้องน้ำ ล่าสุดลุกนั่งได้ ลืมตาได้ และรู้สึกตัวดี แต่ยังไม่สามารถพูดได้

“บิ๊กต่าย” เซ็นให้ “บิ๊กโจ๊ก-4 ลูกน้อง” ออกจากราชการไว้ก่อน

รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” พร้อมลูกน้องอีก 4 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน หลังถูกดำเนินคดีอาญา

แพทย์ห่วง ด.ต.ปิยนันท์ มีเลือดคั่งในสมอง

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขอบคุณประชาชน เปิดทางเคลื่อนย้าย ด.ต.ปิยนันท์ รักษา รพ.ตำรวจ ขณะที่แพทย์รับห่วง พบยังมีเลือดคั่งในสมอง เตรียมผ่าตัดสมองซ้ำนำเลือดที่คั่งออก