ชัวร์ก่อนแชร์ : ท้องอิ่มดื่มน้ำอุ่น ก่อนฉีดวัคซีน ป้องกันอาการไม่สบาย จริงหรือ ?

1 พฤษภาคม 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริง / เรียบเรียง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, กลาง ณัฐนที

บนสังคมออนไลน์ แชร์คำแนะนำว่า “ท้องต้องอิ่ม ดื่มน้ำอุ่น ก่อนฉีดวัคซีน ช่วยป้องกันอาการไม่สบายได้” ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันว่า “ไม่เป็นความจริง”

บทสรุป : ไม่จริง และ ไม่ควรแชร์ต่อ
ไม่มีหลักฐานทางวิชาการยืนยันว่า ท้องอิ่มและดื่มน้ำอุ่นก่อนฉีดวัคซีน จะช่วยป้องกันอาการไม่สบายได้

ข้อมูลที่ถูกแชร์
เพื่อนนักเรียนเก่า เป็นคนเห๋อเป่ยคุยกับคนสิงคโปร์ เรื่องการฉีดวัคซืนโควิด 
สิ่งที่ต้องระวังก่อนฉีดวัคซีนโควิด
1. ท้องต้องอิ่ม (ฉีดหลังอาหาร)
2. ดื่มน้ำอุ่น หรือ น้ำอุณหภูมิห้อง 250 ซีซี (หนึ่งแก้วกาแฟ)
ถ้าทำได้สองอย่างนี้ ตอนฉีดวัคซีนจะไม่มีอาการไม่สบาย ความรู้สึกแย่มาก
ปกติคนเราก็ต้องกินอาหาร ดื่มน้ำอยู่แล้ว โปรดทำสองสิ่งนี้ก่อนฉีดวัคซีนโควิด 
อย่า ฉีดวัคซีนตอนหิว หรือท้องว่าง ให้ฉีดหลังอาหาร และอย่าดื่มน้ำเย็น ให้ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง หรืออุ่นๆ หนึ่งแก้วเต็ม 250 ซีซี
หลังฉีดวัคซีนอาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบาย 10-15 นาทีเท่านั้น บางคนไม่รู้สึกอะไรเลย
โปรดบอกต่อเพื่อนๆ

สืบหาต้นตอ ข้อมูลที่ถูกแชร์
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบหาแหล่งที่มา พบว่า มีการแชร์กันในต่างประเทศ ทั้งภาษาจีน และ ภาษาอังกฤษ ก่อนจะถูกแปลเป็นภาษาไทย และส่งต่อกันในแอปพลิเคชัน Line มีลำดับเวลาโดยประมาณ ดังนี้

ช่วงวันที่ 15 มีนาคม 2564 มีการแชร์คลิปเสียงความยาว 4.09 นาที ผ่านกลุ่ม Line ที่ไต้หวัน พร้อมกับข้อความระบุว่า เป็นคำแนะนำเรื่องการฉีดวัคซีนจากเพื่อนชาวสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบแหล่งที่มาของคลิปเสียงที่แน่ชัดว่าเป็นของบุคคลใด

ต่อมามีการสรุปข้อความจากคลิปเสียงเป็นภาษาจีนพร้อมคำแปลเป็นภาษาอังกฤษพร้อมแนบภาพประกอบ โพสต์บนสังคมออนไลน์ ทั้งบนแอปพลิเคชัน Facebook และ Line 

Taiwan FactCheck Center ตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 และสรุปว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ “ผิด”

และในช่วงวันเดียวกันนั้น ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ พบข้อความดังกล่าวถูกแชร์เป็นภาษาไทยครั้งแรก


FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท ตรวจสอบกับ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันว่า “ความเชื่อเรื่อง ท้องต้องอิ่มและดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้องก่อนฉีดวัคซีน จะช่วยป้องกันอาการไม่สบายหลังฉีดวัคซีนได้ เป็นความเชื่อที่ไม่ได้มีหลักฐานทางวิชาการมาสนับสนุน”

รศ.นพ.ธีระ อธิบายว่า การกินอาหารให้อิ่มไม่มีผลต่อการแพ้วัคซีนหรือแพ้ยาชนิดใด ๆ ซึ่งต่างจากกรณีที่กินยาหลังอาหาร เช่น ยาแก้ปวด ที่ต้องกินหลังอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้ยาดังกล่าวกัดกระเพาะ นอกจากนี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่สนับสนุนว่า หากท้องอิ่มก่อนฉีดวัคซีนแล้วจะช่วยป้องกันอาการไม่สบายต่าง ๆ หลังฉีดวัคซีนได้ ทั้งนี้การดื่มน้ำอุ่นก็ไม่มีผลต่อการแพ้วัคซีน และไม่มีหลักฐานทางวิชาการมาสนับสนุนความเชื่อนี้เช่นเดียวกัน คาดว่าเป็นข่าวลือที่แชร์ต่อกันมาเท่านั้น

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ อาการไม่สบายหลังฉีดวัคซีนโควิด-19
รศ.นพ.ธีระ กล่าวว่า อาการไม่สบายหลังฉีดวัคซีนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ โดยไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นกับใคร แต่กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวที่ทำให้ภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี เมื่อฉีดวัคซีนแล้วอาจจะไม่มีอาการข้างเคียง เพราะร่างกายตอบสนองต่อวัคซีนน้อยกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ยังพบว่า การฉีดวัคซีนเข็มที่สองมีโอกาสเกิดปฏิกิริยามากกว่าเข็มแรก เพราะเข็มแรกเปรียบเสมือนการทำให้ร่างกายรู้จักคุ้นเคยกับตัวสารเคมีชนิดนี้ก่อน เมื่อฉีดเข็มที่สองร่างกายคุ้นเคยกับสารเคมีนี้แล้วจึงมีปฏิกิริยาตอบสนองได้มากกว่า ดังนั้น แม้ว่าฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วไม่มีอาการ แต่เมื่อฉีดวัคซีนเข็มสองก็อาจจะมีอาการได้

วิธีการเตรียมตัวที่ถูกต้อง ก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19
รศ.นพ.ธีระ แนะนำว่า เมื่อถึงวันที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ควรตรวจสอบว่าต้องฉีดวัคซีนที่ไหน อย่างไร เวลาใด และประเมินร่างกายในวันนั้นว่าแข็งแรงดีหรือไม่ หากรู้สึกไม่สบาย ครั่นเนื้อครั่นตัว เป็นไข้ ไอ เจ็บคอ หรือมีอาการอื่น ๆ ไม่ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนเด็ดขาด เนื่องจากการฉีดวัคซีนจำเป็นต้องทำในช่วงที่สุขภาพร่างกายแข็งแรง มิฉะนั้นประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันอาจไม่ดีเท่าที่ควร

หากมีอาการไม่สบายแต่ยังเข้ารับการฉีดวัคซีน หรือไม่สบายแล้วกินยาลดไข้ก่อนมาฉีดวัคซีน เมื่อเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้น แพทย์จะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นอาการป่วยไข้ธรรมดา หรือเป็นอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน นอกจากนี้ยังไม่ควรฉีดวัคซีนชนิดอื่น ๆ ในเวลาใกล้เคียงกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ควรเว้นระยะห่างประมาณ 1 เดือน  หรือ 4 สัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าวัคซีนที่รับไปไม่มีปัญหาจริง ๆ 

กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขยังมีคำแนะนำ เกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ดังนี้

แนวทางปฏิบัติตัวก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 
1. ตรวจสอบเป็นผู้ที่ยังไม่ควรฉีดวัคซีน
          – หากตั้งครรภ์ ควรเลื่อนนัดเป็นช่วงหลังคลอดแล้ว
          – กำลังรักษาอาการป่วยรุนแรง ควรเลื่อนนัดไปก่อนจนกว่าหายดี
          – มีอาการป่วยก่อนฉีดวัคซีน เช่น ไข้สูง ท้องเสียรุนแรง ควรเลื่อนนัดไปก่อน
2. ตรวจสอบเป็นผู้ที่เคยมีประวัติแพ้วัคซีน หรือแพ้ยา ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนฉีดวัคซีน
3. พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรงดอาหารก่อนการฉีดวัคซีน
4. ตรวจสอบเป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ได้รับการลงทะเบียนฉีดวัคซีนได้ 
          – บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านหน้า
          – ประชาชนทั่วไปในพื้นที่เสี่ยง ผู้ที่มีโรคประจำตัว 6 กลุ่ม และภาวะอ้วน
5. ไม่ควรรับประทานยาแก้ไข้ / ยาแก้ปวดก่อนฉีดวัคซีน เพราะยาอาจไปกดภาวะการอักเสบทำให้การตอบสนองของวัคซีนลดลง

แนวทางปฏิบัติตัวหลังฉีดวัคซีนโควิด-19
1. สังเกตอาการข้างเคียงที่โรงพยาบาลก่อนกลับบ้านอย่างน้อย 30 นาที
2. เมื่อกลับบ้านแล้ว อาจมีอาการข้างเคียง เช่น มีผื่น ปวด บวมบริเวณที่ฉีด หรือมีไข้ต่ำ ๆ ซึ่งหลังจากได้รับวัคซีน 30 นาที – 2 ชั่วโมง อาการจะค่อย ๆ ลดลง แต่ถ้าไข้สูงมาก รีบกลับมาพบแพทย์ หรือโทรแจ้ง 1669
3. หลังจากรับวัคซีน 3 วัน โอกาสแพ้หรือมีผลข้างเคียงพบน้อยมาก ควรสังเกตอาการต่อไปจนครบ 30 วัน

คำแนะนำของสิงคโปร์
นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบไปที่เว็บไซต์ vaccine.gov.sg ซึ่งเป็นแหล่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับการให้วัคซีนของประเทศสิงคโปร์ ก็ไม่พบว่ามีคำแนะนำตามข้อความที่แชร์กันแต่อย่างใด ทางการสิงคโปร์ให้คำแนะนำว่า ก่อนฉีดวัคซีนอย่าลืมพกบัตรประจำตัว มาถึงจุดนัดพบให้ตรงเวลา สวมเสื้อแขนสั้นหรือเสื้อที่แขนหลวมพอจะพับขึ้นได้ หากรู้สึกไม่สบายให้เลื่อนการนัดหมายไปก่อน

บทสรุป : ไม่จริง และ ไม่ควรแชร์ต่อ
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ ยืนยันว่า “ท้องต้องอิ่มและดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้องก่อนฉีดวัคซีน จะช่วยป้องกันอาการไม่สบายหลังฉีดวัคซีนได้ เป็นความเชื่อที่ไม่ได้มีหลักฐานทางวิชาการมาสนับสนุน” พร้อมแนะนำว่า ต้องศึกษาวัคซีนก่อนตัดสินใจฉีด วันที่จะไปฉีดต้องประเมินสุขภาพตนเองว่าแข็งแรงดีหรือไม่ หลังฉีดวัคซีนแล้วการ์ดต้องไม่ตก ให้ปฎิบัติตัวตามมาตรฐานการควบคุมป้องกันโรคเช่นเดิม

ข้อมูลอ้างอิง
Taiwan FactCheck Center : https://tfc-taiwan.org.tw/articles/5168
MyGoPen : https://www.mygopen.com/2021/03/250cc.html
MyGoPen : https://today.line.me/tw/v2/article/vx9nzE
Facebook : https://web.facebook.com/YipinStudio/posts/4387055784642231
Facebook : https://web.facebook.com/marybarbara.wang/posts/10159906201939739
เว็บไซต์โครงการฉีดวัคซีนของประเทศสิงคโปร์ : https://www.vaccine.gov.sg/faq
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข : https://fb.watch/5cM_DXn0yT/

🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์” 🎯
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน แอร์ อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มียืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าใด เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย […]

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย