ชัวร์ก่อนแชร์ : ท้องอิ่มดื่มน้ำอุ่น ก่อนฉีดวัคซีน ป้องกันอาการไม่สบาย จริงหรือ ?

1 พฤษภาคม 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริง / เรียบเรียง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, กลาง ณัฐนที

บนสังคมออนไลน์ แชร์คำแนะนำว่า “ท้องต้องอิ่ม ดื่มน้ำอุ่น ก่อนฉีดวัคซีน ช่วยป้องกันอาการไม่สบายได้” ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันว่า “ไม่เป็นความจริง”

บทสรุป : ไม่จริง และ ไม่ควรแชร์ต่อ
ไม่มีหลักฐานทางวิชาการยืนยันว่า ท้องอิ่มและดื่มน้ำอุ่นก่อนฉีดวัคซีน จะช่วยป้องกันอาการไม่สบายได้

ข้อมูลที่ถูกแชร์
เพื่อนนักเรียนเก่า เป็นคนเห๋อเป่ยคุยกับคนสิงคโปร์ เรื่องการฉีดวัคซืนโควิด 
สิ่งที่ต้องระวังก่อนฉีดวัคซีนโควิด
1. ท้องต้องอิ่ม (ฉีดหลังอาหาร)
2. ดื่มน้ำอุ่น หรือ น้ำอุณหภูมิห้อง 250 ซีซี (หนึ่งแก้วกาแฟ)
ถ้าทำได้สองอย่างนี้ ตอนฉีดวัคซีนจะไม่มีอาการไม่สบาย ความรู้สึกแย่มาก
ปกติคนเราก็ต้องกินอาหาร ดื่มน้ำอยู่แล้ว โปรดทำสองสิ่งนี้ก่อนฉีดวัคซีนโควิด 
อย่า ฉีดวัคซีนตอนหิว หรือท้องว่าง ให้ฉีดหลังอาหาร และอย่าดื่มน้ำเย็น ให้ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง หรืออุ่นๆ หนึ่งแก้วเต็ม 250 ซีซี
หลังฉีดวัคซีนอาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบาย 10-15 นาทีเท่านั้น บางคนไม่รู้สึกอะไรเลย
โปรดบอกต่อเพื่อนๆ

สืบหาต้นตอ ข้อมูลที่ถูกแชร์
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบหาแหล่งที่มา พบว่า มีการแชร์กันในต่างประเทศ ทั้งภาษาจีน และ ภาษาอังกฤษ ก่อนจะถูกแปลเป็นภาษาไทย และส่งต่อกันในแอปพลิเคชัน Line มีลำดับเวลาโดยประมาณ ดังนี้

ช่วงวันที่ 15 มีนาคม 2564 มีการแชร์คลิปเสียงความยาว 4.09 นาที ผ่านกลุ่ม Line ที่ไต้หวัน พร้อมกับข้อความระบุว่า เป็นคำแนะนำเรื่องการฉีดวัคซีนจากเพื่อนชาวสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบแหล่งที่มาของคลิปเสียงที่แน่ชัดว่าเป็นของบุคคลใด

ต่อมามีการสรุปข้อความจากคลิปเสียงเป็นภาษาจีนพร้อมคำแปลเป็นภาษาอังกฤษพร้อมแนบภาพประกอบ โพสต์บนสังคมออนไลน์ ทั้งบนแอปพลิเคชัน Facebook และ Line 

Taiwan FactCheck Center ตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 และสรุปว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ “ผิด”

และในช่วงวันเดียวกันนั้น ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ พบข้อความดังกล่าวถูกแชร์เป็นภาษาไทยครั้งแรก


FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท ตรวจสอบกับ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันว่า “ความเชื่อเรื่อง ท้องต้องอิ่มและดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้องก่อนฉีดวัคซีน จะช่วยป้องกันอาการไม่สบายหลังฉีดวัคซีนได้ เป็นความเชื่อที่ไม่ได้มีหลักฐานทางวิชาการมาสนับสนุน”

รศ.นพ.ธีระ อธิบายว่า การกินอาหารให้อิ่มไม่มีผลต่อการแพ้วัคซีนหรือแพ้ยาชนิดใด ๆ ซึ่งต่างจากกรณีที่กินยาหลังอาหาร เช่น ยาแก้ปวด ที่ต้องกินหลังอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้ยาดังกล่าวกัดกระเพาะ นอกจากนี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่สนับสนุนว่า หากท้องอิ่มก่อนฉีดวัคซีนแล้วจะช่วยป้องกันอาการไม่สบายต่าง ๆ หลังฉีดวัคซีนได้ ทั้งนี้การดื่มน้ำอุ่นก็ไม่มีผลต่อการแพ้วัคซีน และไม่มีหลักฐานทางวิชาการมาสนับสนุนความเชื่อนี้เช่นเดียวกัน คาดว่าเป็นข่าวลือที่แชร์ต่อกันมาเท่านั้น

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ อาการไม่สบายหลังฉีดวัคซีนโควิด-19
รศ.นพ.ธีระ กล่าวว่า อาการไม่สบายหลังฉีดวัคซีนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ โดยไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นกับใคร แต่กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวที่ทำให้ภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี เมื่อฉีดวัคซีนแล้วอาจจะไม่มีอาการข้างเคียง เพราะร่างกายตอบสนองต่อวัคซีนน้อยกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ยังพบว่า การฉีดวัคซีนเข็มที่สองมีโอกาสเกิดปฏิกิริยามากกว่าเข็มแรก เพราะเข็มแรกเปรียบเสมือนการทำให้ร่างกายรู้จักคุ้นเคยกับตัวสารเคมีชนิดนี้ก่อน เมื่อฉีดเข็มที่สองร่างกายคุ้นเคยกับสารเคมีนี้แล้วจึงมีปฏิกิริยาตอบสนองได้มากกว่า ดังนั้น แม้ว่าฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วไม่มีอาการ แต่เมื่อฉีดวัคซีนเข็มสองก็อาจจะมีอาการได้

วิธีการเตรียมตัวที่ถูกต้อง ก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19
รศ.นพ.ธีระ แนะนำว่า เมื่อถึงวันที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ควรตรวจสอบว่าต้องฉีดวัคซีนที่ไหน อย่างไร เวลาใด และประเมินร่างกายในวันนั้นว่าแข็งแรงดีหรือไม่ หากรู้สึกไม่สบาย ครั่นเนื้อครั่นตัว เป็นไข้ ไอ เจ็บคอ หรือมีอาการอื่น ๆ ไม่ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนเด็ดขาด เนื่องจากการฉีดวัคซีนจำเป็นต้องทำในช่วงที่สุขภาพร่างกายแข็งแรง มิฉะนั้นประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันอาจไม่ดีเท่าที่ควร

หากมีอาการไม่สบายแต่ยังเข้ารับการฉีดวัคซีน หรือไม่สบายแล้วกินยาลดไข้ก่อนมาฉีดวัคซีน เมื่อเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้น แพทย์จะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นอาการป่วยไข้ธรรมดา หรือเป็นอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน นอกจากนี้ยังไม่ควรฉีดวัคซีนชนิดอื่น ๆ ในเวลาใกล้เคียงกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ควรเว้นระยะห่างประมาณ 1 เดือน  หรือ 4 สัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าวัคซีนที่รับไปไม่มีปัญหาจริง ๆ 

กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขยังมีคำแนะนำ เกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ดังนี้

แนวทางปฏิบัติตัวก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 
1. ตรวจสอบเป็นผู้ที่ยังไม่ควรฉีดวัคซีน
          – หากตั้งครรภ์ ควรเลื่อนนัดเป็นช่วงหลังคลอดแล้ว
          – กำลังรักษาอาการป่วยรุนแรง ควรเลื่อนนัดไปก่อนจนกว่าหายดี
          – มีอาการป่วยก่อนฉีดวัคซีน เช่น ไข้สูง ท้องเสียรุนแรง ควรเลื่อนนัดไปก่อน
2. ตรวจสอบเป็นผู้ที่เคยมีประวัติแพ้วัคซีน หรือแพ้ยา ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนฉีดวัคซีน
3. พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรงดอาหารก่อนการฉีดวัคซีน
4. ตรวจสอบเป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ได้รับการลงทะเบียนฉีดวัคซีนได้ 
          – บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านหน้า
          – ประชาชนทั่วไปในพื้นที่เสี่ยง ผู้ที่มีโรคประจำตัว 6 กลุ่ม และภาวะอ้วน
5. ไม่ควรรับประทานยาแก้ไข้ / ยาแก้ปวดก่อนฉีดวัคซีน เพราะยาอาจไปกดภาวะการอักเสบทำให้การตอบสนองของวัคซีนลดลง

แนวทางปฏิบัติตัวหลังฉีดวัคซีนโควิด-19
1. สังเกตอาการข้างเคียงที่โรงพยาบาลก่อนกลับบ้านอย่างน้อย 30 นาที
2. เมื่อกลับบ้านแล้ว อาจมีอาการข้างเคียง เช่น มีผื่น ปวด บวมบริเวณที่ฉีด หรือมีไข้ต่ำ ๆ ซึ่งหลังจากได้รับวัคซีน 30 นาที – 2 ชั่วโมง อาการจะค่อย ๆ ลดลง แต่ถ้าไข้สูงมาก รีบกลับมาพบแพทย์ หรือโทรแจ้ง 1669
3. หลังจากรับวัคซีน 3 วัน โอกาสแพ้หรือมีผลข้างเคียงพบน้อยมาก ควรสังเกตอาการต่อไปจนครบ 30 วัน

คำแนะนำของสิงคโปร์
นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบไปที่เว็บไซต์ vaccine.gov.sg ซึ่งเป็นแหล่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับการให้วัคซีนของประเทศสิงคโปร์ ก็ไม่พบว่ามีคำแนะนำตามข้อความที่แชร์กันแต่อย่างใด ทางการสิงคโปร์ให้คำแนะนำว่า ก่อนฉีดวัคซีนอย่าลืมพกบัตรประจำตัว มาถึงจุดนัดพบให้ตรงเวลา สวมเสื้อแขนสั้นหรือเสื้อที่แขนหลวมพอจะพับขึ้นได้ หากรู้สึกไม่สบายให้เลื่อนการนัดหมายไปก่อน

บทสรุป : ไม่จริง และ ไม่ควรแชร์ต่อ
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ ยืนยันว่า “ท้องต้องอิ่มและดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้องก่อนฉีดวัคซีน จะช่วยป้องกันอาการไม่สบายหลังฉีดวัคซีนได้ เป็นความเชื่อที่ไม่ได้มีหลักฐานทางวิชาการมาสนับสนุน” พร้อมแนะนำว่า ต้องศึกษาวัคซีนก่อนตัดสินใจฉีด วันที่จะไปฉีดต้องประเมินสุขภาพตนเองว่าแข็งแรงดีหรือไม่ หลังฉีดวัคซีนแล้วการ์ดต้องไม่ตก ให้ปฎิบัติตัวตามมาตรฐานการควบคุมป้องกันโรคเช่นเดิม

ข้อมูลอ้างอิง
Taiwan FactCheck Center : https://tfc-taiwan.org.tw/articles/5168
MyGoPen : https://www.mygopen.com/2021/03/250cc.html
MyGoPen : https://today.line.me/tw/v2/article/vx9nzE
Facebook : https://web.facebook.com/YipinStudio/posts/4387055784642231
Facebook : https://web.facebook.com/marybarbara.wang/posts/10159906201939739
เว็บไซต์โครงการฉีดวัคซีนของประเทศสิงคโปร์ : https://www.vaccine.gov.sg/faq
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข : https://fb.watch/5cM_DXn0yT/

🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์” 🎯
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]