สภาองค์กรของผู้บริโภค ต้านต่อสัญญาสัมปทานล่วงหน้ารถไฟฟ้า

กรุงเทพฯ 20 เม.ย. – สภาองค์กรของผู้บริโภคออกแถลงการณ์ฉบับที่ 5 ย้ำรถไฟฟ้าเป็นบริการขนส่งมวลชน ครม.ต้องหยุดต่อสัญญาสัมปทานล่วงหน้าแก่เอกชน และราคารถไฟฟ้า 25 บาท เป็นราคาทึ่ทำได้จริง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาองค์กรของผู้บริโภค ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 5 ระบุถึงกรณี ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้แจ้งไว้ว่าจะนำเรื่องค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่เป็นข้อถกเถียงกันอยู่เข้าครม.เพื่อลงมติ ในขณะเดียวกัน BTS ก็ออกคลิปทวงหนี้รัฐบาลออกอากาศ รวมทั้งนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนบทความแสดงความคิดเห็นเรื่องต้นทุนของรถไฟฟ้า และบริษัทกรุงเทพธนาคมของ กทม. ได้ออกมาโต้เรื่องราคาเช่นกัน


โดยภาพรวม สภาองค์กรของผู้บริโภคมองเห็นว่า เป็นกระบวนการที่ชี้ชวนและบังคับให้ประชาชนจำยอมรับราคา 65 บาทที่กทม.ตั้งไว้ มีเพียงคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ออกมาให้ข้อมูลหนี้กทม. และเห็นว่า หลังปี พ.ศ. 2572 หมดสัญญาสัมปทานแล้ว รายได้ต่างๆ ของรถไฟฟ้าสามารถใช้หนี้ได้สบาย แถมสามารถลดราคาให้ประชาชนได้อีก

สภาองค์กรของผู้บริโภคขอเรียกร้องให้รัฐบาล มีหลักการเบื้องต้นของการสร้างระบบรถไฟฟ้าเพื่อให้เป็นบริการขนส่งมวลชนในการสัญจรในกรุงเทพมหานคร ที่การจราจรกำลังทำให้เมืองเป็นอัมพาต สร้างมลพิษทางอากาศ และทำลายคุณภาพชีวิตของประชาชนและระบบเศรษฐกิจของชาติ แต่เมื่อราคารถไฟฟ้ามิได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความสามารถจ่ายได้จริงของประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นผู้สัญจรไปมา ระบบรถไฟฟ้าก็จะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความล้มเหลวของรัฐบาล

สภาองค์กรของผู้บริโภค มีความเห็นโดยภาพรวมดังนี้


1. เสนอครม.ยุติการพิจารณาต่อสัญญาสัมปทานล่วงหน้าสายสีเขียว และกำหนดให้รถไฟฟ้าหลากสีเป็นบริการขนส่งมวลชนที่รัฐมีหน้าที่จัดบริการให้ประชาชนเข้าถึง พร้อมเร่งจัดทำราคารถไฟฟ้าสูงสุดที่ประชาชนสามารถจ่ายได้ต่อวัน ให้ทุกสายยุติเก็บค่าแรกเข้าที่ซ้ำซ้อน เพราะหากนำเรื่องนี้เข้าไปพิจารณา ประชาชนต้องจ่าย 65 บาทเป็นเวลา 38 ปี อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงตามสัญญาสัมปทานสายเกินไปที่จะทำให้ประชาชนได้ราคารถไฟฟ้าที่เป็นบริการขนส่งมวลชนจริง เหมือนกับประเทศอื่นๆ ที่เขาสามารถทำให้ประชาชนจ่ายค่ารถไฟฟ้าได้ไม่เกิน 10% ของรายได้ขั้นต่ำ เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ป้องกันปัญหามลภาวะและลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพมหานคร

2. สภาองค์กรของผู้บริโภค เสนอให้หาวิธีการใหม่ในการทำสัญญาหรือการต่อสัญญาสัมปทานที่เกี่ยวข้องกับบริการขนส่งมวลชนหรือบริการสาธารณะ รวมถึง สายสีส้มที่กำลังจะดำเนินการประมูล ไม่ให้เกิดปัญหาผลประโยชน์แอบแฝงเหมือนในอดีตและกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น กรณีกรุงเทพมหานครยอมรับว่าได้ทำสัญญาจ้างเดินรถกับเอกชน ถึงปี 2585 เกินสัญญาสัมปทานหลักสายสีเขียวที่จะหมดในปี 2572 หากรัฐหรือ กทม.จะหักดิบไม่ต่อสัญญาจ้างบริหารกับ BTS เพื่อให้สิ้นสุดพร้อมกันในปี 2572 แม้จะทำได้แต่ก็คงจะเกิดปัญหาฟ้องร้องตามมาแน่

3. เสนอให้ยึดหลักการบริการขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้และไม่ค้ากำไร ยืนยันว่า 25 บาททำได้จริง จากการให้สัมภาษณ์ของพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่า กทม.ให้ข่าวว่า การกำหนดราคา 65 บาท กทม.จะได้ผลตอบแทน 240,000 ล้านบาท ตลอดสัมปทาน 30 ปี แต่จากการคาดการณ์ของกระทรวงคมนาคม หากใช้ราคา 49.83 บาท จะทำให้กทม.มีรายได้ 380,200 ล้านบาท ในระยะเวลา 30 ปี หากนำเงินจำนวนนี้ใช้หนี้เดิมในช่วง ปีพ.ศ. 2560-2572 ประมาณ 100,000 ล้านบาท กทม.ยังมีกำไรสูงถึง 280,200 ล้านบาท(380,200-100,000 = 280,200 ล้านบาท)

4. การเปิดเผยข้อมูลมากยิ่งขึ้นจะทำให้ราคารถไฟฟ้าถูกลง เช่น ค่าจ้างเดินรถควรมีราคาสูงสุดเท่าใด หากใช้ข้อมูลกระทรวงคมนาคม คำนวณค่าจ้างเดินรถ 30 ปี ไว้จำนวน 248,000 ล้านบาท หากคิดรวมค่าจ้างเดินรถเพิ่มอีก 8 ปี (2564-2572) ค่าจ้างเดินรถ ควรจะอยู่ที่ประมาณ 314,134 ล้านบาท ขณะที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ คิดค่าจ้างเดินรถ 38 ปี ในช่วงปี 2564-2602 รวมทั้งหมดประมาณ 841,000 ล้านบาท

5. สภาองค์กรของผู้บริโภค สนับสนุนให้รัฐบาลแก้ปัญหาระยะยาวและมองรถไฟฟ้าหลากสีทั้งระบบ ต้องรวมทุกสาย ทุกส่วนต่อขยายเป็นระบบเดียวกับบริการขนส่งมวลชนอื่นๆ ทั้งสีน้ำเงิน สีม่วง สีชมพู สีแดง สีทองสีส้ม เช่น ตั้งบริษัท Joint venture ที่มิใช่การตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมากินหัวคิว แบบที่ผ่านๆมา แต่เป็นการถือหุ้นร่วมกันระหว่างภาครัฐกับเอกชน แบ่งค่าใช้จ่ายและรายได้ร่วมกันทุกอย่าง ต้องรวมทุกสาย ทุกส่วนต่อขยายเป็นระบบเดียวกับบริการขนส่งมวลชนอื่นๆ ที่สำคัญต้องมีราคาที่ถูกลงทั้งระบบ

6. สภาองค์กรของผู้บริโภคเสนอให้บริหารจัดการรายได้ของรถไฟฟ้าทั้งระบบ ยืนยัน 25 บาท ตลอดสายทำได้จริง นอกจากรายได้จากค่าโดยสารแล้วยังมีรายได้อื่นๆ เช่น การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บริเวณรถไฟฟ้า การโฆษณา การจัดเก็บภาษีลาภลอยจากการพัฒนาที่ดิน หรือการจัดเก็บภาษีน้ำมันจากผู้ใช้รถยนต์โดยขึ้นภาษีน้ำมัน 20 สตางค์ต่อลิตร จะทำให้กทม.มีรายได้ประมาณ 6,500 ล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภค ยืนยันว่า  การจัดบริการขนส่งมวลชนเป็นพันธกิจของรัฐบาลที่มอบให้กทม. ดำเนินการแทน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ระบบรถไฟฟ้าเป็นบริการสาธารณะอย่างหนึ่งที่ต้องทำให้คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ จะนำเรื่องขาดแคลนงบประมาณมาเป็นข้ออ้างไม่ได้ เพราะมีวิธีหารายได้หลายๆทางที่จะนำมาชดเชยค่าใช้จ่ายที่ขาดทุนได้ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุกยิงกลางตลาด อ.ต.ก.จตุจักร ตาย 6 เจ็บ 2

กทม. 28 ก.ค. – คนร้ายบุกยิงในตลาด อ.ต.ก. จตุจักร ก่อนจบชีวิตตัวเอง เสียชีวิตรวม 6 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (28 ก.ค.68) เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตในตลาด อ.ต.ก.จตุจักร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าคนร้ายชื่อนายน้อย อายุ 61 ปี เป็นเจ้าของแผงขายสินค้าในตลาด อ.ต.ก. ก่อเหตุจ่อยิงศีรษะ รปภ. 4 คน และแม่ค้า 2 คน ก่อนจบชีวิตตัวเอง ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าเรื่องความขัดแย้ง .-สำนักข่าวไทย

วันที่ 5 ชายแดนสุรินทร์ปะทะหนักแต่เช้ามืด

สุรินทร์ 28 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 5 ชายแดนสุรินทร์ กัมพูชาเปิดฉากปะทะหนักตั้งแต่เช้ามืด โดยเฉพาะโซนปราสาทตาควาย ด้านทีมข่าวลงพื้นที่ ต.บักได พบกระสุน BM-21 ตกจำนวนมาก บางหมู่บ้านเกิน 40 ลูก ขณะที่ศูนย์พักพิง ชาวบ้านยังมีปัญหาการหลับนอน และยังต้องการสิ่งของบริจาคจำนวนมาก ทีมข่าวลงพื้นที่ ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ มีกระสุน BM 21 มาตกในพื้นที่เป็นจำนวนมาก บางหมู่บ้านเกินกว่า 40 ลูก แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวบ้าน แต่สถานการณ์การปะทะ ที่เข้าสู่วันที่ 5 ทำให้วัวตายไปหลายตัว ส่วนใหญ่ตกในพื้นที่ทางการเกษตร โดยวันนี้พบว่า มีการเปิดฉากยิงปะทะกันด้วยอาวุธหนักตั้งแต่ช่วงเวลาตี 3 และมีเสียงดังอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ เว้นระยะบ้าง เสียงรัวถี่บ้าง สลับกันไป โดยเฉพาะช่วง 10 โมงครึ่งที่ผ่านมา มีการปะทะกันชุดใหญ่เกินครึ่งชั่วโมง ทำให้เครื่องบินรบ F 16 ต้องขึ้นบินถล่ม เมื่อ 11 โมงเศษที่ผ่านมา สองแนวหลักที่ยิงข้ามมาเป็นประจำคือ […]

“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย ย้ำกัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กทม. 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย คุย “ฮุน มาเนต” หยุดยิงเป็นเรื่องแรก และต้องแสดงให้เห็นว่าจริงใจ ยันไม่มีเรื่องแผนที่ 1 : 200,000 พร้อมยึดหลักอธิปไตยและทรัพย์สินของประชาชนเป็นที่ตั้ง และก่อนไปหารือกองทัพแล้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นายภูมิธรรม กล่าวว่าวันนี้จะพบกันในเวลาประมาณ 15.00 น. จะมีการคุยกับนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นการยกระดับการคุยในระดับผู้นำประเทศในระดับนายกรัฐมนตรี โดยมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นโฮส มีผู้เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์2 ประเทศคือสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน […]

มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์

กทม. 28 ก.ค.-มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์ ทหารถือรูปภาพ ข้อความ RIP หวังทำลายขวัญกำลังใจ ยันจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้อง ดูแลความปลอดภัยประชาชน ในการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ภายหลังกัมพูชามีการรายงานและเผยแพร่รูปทหารถือภาพของตนเอง พร้อมข้อความ RIP ว่า เป็นข่าวปลอม หวังทำลายขวัญกำลังใจทหารแนวหน้าและคนไทย ยืนยันว่า ปัจจุบันนี้ตนยังต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการปกป้องอธิปไตยของไทยต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และประชาชนมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง พล.ท.บุญสิน ระบุต่อว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อมูล โดยการปล่อยข่าวเท็จ สร้างความสับสนในหมู่ของคนไทย ดังนั้น อยากให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้.-313.-สำนักข่าวไทย