ธ.กรุงเทพ เปิดไทม์ไลน์พนักงานติดโควิด 7 ราย

กรุงเทพฯ 12 เม.ย. – ธนาคารกรุงเทพ แจ้งพบพนักงานของธนาคาร 7 ราย ติดเชื้อโควิด-19 พร้อมเปิดไทม์ไลน์ และดำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด


ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งให้ทราบว่า พนักงานของธนาคาร จำนวน 7 ราย ติดเชื้อโรคโควิด-19 รายละเอียดดังนี้

พนักงานจำนวน 1 ราย สังกัดพาณิชย์บริการ ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ชั้น 4 ซึ่งไม่ใช่หน่วยงานที่ให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไป​ โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 9 เมษายน 2564 คาดจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยได้เดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ในระหว่างวันที่ 3-6 เมษายน 2564 ขณะนี้พนักงานรายดังกล่าวได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดและมีไข้สูง ทั้งนี้ พนักงานมิได้ออกไปพบปะและให้บริการลูกค้าภายนอกธนาคารตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2564 เป็นต้นมา


พนักงานจำนวน 1 ราย สังกัดกลุ่มงาน New Project สายเทคโนโลยี ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารพระราม 3 ชั้น 9 ซึ่งไม่ใช่หน่วยงานที่ให้บริการแก่ลูกค้า​ โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 10 เมษายน 2564 คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยได้รับประทานอาหารร่วมกัน เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 ขณะนี้พนักงานได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด มีอาการไอมีเสมหะเล็กน้อย แต่ไม่มีไข้

พนักงานจำนวน 1 ราย สังกัดฝ่ายธุรกิจโทรคมนาคม สายลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ชั้น 11 ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ให้บริการลูกค้า โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 11 เมษายน 2564 คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยได้รับประทานอาหารร่วมกัน เมื่อช่วงเย็นหลังเลิกงาน ในวันที่ 2 เมษายน 2564 ขณะนี้พนักงานรายดังกล่าวได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และไม่มีอาการป่วยรุนแรงแต่ประการใด ทั้งนี้ พนักงานไม่ได้ออกไปพบปะและให้บริการลูกค้าภายนอกธนาคารตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2564 เป็นต้นมา

พนักงานจำนวน 1 ราย สังกัดหน่วยงานธุรกิจลูกค้าญี่ปุ่น สายลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ชั้น 10 ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ให้บริการลูกค้า โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 11 เมษายน 2564 คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลซึ่งทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 ในกิจกรรมสังสรรค์ที่ได้ไปร่วม ขณะนี้พนักงานรายดังกล่าวได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และไม่มีอาการป่วยรุนแรงแต่ประการใด ทั้งนี้ พนักงานไม่ได้ออกไปพบปะและให้บริการลูกค้าภายนอกธนาคารตามมาตรการปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของหน่วยงานธนาคาร ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา


พนักงานจำนวน 1 ราย สังกัดสำนักธุรกิจถนนพระราม 2 กม.7 ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารสาขาถนนพระราม 2 กม.7 ชั้น 2 ซึ่งไม่ใช่บริเวณพื้นที่สาขาที่ให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไป โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 11 เมษายน 2564 คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยได้เดินทางไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารย่านเกษตรนวมินทร์ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 ซึ่งทราบภายหลังเช่นกันว่ามีผู้ติดเชื้อไปร่วมใช้บริการที่ร้านดังกล่าว ขณะนี้พนักงานได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และไม่มีอาการป่วยรุนแรงแต่ประการใด ทั้งนี้ ธนาคารได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการแจ้งให้ลูกค้าผู้ที่ได้เข้าใช้บริการ ณ สำนักธุรกิจถนนพระราม 2 กม.7 อาคารสาขาถนนพระราม 2 กม.7 ชั้น 2 ในระหว่างวันที่ 5, 7 และ 8 เมษายน 2564 ทราบ​ เพื่อพิจารณากักตัวสังเกตอาการตามระยะเวลามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข หรือเข้ารับการตรวจหาเชื้อจากโรงพยาบาล

พนักงาน จำนวน 1 ราย สังกัดสายลูกค้าบุคคล ที่ได้รับมอบหมายลงพื้นที่ปฏิบัติงาน ณ พื้นที่สาขาถนนสี่พระยา โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 11 เมษายน 2564 คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยได้รับประทานอาหารร่วมกันในช่วงลาพักผ่อนไปเที่ยวต่างจังหวัด ในระหว่างวันที่ 5-9 เมษายน 2564 ขณะนี้พนักงานได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และไม่มีอาการป่วยรุนแรงแต่ประการใด ทั้งนี้ ธนาคารได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการแจ้งให้ลูกค้า จำนวน 1 ราย ที่รับการบริการโดยตรงจากพนักงานผู้ติดเชื้อ รวมถึงลูกค้าที่รับการบริการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ณ พื้นที่สาขาถนนสี่พระยา ในวันที่ 9 เมษายน 2564 ทราบ​ เพื่อพิจารณากักตัวสังเกตอาการตามระยะเวลามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข หรือเข้ารับการตรวจหาเชื้อจากโรงพยาบาล

พนักงาน จำนวน 1 ราย สังกัดศูนย์ธนาคารทางโทรศัพท์ ปฏิบัติงานอยู่ที่ห้องตรีบุษยา 3 อาคารพระราม 3 ชั้น 3 โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันนี้ (12 เมษายน 2564) คาดสาเหตุจากการไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารย่านบางจาก เมื่อช่วงเวลาเย็นหลังเลิกงาน ในวันที่ 5 เมษายน 2564 ซึ่งทราบภายหลังว่าที่ร้านอาหารดังกล่าวมีเจ้าของร้านและลูกค้าติดเชื้อโรคโควิด-19 ขณะนี้พนักงานได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และไม่มีอาการป่วยรุนแรงแต่ประการใด ทั้งนี้ พนักงานรายดังกล่าวปฏิบัติงานให้บริการลูกค้าผ่านระบบโทรศัพท์ของธนาคารโดยไม่ได้พบปะและให้บริการลูกค้าแบบ Face to face แต่อย่างใด

ธนาคารได้ดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและความปลอดภัยของพนักงานตามข้อปฏิบัติของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ดังนี้

ปิดพื้นที่ชั่วคราว ฝ่ายพาณิชย์บริการ ชั้น 4 หน่วยงานธุรกิจลูกค้าญี่ปุ่น สายลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ชั้น 10 และ ฝ่ายธุรกิจโทรคมนาคม สายลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ชั้น 11 ณ อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ส่วนพื้นที่กลุ่มงาน New Project สายเทคโนโลยี ชั้น 9 และ ห้องตรีบุษยา 3 ชั้น 3 ณ อาคารพระราม 3 สำนักธุรกิจถนนพระราม 2 กม.7 อาคารสาขาถนนพระราม 2 กม.7 ชั้น 2 และพื้นที่สาขาถนนสี่พระยา เพื่อทำความสะอาดและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตามมาตรการปฏิบัติกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว

ให้พนักงานทุกคนที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับพนักงานผู้ติดเชื้อดังกล่าว เข้ารับการตรวจหาเชื้อทันที โดยอยู่ระหว่างรอผลตรวจ และทำการกักตัวเองในที่พักอาศัย (Self-Quarantine at Home) โดยทันทีตามระยะเวลามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข

สำหรับลูกค้าผู้ที่ได้เข้าใช้บริการ ธนาคารได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการแจ้งให้ทราบ เพื่อพิจารณากักตัวสังเกตอาการตามระยะเวลามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข หรือเข้ารับการตรวจหาเชื้อจากโรงพยาบาล

ธนาคารมีความห่วงใยในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน ครอบครัว และประชาชนเป็นสำคัญ โดยได้ปฏิบัติตามมาตรฐานสุขอนามัยของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อร่วมป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการให้บริการลูกค้าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการเว้นระยะห่าง มีฉากกั้น และขอความร่วมมือให้พนักงานปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างสม่ำเสมอ โดยสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ เพื่อช่วยให้สังคมโดยรวมปลอดภัย ทั้งนี้ เพื่อเป็น ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่พร้อมเคียงข้างเพื่อก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]