ชัวร์ก่อนแชร์ : พ่นแอลกอฮอล์ใส่กุญแจรถ ทำให้รถระเบิด จริงหรือ ?

30 มีนาคม 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริง / เรียบเรียง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, กลาง ณัฐนที

บนสังคมออนไลน์ แชร์ข้อความ “ห้ามพ่นหรือทาแอลกอฮอลล์ที่กุญแจรถ” พร้อมกับคลิปวิดีโอ ที่ทำให้เข้าใจว่า อาจเป็นเหตุให้รถยนต์ระเบิดได้ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ยืนยันว่า “ไม่เป็นความเป็นจริง”

บทสรุป : ไม่จริง และ ไม่ควรแชร์ต่อ
พ่นแอลกอฮอล์ใส่กุญแจแล้วสตาร์ทรถ ไม่ทำให้รถระเบิด
คลิปวิดีโอที่มีการระเบิดไม่ใช่เหตุการณ์จริง แต่เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง “Narcos Season 3”
แต่แอลกอฮอล์เป็นสารไวไฟที่ต้องใช้และจัดเก็บอย่างถูกต้อง

สืบหาต้นตอ ข้อมูลที่ถูกแชร์
คลิปวิดีโอความยาว 1 นาที ถูกแชร์มาพร้อมข้อความระบุว่า “ห้ามพ่นหรือทาแอลกอฮอลล์ที่กุญแจรถ” โดยในคลิปวิดีโอมีภาพชายคนหนึ่งพ่นสเปรย์แอลกอฮอล์ปริมาณมากใส่กุญแจรถและภายในรถ เมื่อสตาร์ทรถ ภาพเปลี่ยนเป็นเหตุการณ์รถระเบิดอย่างรุนแรง ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สืบหาต้นตอคลิปวิดีโอดังกล่าว พบคลิปต้นฉบับ บนแอปพลิเคชัน TikTok อัปโหลดตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2563 โดยผู้ใช้ที่ชื่อว่า @suleymanics ซึ่งอาศัยอยู่ที่สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน

โดย ณ เดือนมีนาคม 2564 มียอดการรับชมมากกว่า 3.6 ล้านครั้ง มีผู้กดถูกใจมากกว่า 1.3 แสนคน และมีการแชร์คลิปวิดีโอมากกว่า 1.2 หมื่นครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการนำวิดีโอออกมาเผยแพร่ใน Line อย่างกว้างขวาง รวมทั้งมีผู้ส่งเรื่องเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์


FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท ตรวจสอบกับ ดร.ภุชงค์ ศรีอ่วม วิศวกรความปลอดภัยในการทำงาน ศูนย์ความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (SHE CU) ได้รับการยืนยันว่า “การพ่นแอลกอฮอล์ใส่กุญแจแล้วสตาร์ทรถ ไม่ทำให้รถระเบิด แต่แอลกอฮอล์เป็นสารไวไฟ สามารถติดไฟได้จริง ควรใช้อย่างพอดี และจัดเก็บอย่างระมัดระวัง”

ดร.ภุชงค์ กล่าวว่า สาเหตุที่พ่นแอลกอฮอล์ใส่กุญแจแล้วสตาร์ทรถ ไม่ทำให้เกิดการระเบิด เพราะโดยปกติแล้ว ส่วนที่จะเกิดประกายไฟคือส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างขั้วแบตเตอรี่ซึ่งอยู่ใต้กระโปรงรถ ซึ่งถ้าเชื่อมต่ออย่างหนาแน่นก็จะไม่เกิดประกายไฟ ดังนั้นการใช้กุญแจสตาร์ทรถจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด เพราะอยู่ภายในรถไม่เกี่ยวข้องกัน

แอลกอฮอล์เป็นสารไวไฟ สามารถติดไฟได้จริง
อย่างไรก็ตาม แอลกอฮอล์เป็นสารไวไฟ สามารถติดไฟได้จริง สเปรย์แอลกอฮอล์โดยทั่วไปจะมีความเข้มข้นประมาณ 70% ผสมกับน้ำอีก 30%  ถ้าพ่นสเปรย์แอลกอฮอล์ในรถถึงอัตราส่วนที่จะเกิดการระเบิดได้ แล้วปิดกระจกมิดชิดทุกด้าน เมื่อมีความร้อนเกิดขึ้น เช่น จอดรถตากแดดทิ้งไว้ หรือจุดบุหรี่ แอลกอฮอล์ภายในรถก็มีโอกาสที่จะติดไฟและระเบิดได้

ขอบเขตของการจุดติดไฟ (Explosive Limits)
ดร.ภุชงค์ อธิบายเพิ่มเติมว่า การจุดติดไฟหรือการระเบิด จำเป็นต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่างคือ สารไวไฟ ก๊าซออกซิเจน และแหล่งจุดไฟ เมื่อมีองค์ประกอบครบทั้ง 3 อย่างแล้ว ก็ไม่จำเป็นว่าจะเกิดการติดไฟหรือเกิดระเบิดเสมอไป ยังต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของสารไวไฟชนิดนั้น ๆ ด้วย โดยสารไวไฟแต่ละชนิดจะมีขอบเขตของการจุดติดไฟ (Explosive Limits) ดังนี้

1. Lower Explosive Limit (LEL) : อัตราส่วนผสมที่ต่ำที่สุดระหว่างสารไวไฟกับอากาศที่ทำให้เกิดการติดไฟ ถ้าอัตราส่วนผสมต่ำกว่าค่านี้ จะไม่สามารถติดไฟได้
2. Upper Explosive Limit (UEL) : อัตราส่วนผสมที่จะทำให้สารไวไฟไม่ติดไฟ ถ้าอัตราส่วนผสมมากกว่าค่านี้ จะไม่สามารถติดไฟได้เช่นเดียวกัน

แอลกอฮอล์เป็นสารไวไฟที่มีค่า LEL ประมาณ 3% และมีค่า UEL ประมาณ 19% ดังนั้น ต้องตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ที่พ่นในรถที่ปรากฏตามคลิปวิดีโอที่ถูกแชร์นั้น ว่าถึงค่านี้หรือไม่ ถ้าพ่นน้อยไม่ถึงค่า LEL เอาไฟไปจุดก็ไม่ติด ในทางกลับกันถ้าพ่นเยอะมากจนถึงค่า UEL เอาไฟไปจุดก็ไม่ติดเช่นเดียวกัน

ควรทำความสะอาดกุญแจรถด้วยแอลกอฮอล์หรือไม่ ?
ดร.ภุชงค์ ให้ความคิดเห็นว่า กุญแจรถเป็นส่วนที่มีการสัมผัสร่วมกันน้อย จึงอาจไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์อยู่บ่อยครั้ง ทั้งนี้ การป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นทำความสะอาดมือ ยังคงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพซึ่งหน่วยงานสาธารณสุขแนะนำเป็นมาตรฐาน

แม้ว่าแอลกอฮอล์ช่วยฆ่าเชื้อและป้องกันเชื้อโรคได้ดี แต่แอลกอฮอล์เป็นสารไวไฟ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตาได้ จึงควรใช้อย่างพอดี จัดเก็บอย่างระมัดระวัง ควรเก็บในที่ร่มระบายอากาศได้ดี ไม่โดนแสงแดด ประกายไฟ และความร้อน หากใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ ต้องรอให้แห้งก่อนเข้าไปใกล้ความร้อน มิฉะนั้นอาจทำให้ไฟไหม้ได้

ตรวจสอบข้อเท็จจริงของวิดีโอที่ถูกแชร์
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบ วิดีโอและข้อความดังกล่าว พบว่า เป็นการจัดฉากถ่ายทำ และตัดต่อร่วมกับวิดีโอจากภาพยนตร์ โดยในนาทีที่ 0.00 – 0.52 เป็นภาพชายพ่นแอลกอฮอล์ในรถ ซึ่งถูกจัดฉากถ่ายทำขึ้น และในนาทีที่ 0.53 – 1.00 ไม่ใช่การระเบิดหลังพ่นแอลกอฮอล์ใส่กุญแจรถ แต่เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง “Narcos Season 3” ดังนั้น วิดีโอที่ตัดต่ออย่างบิดเบือนความจริงนี้ จึงไม่มีความน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง

วิธีตรวจสอบวิดีโอเท็จด้วยตนเอง
ในปัจจุบันมีคลิปวิดีโอจำนวนมากที่ถูกแชร์ต่อโดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากได้รับการแชร์มาประชาชนสามารถตรวจสอบวิดีโอได้ ตามขั้นตอนดังนี้

1. บันทึกภาพหน้าจอวิดีโอขณะที่มีการระเบิด ให้เห็นภาพอาคารด้านหลังอย่างชัดเจน
2. นำภาพที่ได้ไปค้นหาในเว็บไซต์ https://www.google.co.th/imghp?hl=th หรือ https://yandex.com/images/
3. ตรวจสอบเว็บไซต์ที่มีวิดีโอต้นฉบับ

บทสรุป : ไม่จริง และ ไม่ควรแชร์ต่อ
ดร.ภุชงค์ ศรีอ่วม ยืนยันว่า การพ่นแอลกอฮอล์ใส่กุญแจแล้วสตาร์ทรถ ไม่ทำให้รถระเบิด แต่แอลกอฮอล์เป็นสารไวไฟ สามารถติดไฟได้จริง ควรใช้อย่างพอดี และจัดเก็บอย่างระมัดระวัง ส่วนคลิปวิดีโอที่มีการระเบิดนั้น ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง “Narcos Season 3” ดังนั้นจึงไม่ควรแชร์คลิปต่อ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม

🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์” 🎯
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]