ยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตลอดปี 63 วูบ

กรุงเทพฯ 3 มี.ค.-อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานระบุยอดการใช้น้ำมันทุกประเภทชองไทยในช่วงตลอดปี 63 ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ร้อยละ 12.5 จากปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งรอบแรกและรอบใหม่


น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวถึงภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันของปี 63 ว่า ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ร้อยละ 12.5 โดยกลุ่มเบนซินลดลงร้อยละ 1.5 กลุ่มดีเซลลดลงร้อยละ 2.9 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลงร้อยละ 62.3 น้ำมันเตาลดลงร้อยละ 11.2 น้ำมันก๊าดลดลงร้อยละ 14.4 LPG ลดลงร้อยละ 13.7 และ NGV ลดลงร้อยละ 28.3 โดยสาเหตุสำคัญมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้มีการ Lockdown ในช่วงไตรมาสที่ 2 ประกอบกับมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศในปี 2563 การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.7 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 1.5 โดยความต้องการใช้ลดลงมากในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 และเริ่มกลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้งตั้งแต่เดือนมิถุนายนหลังการคลาย Lockdown และมีความต้องการใช้รถส่วนตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยรถสาธารณะ

อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ ตั้งแต่เดือนธันวาคม ส่งผลให้การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 33.8 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนเพียงร้อยละ 0.4 (ปี2562 และ 2561 ความต้องการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน ร้อยละ 2.5 และ 4.8 ตามลำดับ) สำหรับการใช้น้ำมันเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 0.8 ล้านลิตร/วัน (ลดลงร้อยละ 16.6) กลุ่มแก๊สโซฮอล์ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 30.9 ล้านลิตร/วัน (ลดลงร้อยละ 1.0) เมื่อพิจารณาแยกชนิดน้ำมัน พบว่า แก๊สโซฮอล์ อี85 ปริมาณการใช้ลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 0.9 ล้านลิตร/วัน (ลดลงร้อยละ 30.2) รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์ 91 ปริมาณการใช้อยู่ที่ 8.2 ล้านลิตร/วัน (ลดลงร้อยละ 14.0) ในขณะที่แก๊สโซฮอล์อี 20 ปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.5 ล้านลิตร/วัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3) และแก๊สโซฮอล์ 95 ปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15.3 ล้านลิตร/วัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.0)


ทั้งนี้ การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 65.4 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 2.9 โดยเป็นผลจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงต้นปีและปลายปี 2563 สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 มีปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 43.8 ล้านลิตร/วัน (ลดลงร้อยละ 26.8) น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 16.2 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 3.5 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากนโยบายส่งเสริมของภาครัฐการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 7.3 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 62.3 เนื่องด้วยสถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดตั้งแต่ต้นปี 2563 และมาตรการจำกัดการเดินทางในช่วงไตรมาสที่ 2 ส่งผลให้การใช้น้ำมัน Jet A1 ลดลงไปอยู่ที่ 2.2 ล้านลิตร/วัน และแม้ว่าปริมาณการใช้จะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3.6-5.6 ล้านลิตร/วัน ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่การแพร่ระบาด

นอกจากนี้ ในเดือนธันวาคมส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวไม่ขยายตัว ปริมาณการใช้ Jet A1 ในเดือนธันวาคม อยู่ที่ 5.6 ล้านลิตร/วัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน (ปี2562 และ 2561 ความต้องการใช้ในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน ร้อยละ 3.1 และ 4.3 ตามลำดับ)

การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 15.4 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.7 โดยปริมาณการใช้ในภาคขนส่งลดลงมากที่สุด โดยมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 2.0 ล้านกก./วัน (ลดลงร้อยละ 27.1) รองลงมาเป็นภาคปิโตรเคมี ซึ่งมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 6.1 ล้านกก./วัน (ลดลง ร้อยละ 17.4) ถัดมาเป็นภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 1.7 ล้านกก./วัน (ลดลงร้อยละ 7.4) และภาคครัวเรือนมีปริมาณการใช้ลดลงน้อยที่สุดโดยการใช้ อยู่ที่ 5.6 ล้านกก./วัน (ลดลงร้อยละ 4.5)การใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 3.9 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 28.3 สอดคล้องกับจำนวนรถ NGV ที่ลดลง


ส่วนการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2563 เฉลี่ยอยู่ที่ 882,398 บาร์เรล/วัน ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 (ลดลงร้อยละ 8.0) โดยการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงมาอยู่ที่ 845,113 บาร์เรล/วัน (ลดลงร้อยละ 1.1) คิดเป็นมูลค่า 37,221 ล้านบาท/เดือน ในขณะที่การนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) ลดลงมาอยู่ที่ 37,285 บาร์เรล/วัน (ลดลงร้อยละ 64.2) คิดเป็นมูลค่านำเข้ารวม 1,710 ล้านบาท/เดือน

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 185,962 บาร์เรล/วัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.4) ทดแทนอุปสงค์ในประเทศที่ลดลง คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 8,334 ล้านบาท/เดือน (ลดลงร้อยละ 24.9) โดยมูลค่าลดลงสวนทางกับปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงมาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

คปท.รวมตัวหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงจุดยืนกรณีพิพาทพรมแดน

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชูธงชาติไทย-ป้ายสัญลักษณ์ หน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงเจตจำนงปกป้องประเทศชาติ กรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง เพื่อเคลื่อนไหวจากกรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างประดับประดาด้วยธงชาติ และชูป้ายสัญลักษณ์ข้อความแสดงอุดมการณ์เจตนารมณ์ถึงการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้นำรถขยายเสียงมาพูดปราศรัยแสดงเจตจำนงที่จะปกป้องประเทศชาติในช่วงสถานการณ์พิพาทระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชา เปิดกระจกออกมาเพื่อใช้มือถือถ่ายภาพการชุมนุมเป็นระยะๆ สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ทาง สน.วังทองหลาง และ บก.น.4 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 หมวด ประมาณ 100 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางกำลังดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา พร้อมนำแผงรั้วเหล็กกั้นมาวางเป็นแนวยาว เพื่อไม่ให้ม็อบเข้าประชิดติดตัวกำแพงสถานเอกอัครราชทูต เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะส่งผลต่อความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศ.-414-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ร่วมวงถก สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” เลื่อนวาระงาน เพื่อร่วมประชุม สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งเลื่อนการประชุมติดตามมาตรการป้องกันปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลเป็น 11.00 น. เพื่อมาร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. หารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสรุปมาตรการตอบโต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มารอต้อนรับ ซึ่งการร่วมประชุม กับ สมช. ในวันนี้นายกรัฐมนตรี ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าและเป็นการมาร่วมประชุมกับ สมช. เป็นครั้งแรก .-316 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “เตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารจากจุดปะทะ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “พลเอกเตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารออกจากจุดปะทะ ออกไป 200 เมตร กลับไปอยู่จุดเดิม ฝากข้อเสนอนี้ให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา-สมเด็จฮุนเซน พิจารณา ย้ำไทยไม่ยอมรับศาลโลก ระบุไม่อยากให้เกิดสงคราม ยันเดินหน้าประชุมเจบีซี 14 มิถุนายนนี้ วอนเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังได้หารือร่วมกับ พลเอก เตีย เสฮา (Tea Seiha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อวานนี้ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ว่า ได้มีการหารือกันว่าจะคลี่คลายกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ โดยรัฐบาลไทยได้ยืนยันแล้ว ว่าไม่อยากเห็นสงคราม และไทยไม่ได้กังวลที่จะมีการสู้รบ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการสูญเสีย ซึ่งไม่ต้องการเห็นตรงนั้น ดังนั้นความสัมพันธ์ที่มีอยู่จึงน่าจะพูดคุยกันได้ ดังนั้นได้มีการพูดคุยกันในภาพรวม โดยสรุปตนเองก็ได้ฝากไปว่า เมื่อคุยกันแล้วและเข้าใจจุดยืนของแต่ละฝ่ายแล้ว เราอยากให้เป็นการคุยจำกัดเฉพาะที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา พร้อมยืนยันว่าไทยไม่ได้เข้าศาลโลก เพราะตั้งแต่ปี 2503 มา จนกระทั่งปี 2567 นายเศรษฐา ทวีศิลป์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับมีร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 7-11 มิ.ย. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูง […]