fbpx

กก.ผจก.ใหญ่ บขส.คนใหม่ พร้อมรีแบรนด์ให้เป็น Digital Transport


กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส.คนใหม่ ชู Smart Digital Technology สร้างความเป็นเลิศบริการขนส่งสาธารณะของไทย มุ่งหารายได้เพิ่มจากระบบโลจิสติก-ดึงเอกชนร่วมพัฒนาที่ดิน พร้อมผลักดันรีแบรนด์ บขส. ให้เป็น “Digital Transport”


นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ประธานกรรมการบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เป็นประธานพิธีลงนามสัญญาว่าจ้าง นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. โดยมี คณะกรรมการบริษัทฯ และผู้บริหารระดับสูงของ บขส. ร่วมในพิธี
นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กล่าวภายหลังเข้ารับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. อย่างเป็นทางการว่า พร้อมจะดำเนินงานตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการบริษัทฯ ในการที่จะขับเคลื่อนและพัฒนา บขส. ให้ก้าวไปอย่างมั่นคง และให้ บขส. เป็นองค์กรที่มีความเป็นมืออาชีพในการให้บริการด้านการขนส่งสาธารณะ โดยวางแผนจะปรับเปลี่ยนธุรกิจ โดยใช้ Smart Digital Technology มาเป็นหัวใจในการดำเนินงานของ หรือ Digital Transport 4 ด้าน ประกอบด้วย

  1. SMART Station (Modern Bus) การพัฒนาเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยให้กับสถานีขนส่งผู้โดยสารของ บขส. โดยเน้น ความสะอาด สะดวกสบาย ปลอดภัย โดยจะพัฒนาระบบจองตั๋วโดยสาร ให้จองผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น ควบคู่ไปกับการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย และปรับลดพื้นที่ห้องขายตั๋วลดการรับเงินสด ตามวิถี New Nomal รวมทั้งนำเทคโนโลยี Digital มาใช้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวของการจราจรภายในสถานี และเพิ่มการเชื่อมต่อระบบขนส่งรถโดยสารสารธารณะให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบการขนส่งอื่น (Feeder) เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น และจะนำระบบ TOC : Transport Operation Center มาใช้แสดงข้อมูลการเดินรถอย่างเรียลไทม์ เพื่อช่วยบริหารและควบคุมการเดินรถให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และช่วยยกระดับเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่
  2. SMART Product & Service มีการเพิ่มเติมสิ่งอำนวยความสะดวกในรถโดยสาร รวมทั้งมีแผนเปิดให้บริการเส้นทางใหม่ที่เชื่อมต่อเมืองหลักกับเมืองรอง รัศมี 300 กิโลเมตร ที่ไม่ใช่เป้าหมายของกลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airline) และเชื่อมเส้นทางจากเมืองหลักหรือเมืองรองไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อยกระดับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การสร้าง New business model เพิ่มรายได้จาก Facilities ที่มีอยู่เดิม เช่น การสร้างพันธมิตร เพื่อให้บริการขนส่งพัสดุ หรือการทำข้อตกลงความร่วมมือการขนส่งกับ หน่วยงานภาครัฐ เป็นต้น และจะผลักดันเรื่องการรีแบรนด์ บขส. ให้เป็น “Digital Transport”
  3. SMART Asset มีแนวคิดด้านการจัดการกับทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่แน่นอน โดยจะพิจารณาให้เอกชนเข้ามาร่วมพัฒนาแบบ PPP ทรัพย์สินที่เป็นที่ดินอยู่ทั้ง 3 แปลงที่คือ สถานีเอกมัย 7 ไร่ สถานีปิ่นเกล้า 15 ไร่ ที่ดินสามแยกไฟฉาย ในเชิงพาณิชย์ ในส่วนของ สถานีหลักคือ จตุจักร และสถานี หมอชิต ต้องมีแนวทางการพัฒนาให้สอดคล้องกันกับสถานีกลางบางซื่อ หรือโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
  4. SMART Firm ด้วยแนวคิด “องค์กรต้องดำรงอยู่ได้บนผลกำไรของตนเอง” พนักงานทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการรับรู้ต้นทุนของหน่วยงาน มีการนำเอาเทคโนโลยี Digital มาบริหารจัดการ รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล ส่วนปฏิบัติการ ให้สอดคล้องกับสภาวะรายได้การเดินรถที่จะมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับเปลี่ยนองค์กรให้เหมาะสมทันสถานการณ์มีประสิทธิภาพ และเพิ่มทักษะให้กับพนักงานเตรียมตัวเข้าสู่ “Digital Transport”

นายสัญลักข์ ยอมรับว่า การเข้ารับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. ในช่วงนี้ ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นช่วงวิกฤติ จำนวนผู้โดยสารลดลง จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะสามารถพาองค์กรฝ่าฟันวิกฤตินี้ไปได้ และแม้สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขณะนี้จะยังมีอยู่ แต่มั่นใจว่า ผู้โดยสารที่มาใช้บริการ สถานีขนส่งผู้โดยสารของบขส.จะไม่ติดเชื้อโควิดแน่นอน เพราะมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด


นายสัญลักข์  ปัญวัฒนลิขิต มีประสบการณ์ในการดำรงตำแหน่งคณบดี คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยพายัพ กรรมการอิสระของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.