ระยอง 10 ม.ค. – สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด วันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม โดยเฉพาะ จ.ระยอง ซึ่งก่อนหน้านี้จำนวนผู้ติดเชื้อเหลือเพียงเลขตัวเดียว แต่วันนี้กลับพุ่งขึ้นเป็น 2 หลัก รวมผู้ติดเชื้อทะลุ 500 คนแล้ว
สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ใน จ.ระยอง ล่าสุดวันนี้ (10 ม.ค.) พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 15 คน รวมยอดสะสม 509 คน โดยนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อได้เมื่อใด แม้ว่าก่อนหน้านี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงต่อเนื่อง จนเคยเหลือเพียงเลขตัวเดียว จนทำให้หลายฝ่ายเริ่มเบาใจว่าจะสามารถยับยั้งการระบาดได้โดยเร็ว แต่วันนี้จำนวนผู้ป่วยรายใหม่กลับพุ่งขึ้นเป็นเลข 2 หลักอีกครั้ง ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมใน จ.ระยอง พุ่งทะลุ 500 คนแล้ว จึงขอความร่วมมือพี่น้องชาวระยอง การ์ดอย่าตก ยังต้องเฝ้าระวังและปฏิบัติตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดต่อไป เพื่อเอาชนะโควิด-19 เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ จ.ระยอง ยังเป็นพื้นที่เสี่ยง ส่วนการตรวจค้นหาผู้ป่วยในเชิงรุกก็ยังต้องดำเนินการต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจค้นเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงแล้ว จำนวน 11,731 คน
ด้านนายวีระศักดิ์ เจียมอนุกูลกิจ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง เผยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อรักษาหายกลับบ้านแล้ว 249 คน เหลือยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน รวมทั้งโรงพยาบาลสนาม 256 คน ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยไม่แสดงอาการ 169 คน อาการเล็กน้อยถึงปานกลาง 66 คน และมีอาการปอดอักเสบ 21 คน ส่วนด้านการรองรับผู้ป่วยนั้น จ.ระยอง ยังมีศักยภาพที่สามารถรับมือผู้ป่วยได้ โดยมีเตียงว่างรองรับผู้ป่วย 471 เตียง จากจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยที่มีทั้งหมด 731 เตียง ประกอบกับสถานการณ์แนวโน้มแพร่ระบาดและการตรวจค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ใน จ.ระยอง เริ่มมีแนวโน้มลดลง
ชลบุรีติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 49 คน
ส่วนที่ จ.ชลบุรี วันนี้มีรายงานผลตรวจยืนยันผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 49 คน ยอดรวมเป็น 567 คน ซึ่งเป็นกรณีใหม่จากการตรวจเชิงรุก นอกเหนือจากตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร และบ่อนพนัน จ.ระยอง เพราะมีสาเหตุระบาดจากสถานบริการโรงเบียร์ 90 อ.ศรีราชา ที่พบนักเที่ยวจำนวนมากติดเชื้อก่อนช่วงปีใหม่ที่ไม่แสดงอาการ และลามต่อเนื่องไปยังโรงเบียร์อีกแห่งใน อ.สัตหีบ โดยการติดเชื้อนี้เกิดขึ้นก่อนที่ จ.ชลบุรี จะมีคำสั่งปิดสถานบริการในพื้นที่ควบคุมสูงสุด
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เผยจากการตรวจเชิงรุกในพื้นที่ จ.ชลบุรี กว่า 10,000 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยันประมาณ 2,000 ราย โดย อ.ศรีราชา เป็นพื้นที่ระบาดมากที่สุด 253 ราย รองลงมา อ.บางละมุง 225 ราย
ด้าน พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ซึ่งลงพื้นที่ จ.ชลบุรี ในวันนี้ กล่าวว่า ทหารพร้อมให้ความช่วยเหลือ จากนั้น พล.อ.สุพจน์ ได้ลงพื้นที่ตรวจด่านคัดกรองเส้นทางเข้า-ออกพื้นที่ ซึ่งจังหวัดจัดตั้งทั้งสิ้น 17 จุด ตามคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพิ่มมาตรการเข้มข้นในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 5 จังหวัด ณ วันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา โดยได้ทำการตรวจคัดกรองรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า 1,200 คัน ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ตำรวจภูธร สาธารณสุข อสม. และองค์กรท้องถิ่น ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ขับขี่ ผู้ร่วมทาง ใบอนุญาตรับรองการเดินทาง และให้บริการสแกนคิวอาร์โค้ดหมอชนะทุกด่านคัดกรอง เพื่อการติดตามไทม์ไลน์
สมุทรสาครส่ง 292 แรงงานข้ามชาติหายป่วยโควิดกลับตลาดกลางกุ้ง
ขณะที่ จ.สมุทรสาคร ช่วงบ่ายวันนี้ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และ นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมกันส่งตัวแรงงานข้ามชาติ 292 คน ที่ถูกกักตัวอยู่ในศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 1 สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาคร กลับคืนสู่ตลาดกลางกุ้ง หลังจากกักตัวจนครบกำหนดระยะเวลา 10-14 วัน และตรวจซ้ำไม่พบเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นการยืนยันว่า แรงงานข้ามชาติทั้ง 292 คน ปลอดเชื้อ ปลอดภัย ปลอดโรคโควิด-19 แน่นอน
ด้านแรงงานข้ามชาติที่จะได้เดินทางกลับตลาดกลางกุ้ง ต่างก็ดีใจ เร่งขนข้าวของขึ้นรถ พร้อมกันนี้ยังได้รับมอบถุงยังชีพจากสภากาชาดไทย เป็นขวัญและกำลังใจด้วย
และเมื่อแรงงานข้ามชาติ 292 คน เดินทางไปถึงตลาดกลางกุ้ง บรรดาเพื่อนๆ แรงงานข้ามชาติที่อยู่ในตลาดกลางกุ้ง ต่างก็มารอต้อนรับด้วยความดีใจ พร้อมกับปรบมือต้อนรับดังสนั่นตลาดกลางกุ้ง
ทั้งนี้ เมื่อกลับมาถึงตลาดกลางกุ้งแล้ว จะต้องทำทะเบียนประวัติบุคคลเข้าพื้นที่ควบคุมพิเศษ โดยมีเจ้าหน้าที่ ตม.สมุทรสาคร ตรวจเอกสาร ประกอบด้วย หนังสือรับรองผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากสำนักงานสาธารณสุขฯ และพาสปอร์ต จึงจะกลับเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในตลาดกลางกุ้งได้ตามปกติ ซึ่งวันนี้บางคนก็มีครอบครัว มีลูกน้อย มีสามี ภรรยา มารอรับ เมื่อได้พบหน้ากันก็ได้เห็นน้ำตาแห่งความคิดถึง น้ำตาแห่งความดีใจที่รักษาโรคหาย และได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง หลังไม่ได้พบหน้ากันนานถึง 14 วัน
สสจ.สมุทรสาคร ยืนยัน 292 แรงงานปลอดเชื้อ ไม่แพร่-ไม่รับเชื้ออีก
ด้าน นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร บอกว่า สำหรับแรงงานที่ผ่านการกักตัวจนครบทั้ง 292 คน ตามกำหนดแล้วนี้ ถือเป็นบุคคลที่มีความปลอดภัยต่อสังคมแล้ว โดยพวกเขาจะไม่มีการแพร่เชื้อโควิด-19 ไปสู่บุคคลอื่น และจะไม่รับเชื้อเข้ามาในตัวเองอีก ดังนั้น กลุ่มคนเหล่านี้สามารถที่จะกลับไปใช้ชีวิตประจำวันและทำงานได้ตามปกติ ซึ่งนับจากนี้ทุกคนก็จะต้องกลับเข้าไปอยู่ในตลาดกลางกุ้ง และกักตัวเองอีก 14 วัน จนกว่าจะถึงวันที่ตลาดเปิดทำการค้าขายตามปกติ ดังนั้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนเชื่อมั่นและไว้วางใจได้ว่า บุคคลเหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มก้อนของผู้แพร่เชื้ออีกต่อไป ส่วนการตรวจหาผู้ติดเชื้อในสถานประกอบการขนาดใหญ่ตามกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ ได้ดำเนินการครบตามจำนวนแล้วประมาณ 100 แห่ง ผลปรากฏว่า พบมีผู้ติดเชื้อไม่เกินตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ส่วนแผนขั้นต่อไป คือ การตรวจหาผู้ติดเชื้อในกลุ่มโรงงานขนาดรองลงมา และกลุ่มเสี่ยง เพื่อดูการกระจายตัวของเชื้อโรค แต่ในภาพรวมขณะนี้พบว่า เชื้อโรคไม่มีการแพร่กระจายออกไปนอกโซนเป้าหมาย จึงเป็นข้อบ่งชี้ได้ว่า เราน่าจะสามารถควบคุมโรคได้ง่ายขึ้น และทำให้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น
และในวันพรุ่งนี้ (11 ม.ค.) ก็จะมีการปล่อยผู้ถูกกักตัวอีกราว 300 คน ซึ่งจะทำให้เตียงสนามว่างประมาณ 600 เตียง จึงสามารถรองรับผู้ติดเชื้อเข้ามาได้เพิ่ม. – สำนักข่าวไทย
