ไขข้อข้องใจ แอปฯ หมอชนะ คืออะไร และหากไม่ใช้จะมีความผิดหรือไม่?

ข้อเท็จจริงเรื่องแอป #หมอชนะ
FACT About #MorChana App


รู้จักกับแอปฯ หมอชนะ แอปพลิเคชันที่ประชาชนทุกคนต้องโหลดเพื่อป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัส COVID-19

8 มกราคม 2564
บทความโดย : ชณิดา ภิรมณ์ยินดี / ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์


:: แอปฯ หมอชนะ คืออะไร ? ::

แอปฯ ‘หมอชนะ’ เปิดตัวตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ช่วงแรกของการระบาดโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพื่อเป็นแอปฯ ช่วยประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19  โดยลักษณะการทำงานจะเป็นการเก็บข้อมูลการเดินทางของผู้ใช้แบบเรียลไทม์ และคอยแจ้งเตือนหากผู้ใช้กำลังอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่เสี่ยงที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19

บนเว็บไซต์ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ระบุถึงแอปนี้ว่า


“หมอชนะ” เป็นแอปพลิเคชันที่บันทึกข้อมูลการเดินทางของผู้ใช้งานด้วยเทคโนโลยี GPS และ Bluetooth ร่วมกับการสแกน QR Code เช่น ไทยชนะ เพื่อเช็คอินตามสถานที่ต่าง ๆ  ทำให้บันทึกการเดินทางของผู้ใช้งานแม่นยำและเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กรมควบคุมโรคและบุคลากรทางการแพทย์สอบสวนโรคได้อย่างรวดเร็ว โดยหมอชนะจะแจ้งไปยังกลุ่มผู้ใช้งานที่มีประวัติสัมผัสหรือเข้าใกล้กับผู้ติดเชื้อ Covid-19 ถึงวิธีการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง [https://www.dga.or.th/th/profile/2176/]

นอกจากนี้ แอปหมอชนะ ยังสามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลได้ว่า ผู้ใช้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในระดับใด โดยผู้ใช้จะต้องรายงานข้อมูลความเสี่ยงของตนเองเพื่อให้แอปฯ ได้นำมาวิเคราะห์และประมวลผล เช่น อาการที่เข้าข่ายการติดเชื้อไวรัส ประวัติการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง หรือการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อในระยะเวลา 14 วัน หากระบบพบว่าผู้ใช้งานมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อสูง ระบบจะทำการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ที่อยู่โดยรอบ และยังแนะนำถึงวิธีการปฏิบัติตนที่ถูกต้องให้ผู้ใช้ได้ทราบอีกด้วย

การลงทะเบียนเข้าใช้งานแอปฯ จะเป็นแบบ ไม่ระบุตัวตน (Anonymous) โดยที่ไม่ต้องระบุชื่อและนามสกุล เพราะฉะนั้นผู้ใช้สามารถวางใจได้ว่าการใช้งาน ‘หมอชนะ’ จะไม่มีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 

“ แอปพลิเคชันถูกออกแบบไม่ให้กระทบต่อเสรีภาพของผู้ใช้งานและระมัดระวังการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล” หน่วยงานเจ้าของแอประบุ

:: แอปฯ หมอชนะ มีการเก็บข้อมูลบุคคลหรือไม่ ? ::

แอปฯ หมอชนะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปเท่าที่จำเป็นเกี่ยวข้องและพอเพียงต่อขอบเขตและวัตถุประสงค์ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับคำแนะนำวิธีการปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยจะมีการเก็บข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงไปยังโทรศัพท์มือถือและบันทึกการเดินทางของผู้ใช้งาน เพื่อที่จะสามารถส่งข้อความแจ้งเตือนและคำแนะนำในการปฏิบัติตนไปยังแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ในกรณีที่ผู้ใช้งานมีประวัติเคยสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วย  Covid-19

:: ทำไมประชาชนจึงต้องใช้ ‘หมอชนะ’ และหากไม่ใช้จะมีความผิดจริงหรือ ? ::

ในการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 ต่อเนื่องข้ามถึงปี 2564 และมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมใกล้หลักหมื่นอย่างรวดเร็ว เป็นสถานการณ์ที่ทำให้รัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.จำเป็นต้องออกมาตรการที่เข้มงวดขึ้นเรื่อย ๆ การใช้แอปหมอชนะ ก็กลายมาเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญเพื่อช่วยการติดตามผู้สัมผัส

โดยเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ได้กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า ผู้ที่ติดเชื้อรายใด ไม่มีแอปพลิเคชั่น ‘หมอชนะ’ จะถือว่าผู้นั้นละเมิดข้อกฎหมายตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 17)

“เน้นย้ำว่าจะต้องมีแอปพลิเคชันอยู่ในโทรศัพท์มือถือเพื่อการติดตามตัว ซึ่งเดิมนี้เราใช้ไทยชนะอยู่ แต่ต่อไปคือการมีหมอชนะจะต้องเกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเช้านี้พูดคุยกันในที่ประชุมของศบค. ชุดเล็กนะครับบอกว่า ต่อไปนี้ใครที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้วพบว่าไม่มีการติดตั้งแอปหมอชนะก็จะถือว่าท่านละเมิดในข้อกฎหมายฉบับที่ 17  นี้นะครับ นี่คือสิ่งที่เราจะเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่ามีหลายครั้งที่เราไม่สามารถที่จะติดตามไทม์ไลน์ออกมาได้ เพราะฉะนั้นหมอชนะจะเป็นคำตอบในการระบาดระลอกนี้นะครับ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน โฆษก ศบค. รวมถึงรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหน้าเฟสบุ๊กของ ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ได้ชี้แจงว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องโหลดแอปหมอชนะ หรือการไม่มีแอปหมอชนะจะเป็นความผิดแต่อย่างใด 

:: แอปหมอชนะ ใช้งานอย่างไร ::

หลังจากดาวน์โหลด และลงทะเบียนครั้งแรกแล้ว แอปฯ หมอชนะจะคอยส่งบันทึกข้อมูลการเดินทางของผู้ใช้งานแบบอัตโนมัติ  โดยแอปฯ จะทำการระบุตำแหน่งของผู้ใช้งาน ซึ่งสามารถตรวจพบความเสี่ยงของผู้ใช้งานหากมีประวัติเคยสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19  ผู้ใช้งานที่มีความเสี่ยงจะได้รับข้อความแนะนำวิธีการปฏิบัติตนที่ถูกต้องจากกรมควบคุมโรค ผ่านช่องทางแอปพลิเคชันต่อไป

:: โหลดแอปหมอชนะ แล้วทำให้แบตมือถือหมดเร็วหรือไม่ ? ::

ในแอปหมอชนะมีทางเลือกให้เปิดใช้งาน “การค้นหาด้วยบลูทูธ” ซึ่งมีคำอธิบายว่า “เปิดการค้นหาการเข้าใกล้บุคคลอื่นผ่านบลูทูธพลังงานต่ำ โดยอัตโนมัติ อาจส่งผลให้มือถือมีการใช้พลังงานมากกว่าปกติ สามารถเลือกปิดได้ถ้าต้องการ แต่ระบบจะไม่สามารถค้นหาอุปกรณ์อื่นโดยอัตโนมัติได้” นั่นคือ ข้อมูลที่ตรงไปตรงมาว่า อาจทำให้มีการใช้พลังงานมากกว่าปกติ

:: เมื่อติดตั้งแอปหมอชนะแล้ว ถูกเข้าถึงข้อมูลใดบ้าง ? ::

จากการตรวจสอบในหมวดการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของระบบปฏิบัติการ iOS 14 พบว่า แอปหมอชนะ ได้ขอสิทธิ์ในการเข้าถึง 4 หมวด คือ พิกัด (Location), บลูทูธ (Bluetooth), การเคลื่อนไหวและฟิตเนส (Motion & Fitness) และ กล้อง (Camera)

ดูคลิปแนะนำแอปหมอชนะ จาก สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล > https://youtu.be/U1WaiKNFfiM

ดาวน์โหลดแอปหมอชนะ 
 iOS 👉 https://apple.co/3mTo6en
Android 👉 https://bit.ly/3mWguaS
HUAWEI AppGallery 👉  https://bit.ly/2WQ9HFa

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]