คลินิกแก้หนี้ ปรับยา 2 สูตรใหม่ “ลดดอกและพักหนี้” ใช้ถึงกลางปี 64


กรุงเทพฯ 24 ต.ค. – คลินิกแก้หนี้ปรับยา 2 สูตรใหม่ “ลดดอกและพักหนี้” ใช้ถึงกลางปี 64 เพื่อลดผลกระทบโควิด



นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ประชุมเพื่อประเมินผลมาตรการช่วยเหลือที่เรียกว่า “ยา 2 สูตร” คือ การลดดอกเบี้ยและการพักชำระหนี้ ซึ่งได้ดำเนินการใน 6 เดือนที่ผ่านมา (เม.ย.- ก.ย. 2563) ผลที่ออกมาโดยรวมถืออยู่ในระดับที่น่าพอใจ ลูกหนี้ของคลินิกแก้หนี้ส่วนใหญ่ประมาณ 94% ยังที่จ่ายชำระค่างวดอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบและพักชำระหนี้มีเพียง 6% เท่านั้น


แต่อย่างไรก็ดี มองไปข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มที่ไม่แจ่มใสนักและยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก คณะกรรมการฯ จึงขยายมาตรการช่วยเหลือออกไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2564 แต่ได้ปรับปรุงแนวทางการช่วยเหลือให้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งจะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ และผลกระทบที่จะมีต่อความสามารถชำระหนี้ของลูกหนี้ในโครงการคลินิกแก้หนี้อย่างใกล้ชิด


“มาตรการช่วยเหลือที่เรียกว่า “ยา 2 สูตร” หรือ ยาสองขนาน ที่คลินิกแก้หนี้ได้ดำเนินการไปในช่วงเมษายน ถึง กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ผลลัพธ์ที่ออกมาถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ กล่าว คือ ลูกหนี้ที่อยู่ในกลุ่มเลื่อนกำหนดชำระหนี้หรือเลือกที่จะใช้ “ยาสูตรที่ 1” มีเพียง 6% แม้ว่าโครงการกำหนดให้เป็นสิทธิสำหรับลูกหนี้ทุกรายที่จะเลื่อนกำหนดชำระหนี้ โดยไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ ผลที่ออกมาชี้ว่าการลดดอกเบี้ย 2% ถือเป็นแรงจูงใจสำคัญ ที่ทำให้ลูกหนี้ที่มีศักยภาพไม่เลือกที่จะพักชำระหนี้ และยังคงชำระค่างวดเข้ามาตามปกติ
ลูกหนี้ที่ยังคงชำระค่างวดเข้ามาต่อเนื่องหรือเลือกที่จะใช้ “ยาสูตรที่ 2” มีสูงถึง 94% ซึ่งประกอบด้วยลูกหนี้ที่ชำระหนี้เข้ามาครบค่างวดทั้งหมด 74% ในขณะที่ลูกหนี้ 20% ชำระหนี้ได้บางส่วน โดยจำนวนเงินต่ำสุดที่ชำระเข้ามา คือ 100 บาท


เราประเมินว่า มาตรการช่วยเหลือ ยา 2 สูตรของโครงการคลินิกแก้หนี้ สามารถตอบโจทย์ของลูกหนี้และเจ้าหนี้ไปพร้อมๆ กัน ลูกหนี้ที่ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้รับการผ่อนปรนให้พักชำระหนี้โดยไม่ถือว่าผิดนัด ประวัติจะไม่เสีย ในขณะที่ลูกหนี้ที่ยังผ่อนชำระเข้ามาต่อเนื่อง ได้รับการลดดอกเบี้ยเพิ่มเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงโควิด ซึ่งในมุมนี้ ถือว่าช่วยลดความกังวลด้านสภาพคล่องของสถาบันการเงินด้วย” นางธัญญนิตย์กล่าว


นางธัญญนิตย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการฯ ประเมินว่า มองไปข้างหน้า แนวโน้มของเศรษฐกิจไทยยังไม่แจ่มใสนัก และอาจจะใช้เวลาอีกสักพักก่อนที่จะฟื้นตัวกลับเข้าสู่ระดับปกติ จึงเห็นควรให้ปรับปรุงและขยายมาตรการความช่วยเหลือออกไปอีก 9 เดือนจนถึงมิถุนายน 2564 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของลูกหนี้ในช่วงที่ยากลำบาก



ทั้งนี้ การขยายมาตรการ ยา 2 ขนาน เนื่องจากเห็นว่ามีประสิทธิผลสามารถตอบโจทย์ทั้งฝั่งลูกหนี้และเจ้าหนี้ operation การดำเนินการไม่ยุ่งยากซับซ้อน และแนวทางการปรับปรุงก็มาจากข้อมูลผลของมาตรการที่เราเห็น (evidence based)ซึ่งโครงการมีลูกหนี้ 2 กลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือแตกต่างกัน


กลุ่มแรก คือ ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ มีรายได้และสภาพคล่องลดลง บางรายตกงาน ซึ่งหากไม่ได้รับความช่วยเหลือก็อาจต้องออกโครงการ กลับเข้าสู่วงจรหนี้เสียเช่นเดิม กลุ่มนี้จะได้รับยาขนานแรก โดยโครงการได้ปรับปรุงแนวทางโดยลูกค้าต้องลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิตามมาตรการนี้ (opt in) จากเดิมให้สิทธิแก่ลูกหนี้ทุกรายเป็นการทั่วไป ลูกหนี้สามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ง่ายๆ เพียงเข้าไปในเวปไซค์ www.คลินิกแก้หนี้.com และกรอกข้อมูลแสดงความจำนงผ่านเข้ามา อยากจะขอย้ำว่า ลูกหนี้ที่สนใจจะเข้ามาตรการนี้จะต้องกรอกข้อมูลขอเข้ามาตรการซึ่งไม่เหมือนช่วงแรก (โดยกำหนดต้องแจ้งเข้ามาภายในเดือนพฤศจิกายน 2563)

กลุ่มที่สอง คือ ลูกหนี้ที่ยังพอชำระค่างวดได้ โครงการจะกระตุ้นให้ลูกหนี้กลุ่มนี้ชำระค่างวดเข้ามาตามกำลังความสามารถ โดยจะได้รับยาขนานที่สอง คือ ลดดอกเบี้ยให้ 1-2% หากลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ในช่วงนี้ แต่จะมีการแบ่งกลุ่มที่จะให้ความช่วยเหลือออกเป็นดังนี้
1.กลุ่มที่จ่ายค่างวดเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 80 ในช่วง 9 เดือนข้างหน้าจะได้รับการลดดอกเบี้ย 2%
2.กลุ่มที่จ่ายค่างวดเฉลี่ยร้อยละ 40-79.99ในช่วง 9 เดือนข้างหน้าจะได้รับการลดดอกเบี้ย 1%


ดอกเบี้ยที่ทางคลินิกแก้หนี้ได้ลดให้ลูกหนี้ในโครงการเพิ่มเติมจะถูกนำไปตัดเงินต้น ซึ่งจะทำให้ยอดหนี้ทั้งหมดลดลงเร็วขึ้นด้วย ประชาชนที่มีหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล ที่สมัครเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ในช่วงนี้จนถึงมิถุนายน 2564 จะได้รับสิทธิลดดอกเบี้ย 1-2 % จากโครงการเช่นเดียวกัน ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่จ่ายจริงอยู่ที่ 2-3% ถือว่าผ่อนปรนมากเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดทั่วไป


ส่วนความคืบหน้าของโครงการคลินิกแก้หนี้ ณ เดือน กันยายน 2563 โครงการคลินิกแก้หนี้ สามารถช่วยประชาชนแก้หนี้บัตรไปแล้วกว่า 24,000 ใบ ครอบคลุมลูกหนี้กว่า 8,300 ราย ซึ่งมีหนี้บัตรเฉลี่ยรายละ 3 ใบ มูลหนี้เฉลี่ยต่อราย 240,000 บาท และขณะนี้มีลูกหนี้ที่รอลงนามในสัญญาอีกกว่า 900 ราย และอีก 1,200 ราย อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจเช็คข้อมูลกับสถาบันการเงิน คาดว่าในปี 2563 ตัวเลขผู้เข้าร่วมโครงการสะสมจะเกิน 10,000 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]

อัญเชิญ “พระบรมรูป ร.7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 23 ส.ค.- อัญเชิญ “พระบรมรูปรัชกาลที่ 7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา ใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า สูง 7.7 เมตร ด้าน “วันนอร์” คาดแล้วเสร็จ พ.ค.69 เตรียมหารือ สนว. จัดพระราชพิธีเปิดฯ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมข้าราชการรัฐสภา ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าอยู่หัว องค์ใหม่ พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ และเครื่องประกอบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นประดิษฐาน หน้าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังระบุว่า การก่อสร้างและอัญเชิญพระบรมรูป จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤษภาคม 2569 โดยจะมีการหารือกับสำนักพระราชวัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดพระราชพิธีเปิดพระบรมรูปต่อไป ซึ่งวันนี้ต้องทำให้เกิดความสง่างาม รวมทั้งปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าว มีการติดตามรับผิดชอบจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานกลาง […]

มท.2 พบทหารเขมรดักซุ่มเนิน 350 ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2

23 ส.ค.- กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบทหารเขมร BHQ ดักซุ่มเนิน 350 ตรวจการณ์ฝ่ายไทย ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. ทหารฝ่ายไทยได้ตรวจพบทหารฝ่ายกัมพูชา ประมาณ 2–3 นาย คาดว่าเป็นหน่วย BHQ เนื่องจากมีการสวมหมวกทรง FAST สีดำ และได้กระทำการดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตก เนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ห่างจากแนวเส้นปฏิบัติการเข้ามาฝั่งไทยประมาณ 100 เมตร ขณะเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ หน่วยได้ตรวจพบ ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณจุดที่พบทหารกัมพูชาดักซุ่ม จำนวน 1 ทุ่น หน่วยจึงได้ใช้เครื่องตรวจทุ่น ตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด และได้ทำเครื่องหมาย เพื่อรอรับการสนับสนุนชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดดำเนินการต่อไป จากสถานการณ์ดังกล่าวยืนยันได้ว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงลักลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่อธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาอย่างต่อเนื่อง ทหารฝ่ายไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติ […]

ดีเปรสชันทะเลจีนใต้ทวีกำลังเป็น “พายุโซนร้อนคาจิกิ”

กรุงเทพฯ​ 23 ส.ค.​ – กรม​อุตุฯ ​เผยเช้า​นี้​ “ดีเปรสชัน” ทะเลจีนใต้ตอ​นบน ​ทวีกำลังเป็น “พายุโซนร้อนคาจิกิ” แล้ว​ คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วง 25–26 ส.ค.นี้ ส่งผลกระทบไทยตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ส.ค.) เป็นต้นไป นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน​ “คาจิกิ” มีแนวโน้มเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนประมาณ​วันที่​ 25​ -​26​ สิงหาคม​ ก่อนเข้าสู่สปปลาวและภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ของ​ไทย​ หลังจาก​ขึ้นฝั่ง​ที่​เวียดนาม​ คาดว่า​พายุ​โซน​ร้อน​จะอ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ภาคตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ของ​ไทย​จะเป็​นหย่อม​ความกดอากาศ​ต่ำ​ แต่ยังคงส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่ โดยเส้นทางพายุใกล้เคียงกับพายุ “วิภา” ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ จากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” ร่วมกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24–27 สิงหาคม 2568 โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ครอบคลุมหลายภาค ได้แก่​ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน​ ภาคเหนือ​ ภาคกลางภาคตะวันออก​ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้ คาดว่า​ […]