BIG STORY : เปิดปมอุกอาจ สัตวแพทย์ยิง ผอ.องค์การสวนสัตว์ฯ

สงขลา 3 ต.ค. – เกิดเหตุสลด เมื่อสัตวแพทย์สวนสัตว์สงขลา ก่อเหตุยิง ผอ.องค์การสวนสัตว์ฯ เสียชีวิต ขณะมาสอบสวนเรื่องลูกเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานหายไป 2 ตัว และใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวตายที่บ้านพัก


เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (3 ต.ค.) พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ ผกก.สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งว่า เกิดเหตุยิงกันตายภายในที่ทำการสวนสัตว์สงขลา จึงไปตรวจจุดเกิดเหตุเป็นห้องทำงานของผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา พบร่างนายสุริยา แสงพงค์ อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นกลางห้อง โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. หลายนัด ลักษณะกระหน่ำยิง ทั้งที่ศีรษะและลำตัว และพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกอยู่ในห้องถึง 19 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายภูวดล สุวรรณะ อายุ 50 ปี เป็นสัตวแพทย์หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ วิจัยและสุขภาพสัตว์ สวนสัตว์สงขลา หลังก่อเหตุได้ออกจากห้องกลับไปยังบ้านพักที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร และขึ้นไปเก็บตัวอยู่ในห้องนอนของลูกชายบนชั้น 2 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เข้าไปปิดล้อม พร้อมกับประสานญาติให้ยอมมอบตัว โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ปิดล้อมอยู่นั้น ได้ยินเสียงเพลงเศร้าถูกเปิดจากโทรศัพท์มือถือออกมาจากในห้องด้วย ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เมื่อเข้าไปตรวจดูก็พบว่า นายภูวดลได้ใช้อาวุธปืน 9 มม. จ่อยิงที่ศีรษะฆ่าตัวตายแล้ว


และจากการสอบสวนพยานแวดล้อม ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสุริยา ซึ่งลงพื้นที่ไปตรวจสอบเรื่องเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานหายไปอย่างมีเงื่อนงำ 2 ตัว ได้เรียกนายเฉลิมวุฒิ เกษตรสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา และนายภูวดล เข้าไปสอบถามเรื่องนี้ แต่ระหว่างนั้น นายภูวดลได้บอกให้นายเฉลิมวุฒิ ออกมาจากห้อง เพราะต้องการคุยกับนายสุริยา เป็นการส่วนตัว สักพักจึงเกิดการยิงกันขึ้น และน่าจะมีสาเหตุมาจากนายภูวดลไม่พอใจที่ถูกนายสุริยาสั่งย้ายกะทันหัน เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (2 ต.ค.) และมีผลในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ โดยให้ไปปฏิบัติงานในหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญสวนสัตว์ สังกัดสำนักอนุรักษ์และวิจัยแทน เนื่องจากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีที่เก้งเผือกทั้ง 2 ตัว หายไป

ส่วนที่บ้านพักของนายสัตวแพทย์ภูวดล สุวรรณะ เจ้าหน้าที่ได้นำร่างไร้วิญญาณส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลา เพื่อชันสูตรศพ ในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่ข้างศพ ซึ่งเสียชีวิตด้วยการยิงเข้าที่ขมับขวา นอนอยู่บนเตียงในห้องของลูกชาย โดยมีจดหมายเขียนถึงครอบครัว และการจัดการทรัพย์สินที่มีอยู่ พร้อมด้วยเงินสด 3,000 บาท วางอยู่บนโต๊ะในห้องที่เกิดเหตุ

นางชลิตา มาลวรรโณ พนักงานสวนสัตว์สงขลา ผู้ใต้บังคับบัญชาของนายสัตวแพทย์ภูวดล สุวรรณะ เปิดเผยว่า ปกติคุณหมอเป็นคนใจเย็น ไม่กดดันลูกน้อง รักครอบครัว ที่ผ่านมาเคยถูกย้ายไปช่วยราชการที่ จ.นครราชสีมา มาแล้วเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ซึ่งในขณะนั้นภรรยาเพิ่งจะคลอดลูกคนเล็กได้ไม่นาน โดยภรรยาของหมอ เล่าให้ฟังว่า คุณหมอมีอาการเครียด นอนไม่หลับตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา หลังจากทราบคำสั่งย้ายว่ามีชื่อของตนเองรวมอยู่ด้วย โดยส่วนตัวเชื่อว่า การก่อเหตุของคุณหมอครั้งนี้ มาจากความเครียดจากการถูกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม


นายวรัญญู ล้วนมณี อายุ 23 ปี ญาติสนิทอีกคนที่เคยอยู่กับนายภูวดลที่บ้านพักหลังนี้ บอกว่า สาเหตุน่าจะมาจากความเครียดที่ถูกสั่งย้ายด่วน เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (2 ต.ค.) โดยให้ย้ายไปภายในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ ซึ่งน่าจะทำให้เกิดความเครียด แต่ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่เก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานหายไป 2 ตัว หรือไม่

ขณะที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองสงขลา ได้ลงพื้นที่ติดตามเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ โดยนายนิพนธ์ เปิดเผยว่า เมื่อเช้านี้ นายสุริยาได้ไปหาที่บ้านพัก และดื่มกาแฟกัน รวมทั้งพูดคุยกันเรื่องที่เก้งพระราชทานหายไป 2 ตัว โดยนายสุริยา บอกว่า จะแก้ปัญหาสวนสัตว์สงขลา และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักที่มีชื่อเสียง เพราะสงขลาเป็นบ้านเกิด ซึ่งตนก็พอรู้ปัญหานี้ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ และเชื่อว่าน่าจะมาจากอารมณ์ชั่ววูบของผู้ก่อเหตุ เพราะทั้งสองคนก็รู้จักกัน และเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา ด้วย

ในส่วนของญาตินายภูวดล ระบุว่า น่าจะมาจากความเครียดที่โดนย้าย โดย ร.ต.ต.สมยศ ล้วนมณี อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นญาติสนิท บอกว่า เมื่อเช้านี้ นายภูวดล บอกภรรยาว่า ดูแลลูก 2 คนด้วย ปกตินายภูวดล เป็นคนนิสัยดี และรักลูกน้องมาก

สำหรับศพของนายสุริยา ญาติจะรับกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.ชลบุรี หลังจากที่ชันสูตรเสร็จแล้ว ส่วนศพของนายภูวดล ญาติเตรียมรับกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ อ.สทิงพระ จ.สงขลา. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 10 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งบริเวณภาคอีสาน ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ […]