นครปฐม 7 ก.ค. – แค่ขอชนแก้ว ถูกยิงดับ ชายวัย 30 นั่งดื่มในร้านคาราโอเกะ ขอชนแก้วโต๊ะข้างๆ แต่ถูกปฏิเสธ จนมีปากเสียงทะเลาะวิวาท ผู้ตายคว้าขวดเป็นอาวุธ กลับถูกยิงสวน
เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วง 01.51 น. ตำรวจ สภ.สามควายเผือก ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกอาการสาหัสที่ร้านคาราโอเกะ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนขนาด .45 ตกอยู่ 1 ปลอก มีร่องรอยเลือดกระจายเต็มพื้น ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์สีเทาจอดอยู่มีคราบเลือดเต็มรถ พร้อมรองเท้าข้างรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ตามรอยเลือดที่หยดเป็นทาง ไปถึงถนนอีกฝั่ง พบนายอรรถพล นอนแทบหมดสติ กู้ชีพกำลังช่วย CPR ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายสุดยื้อชีวิต เพราะนายอรรถพลนอกจากถูกยิงที่ท้องด้านขวา ยังถูกมีดฟันที่แขนขวา อาการสาหัส
นายเกษม เจ้าของร้าน เล่าให้นักข่าวฟังทั้งที่ใบหน้ายังมีร่องรอยบาดแผล จากการเข้าไปห้ามไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย รวมถึงเปิดวงจรปิดให้ดูว่า เหตุการณ์เริ่มต้นจากคนชื่อนายเกียรติศักดิ์ หรือ ติ เข้ามานั่งกินเหล้าที่ร้านคาราโอเกาะกับผู้หญิงคนหนึ่ง สักพักผู้หญิงกลับไปก่อน
จากนั้น นายพงศ์สรัญ หรือ สท.เอิร์ท อายุ 41 ปี และนายเอกพจน์ หรือ เอก คนก่อเหตุ ได้เดินเข้ามานั่งที่ร้าน พร้อมกับผู้ชายผมยาวที่เจ้าของร้านไม่รู้จัก ไม่นานผู้ชายผมยาวเดินหายเข้าไปกับนายเอก คนก่อเหตุ จังหวะนั้น นายอรรถพล คนตาย ได้เดินมาขอชนแก้วกับนายเกียรติศักดิ์ หรือ ติ แต่ ติ อารมณ์ไม่ดีอยู่ เกิดอาการไม่พอใจ ทำให้นายอรรถพล ถามกลับไปว่า “ขอชนแก้วแค่นี้เองไม่ได้เหรอ”
สท.เอิร์ท จึงถามนายอรรถพล กลับไปว่า ทำงานที่ไหน อรรถพลบอกว่า ทำงานดับเพลิงที่เทศบาลสามควายเผือก สท.เอิร์ท สวนกลับว่า “มึงเป็นลูกน้องกูนะ กูเป็น สท.แค่ยกหูก็จัดการมึงได้แล้ว” และเรื่องไม่จบเท่านี้ เพราะ สท.เอิร์ท ได้โทรตามคนชื่อเอกให้เข้ามา และเอกไม่ได้มาคนเดียว มากับผู้ชายผมยาวที่เจ้าของร้านไม่รู้จัก
จากนั้น สท.เอิร์ท ได้เดินไปตบหน้านายอรรถพล นายอรรถพลก็สู้ โดยพุ่งตัวจะเอาขวดไปฟาด สท. สุดท้ายเกิดการชุลมุน นายเกียรติศักดิ์ หรือ ติ เข้าผสมโรง ก่อนนายเอกจะชักปืนออกมายิงนายอรรถพล จนล้มลงที่โต๊ะ แต่อรรถพลยังดิ้นเฮือกสุดท้าย วิ่งหนีตายไปขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์ ทั้งที่เลือดออกจำนวนมาก แต่พอเห็นว่าขี่รถไปไม่ไหว ก็วิ่งหนีไปข้างถนน กระทั่งเจ้าของร้านเห็นท่าไม่ดี รีบโทรแจ้งตำรวจ และกู้ชีพเข้าช่วยเหลือนายอรรถพล
คดีนี้ ตำรวจยังกำลังสอบปากคำบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ และเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ คือนายเอกที่ภายหลังก่อเหตุได้ขี่รถหนีไปเส้นทางตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล โดยตำรวจตามพิกัดได้เท่านี้ เนื่องจากเหมือนว่าเอกจะเปลี่ยนซิมมือถือตามสัญญาณไม่ได้.-สำนักข่าวไทย