วธ.  เปิด “เส้นทางตามรอยนาคา บึงกาฬ “

บึงกาฬ13 มิ.ย.- กระทรวงวัฒนธรรม  เปิด “เส้นทางตามรอยนาคา ดินแดนมหัศจรรย์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง จังหวัดบึงกาฬ” ส่งเสริมการท่องเที่ยวในมิติศาสนาและวัฒนธรรม


นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
เป็นประธานเปิดกิจกรรมเส้นทางความเชื่อความศรัทธาแห่งลุ่มแม่น้ำโขง “เส้นทางตามรอยนาคา ดินแดนมหัศจรรย์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง” จังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วย นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ

ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นายสำรวย นักการเรียน ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม นายขัตติยา ชัยมณี วัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม วัฒนธรรมจังหวัด 19 จังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดบึงกาฬ เข้าร่วม ณ ตำหนักเจ้าปู่อือลือนาคราช (หลังใหม่) จังหวัดบึงกาฬ


นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม
โดยกรมการศาสนาร่วมกับจังหวัดบึงกาฬ กรมการท่องเที่ยว กรมประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารส่วนจังหวัด ฯลฯ รวมทั้งหน่วยงานในพื้นที่ร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมทั้งภาครัฐและเอกชน ดำเนินนโยบายขับเคลื่อน Soft Power ส่งเสริมการท่องเที่ยวในมิติทางศาสนาและวัฒนธรรม โดยจัดกิจกรรมตามรอยเส้นทางธรรมแห่งศรัทธา ภายใต้หัวข้อ “เส้นทางความเชื่อความศรัทธาแห่งลุ่มแม่น้ำโขง : เส้นทางตามรอยนาคา ดินแดนมหัศจรรย์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง” ในวันที่ 12 – 13 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดบึงกาฬ  ภายงานมีการจัดนิทรรศการชุมชนคุณธรรมต้นแบบ วัดศิริมงคลวราราม อำเภอบึงโขงหลง ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ (ศพอ.) ต้นแบบ วัดอรัญญานี อำเภอพรเจริญ การจัดสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม จัดจัดสาธิตอาหารแบบ “พาแลง” กับเมนูอร่อย เมนูห้ามพลาด และรสชาติที่หายไป

ในส่วนของวันที่ 13 มิถุนายน 2568 จัดการเปิดงานจะเดินทางไปยัง “ถ้ำนาคา” อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอโขงหลง เพื่อเปิดเส้นทาง และร่วมหารือแนวทางการพัฒนาต่อยอดเส้นทางตามรอยนาคา ดินแดนมหัศจรรย์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง จังหวัดบึงกาฬ โดยถ้ำนาคาเป็นถ้ำหินทรายอายุ 70 ล้านปี ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ทำให้หินเกิดการแตกตัวเป็นลวดลายคล้ายเกล็ดพญานาค เรียกว่า “ซันแครก” เชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่สถิตของพญานาค ผู้คนนิยมกราบไหว้ขอพร เรื่อง โชคลาภและการงาน ซึ่งสังคมไทยมีคติความเชื่อที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับนาคมาอย่างยาวนาน มีความเกี่ยวพันกับวิถีชีวิต สะท้อนถึงตำนานและความเชื่อมาแต่อดีต สื่อออกมาผ่านทางขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรม พิธีกรรมต่างๆ มาจนถึงปัจจุบัน และเยี่ยมชมสถานที่สำคัญระหว่างเส้นทาง อาทิ จุดเช็คอิน “ถ้ำนาคา” ไหว้เจดีย์หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ชมวิว “ผาใจขาด” และไหว้เจดีย์หลวงปู่วัง ฐิติโร ฯลฯ  นอกจากนี้ ขอเชิญชวนประชาชนที่มาร่วมกิจกรรม “ถ่ายภาพเช็คอินถ้ำนาคา” โพสต์ลง Facebook ตั้งค่าเป็นสาธารณะ พร้อมติดติดแฮชแท็ก #เส้นทางตามรอยนาคากรมการศาสนา ตั้งแต่บัดนี้ – วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 โดยประชาชนที่ร่วมกิจกรรม 100 ท่านแรก จะได้รับของรางวัลเป็นที่ระลึก โดยประกาศผลในวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 หน้าเพจ Facebook กรมการศาสนา

ทั้งนี้ “เส้นทางตามรอยนาคา ดินแดนมหัศจรรย์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง จังหวัดบึงกาฬ” ยังประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญ อีกจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1. ป่านันทนาการหินสามวาฬ ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ เยี่ยมชมเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีก้อนหินขนาดใหญ่สามก้อน เรียงตัวกันคล้ายครอบครัวปลาวาฬสามตัว อายุประมาณ 75 ล้านปี และเป็นจุดชมแสงสีทองของพระอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านสายหมอก


2. ชุมชนวัดศรีสามัคคีธรรม (วัดนาคกี้) ตำบลศรีวิไล อำเภอศรีวิไล สถานที่จัดแสดงเรื่องราวและวัตถุที่เกี่ยวข้องกับนาคกี้ ประติมากรรมพญานาคสร้างสรรค์ร่วมสมัย พญานาคน้อยใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของจังหวัด และ

3. ตำหนักเจ้าปู่อือลือนาคราช ตำบลบึงโขงหลง อำเภอบึงโขงหลง สถานที่ที่มีตำนานพญานาค “เจ้าปู่อือลือนาคราช” ได้รับการสาปให้กลายเป็นนาคเฝ้าบึงโขงหลง สักการะขอพร เรื่อง การงาน การเงิน โชคลาภ และความปลอดภัย

โครงการจาริกเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา เป็นโครงการที่สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณ (Spiritual Tourism)  ในปี 2568 กรมการศาสนาร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการการดำเนินงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงมิติศาสนา จำนวน 4 เส้นทาง ได้แก่ 1) เส้นทางสักการะพระบรมธาตุ 2) เส้นทางตามรอยพระเถราจารย์ 3) เส้นทางตามรอยความเชื่อความศรัทธาแห่งลุ่มแม่น้ำโขง และ 4) เส้นทางในมิติศาสนาและวัฒนธรรมอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน เกิดการเรียนรู้หลักธรรมคำสอนทางศาสนาผ่านการท่องเที่ยวศาสนสถานสำคัญและวิถีวัฒนธรรมในพื้นที่ ให้วัด ศาสนสถาน เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งส่งเสริมศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงความเชื่อ และประวัติศาสตร์ที่สะท้อนวิถีชีวิตของคนในชุมชนบนฐานของมิติทางศาสนาและวัฒนธรรม 

นอกจากนี้ ยังมีตำนานปรากฏต่างๆ เช่น ตำนานแห่งการสร้างบ้านแปงเมืองที่เล่าขานสืบมา สันนิษฐานว่านาคอาจจะเป็นกลุ่มชนดั้งเดิมที่มีถิ่นฐานอยู่ในเขตหนองแสทางตอนใต้ของมณฑลยูนนาน ต่อมาได้เคลื่อนย้ายอพยพลงมาตามลำน้ำโขง และตั้งหลักแหล่งอยู่อาศัยตามลุ่มน้ำสองฝั่งโขงจนถึงทุกวันนี้ เหตุนี้จึงมีความเชื่อว่า นาคเป็นบรรพชนที่คุ้มครองรักษาบ้านเมืองให้มีความร่มเย็นเป็นสุขและเจริญรุ่งเรือง เพราะนาคเป็นผู้บันดาลให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ขณะเดียวกันหากมนุษย์เบียดเบียนธรรมชาติ นาคก็อาจดลบันดาลให้เกิดภัยพิบัติถึงบ้านเมืองล่มจมได้เช่นกัน และตำนานผู้คุ้มครองพระพุทธศาสนา ซึ่งมีเรื่องราวของนาคปรากฏในนิบาตชาดกหลายเรื่อง โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่พระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นพญานาค 3 เรื่อง คือ ทัททรชาดก จัมเปยชาดก และภูริทัตชาดก ต่อมาหลังจากที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว เสด็จไปประทับบำเพ็ญสมาบัติเสวยวิมุติสุข ณ ร่มไม้จิก เป็นเวลา 7 วัน เกิดเหตุการณ์ฝนตกอยู่ไม่ขาดสาย พญามุจลินทร์นาคราชจึงได้ออกจากนาคพิภพ เพื่อปกป้องการบำเพ็ญสมาธิของพระพุทธองค์ โดยทำขนดล้อมพระวรกาย 7 ชั้น แล้วแผ่พังพานบังฝนถวายด้วยประสงค์มิให้ฝนและลมหนาวต้องพระวรกาย การกระทำของพญามุจลินทร์นาคราชครั้งนี้ นับว่าเป็นผู้ประเสริฐทั้งกายและใจ จึงเป็นที่มาของการจัดสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรกในเวลาต่อมา นอกจากนี้ เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากเสด็จไปเทศนาโปรดพระพุทธมารดาแล้ว ครั้งนั้นพญานาคได้ทอดกายเป็นบันไดนาคให้พระพุทธองค์เสด็จลงสู่โลกมนุษย์ จึงเป็นที่มาของความเชื่อว่าบันไดนาคเป็นทางเชื่อมระหว่างสวรรค์กับโลกมนุษย์ ดังนั้น เพื่อรำลึกถึงคุณความดีของนาคที่มีความมุ่งมั่นศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงปรากฏงานศิลปกรรมอันงดงามเกี่ยวเนื่องกับนาคในพระอารามต่างๆ เช่น นาคที่หน้าบัน ซุ้มประตูนาคหรือบันไดนาค เป็นต้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า กระทรวงวัฒนธรรม มีนโยบายต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมสู่ทุนทางเศรษฐกิจ โดยส่งเสริมให้มีการนำทุนและทรัพยากรทางวัฒนธรรมเสริมสร้างคุณค่าทางสังคมควบคู่กับการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณ โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรม ความเชื่อทางพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อยกระดับอัตลักษณ์ท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมศักยภาพวัด ศาสนสถาน ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที และรวมพลังขับเคลื่อนพลังสร้างสรรค์ ต่อยอดทุน ทรัพยากรทางวัฒนธรรมที่มีอยู่อย่างหลากหลาย สู่ทุนทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง นำพาประเทศสู่ความยั่งยืนสืบไป .-สำนักข่าวไทย612

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย