กทม. 12 มิ.ย. – การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาเริ่มขึ้นแล้ว วาระที่สังคมจับตาคือ การลงมติเอาผิดแพทย์ 3 ราย ที่มีส่วนในการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร มารักษายังชั้น 14 รพ.ตำรวจ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ หนึ่งในคณะกรรมการแพทยสภา เดินทางมาร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารแพทยสภา โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ปฏิเสธแสดงความเห็นถึงความกดดันในการลงมติในวันนี้ โดยการประชุมเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วง 10.00 น. ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในวาระที่สังคมจับตามอง คือการลงมติเอาผิด แพทย์ 3 ราย ที่มีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร มารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยวันนี้มีวาระในที่ประชุมมากกว่า 100 วาระ ทำให้คาดว่าต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการประชุม ซึ่งมีการนัดหมายกับสื่อมวลชนว่าในเวลา 15.00 น. จะมีการแถลงผลมติที่ประชุม
การประชุมลงมติเมื่อเดือนที่แล้ว คณะกรรมการมีมติให้ลงโทษแพทย์ 3 ราย ประกอบด้วย 1.แพทย์หญิงรวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ ในฐานะแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย ขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่ ซึ่งโดนลงโทษตักเตือนเนื่องจากเขียนใบส่งตัวล่วงหน้า พร้อมสั่งพักใช้ใบอนุญาตวิชาชีพแพทย์ 2 ราย คือ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งเป็นนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ปัจจุบันในเลื่อนตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจคนปัจจุบัน ในฐานะผู้ออกใบความเห็นแพทย์

ขณะที่วันนี้มีรายงานว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแพทยสภา เดินทางเข้าชี้แจงว่าเหตุใดแพทย์ทั้ง 3 รายจึงไม่ควรถูกลงโทษ ซึ่งการเข้าชี้แจงไม่ได้เป็นการกดดันการทำงานของแพทยสภาแต่ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.วิชาชีพ ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา
ขณะที่ความเคลื่อนไหวหน้าแพทยสภา นพ.ชาติชัย อติชาติ ตัวแทนกลุ่มศิริราช 90 นำรายชื่อแพทย์จากทั่วประเทศ จำนวน 758 คน เดินทางมายื่นหนังสือต่อแพทยสภาเรียกร้องให้มีการเปิดเผยรายชื่อของกรรมการทั้ง 69 คน ว่าใครออกเสียงอย่างไร โดยมองว่าพวกตนในฐานะกลุ่มแพทย์ที่ เลือกตั้งกรรมการแพทยสภาเข้ามาทำหน้าที่ จะได้ตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่าแต่ละคนมีทัศนคติอย่างไร ซึ่งมองว่าการลงคะแนนในวันนี้มติจะเป็นไปตามเดิมไม่มีใครกล้าฝืนกระแสสังคม แต่ที่อยากรู้คือกลุ่มที่งดออกเสียงว่ามีใครบ้าง โดยยืนยันกลุ่มตนไม่ใช่เป็นกลุ่มจัดตั้ง และไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง แต่มาวันนี้เพื่อปกป้องวิชาชีพของพวกตน.-สำนักข่าวไทย