ท็อปส์เชื่อไตรมาสแรกตลาดค้าปลีกเติบโตจากมาตรการรัฐเป็นปัจจัยหนุน

กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล มั่นใจค้าปลีกไทยยังโต เปิดตัวแคมเปญใหญ่แรกแห่งปี “THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025” ตั้งเป้ากระตุ้นยอดขายเติบโตขึ้นกว่า 20% ชี้ตลาดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคฟื้นตัวเต็มที่จากสถานการณ์โควิดตั้งแต่ปี 2567 ไตรมาสแรกปี 2568 จะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ส่วนความกังวลของนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางมาไทย ไม่กระทบยอดขายช่วงตรุษจีนเนื่องจากลูกค้าหลักคือ คนไทย


นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทลเปิดเผยว่า ตลาดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีมูลค่าประมาณ 2 ล้านล้านบาท ฟื้นตัวเต็มที่จากสถานการณ์โควิด-19 คาดการณ์ว่า ตลาดจะเติบโตที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 4.6% ในช่วงปี 2568-2570 ทำให้มูลค่าตลาดขยายตัวเป็น 2.3 ล้านล้านบาท ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 นั้น คาดว่า ได้รับอานิสงค์จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่าง มาตรการ ‘EASY e-RECEIPT’ และภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ท็อปส์ ในฐานะผู้นำเชนธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตของไทย เล็งเห็นโอกาสในการกระตุ้นภาคการบริโภคของตลาดในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ จึงเดินหน้าจัดแคมเปญใหญ่ครั้งแรกของปี THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 ต้อนรับปีมะเส็ง ด้วยสารพัดสินค้าและเอ็กซ์คลูซีฟไอเท็มที่หลากหลายและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ท็อปส์ได้เป็นจุดหมายของการจับจ่ายและซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อให้ท็อปส์ได้เป็นจุดหมายของการจับจ่ายและซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเชื่อว่า ความกังวลของนักท่องเที่ยวจีนที่บางส่วนชะลอการเดินทางมายังประเทศไทยจะไม่กระทบกับยอดขายเนื่องจากฐานลูกค้าหลักที่ซื้อของไหว้เทศกาลตรุษจีนคือ ชาวไทย


สำหรับแคมเปญ THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 ซึ่งเป็นแคมเปญใหญ่รับเทศกาลตรุษจีนประจำปีนี้ ท็อปส์ มุ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า โดยพบข้อมูลแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคในปี 2568 ที่เรียกว่า 4s Trends ซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้

  1. Smart Spending & Value Equation – ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า เน้นคุ้มค่า คุ้มราคา: แม้เศรษฐกิจไทยจะยังมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีมาตรการจากภาครัฐช่วยเป็นแรงหนุนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2567 ที่ผ่านมา แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้จ่ายด้วยความระมัดระวัง คำนึงถึงความจำเป็นของสินค้าเป็นปัจจัยหลัก รวมทั้งพิจารณาความคุ้มค่าของสินค้าเทียบกับราคา เพื่อให้มั่นใจว่าแผนการใช้จ่ายรัดกุมมากพอ และจะไม่ส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินในอนาคต
  2. Self-Healing – ฮีลใจ, ทันกระแส, และมีสตอรี่: เศรษฐกิจที่กำลังกลับมาฟื้นตัว และสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรายวัน ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยมุ่งแสวงหาความสุขทางใจมากขึ้น ซึ่งความสุขที่ใกล้ตัวและตอบสนองความต้องการได้เร็วที่สุด ก็คือการซื้อหาสินค้าที่สวยงามทันสมัย นำเทรนด์ใหม่ ๆ หรือมีเรื่องราวที่ทำให้ประทับใจ
  3. Sustainability – ดีต่อโลก ดีต่อใจ เน้นความยั่งยืน: การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2568 นี้ มีแนวโน้มจะสนับสนุนกระแสรักษ์โลก สินค้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนมากขึ้น
  4. Saiyasart – ความเชื่อ พึ่งพาไสยศาสตร์ มูเตลู: แม้ในยุคที่ดิจิทัลเชื่อมต่อกับทุกไลฟ์สไตล์ แต่คนไทยกว่า 88% เชื่อยังคงมีความเชื่อเรื่อง ‘มูเตลู’ ซึ่งข้อมูลจากสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ระบุว่า 5 อันดับสิ่งที่สายมูเตลูต้องการมูมากที่สุด ได้แก่ การเงิน 44%, โชคลาภ 17%, สุขภาพ 12%, การงาน 8% และการเรียนและความรักอีก 3% นอกจากนี้ จากผลสำรวจของวิจัยกรุงศรี พบว่า ผู้บริโภค Gen Y และ Gen X ประมาณหนึ่งในสาม ใช้จ่ายเงินสำหรับสินค้าเสริมโชคลาภ มากกว่า 1,000 บาทต่อปี ในขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มเบบี้บูมเมอร์เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายมากที่สุด โดย 7% ของกลุ่มนี้ใช้จ่ายมากกว่า 5,000 บาทต่อปี

นายจักรกฤษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากดาต้าของลูกค้าท็อปส์ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2567 ที่ผ่านมาพบว่า 54% ของลูกค้าที่มาจับจ่ายมีอายุระหว่าง 35 – 54 ปี หรืออยู่ในช่วงระหว่าง Gen Y และ Gen X เป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนของลูกค้าผู้หญิงมากถึง 76% และกว่า 69% อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล นอกจากนี้ ยังพบว่าช่วงระยะเวลาดังกล่าว มียอดจับจ่ายซื้อสินค้าต่อตะกร้า (Basket Size) เติบโตขึ้น 23% เทียบกับช่วงเวลาปกติ รวมทั้งในปี 2567 มียอดขายการสั่งซื้อสินค้าตรุษจีนล่วงหน้า (พรีออเดอร์) ของท็อปส์ที่เติบโตขึ้น 59% เทียบกับปี 2566 และมียอดขายสูงสุด ในวันจ่ายเพิ่มขึ้น +35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ ทั้งนี้ 5 หมวดหมู่สินค้าขายดีในช่วงตรุษจีนปี 2567 คือ ผักและผลไม้ (Produce) 22.2%, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (Cleaning) 20.5%, เครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำอาหาร (Cooking) 11.7%, เนื้อสัตว์และอาหารทะเล (Meat & Seafood) 9.4% และ ของใช้ในบ้าน (Home Care) 8.6%

เพื่อตอบรับกับเทรนด์ผู้บริโภคและดาต้าอินไซต์ ท็อปส์จึงคิดค้นกลยุทธ์ ‘The Great 3As’ สำหรับเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ขึ้น เพื่อนำเสนอแคมเปญตรุษจีนแนวใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มค่า และประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งได้แก่


  • The Great ASSORTMENT: ตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการคัดสรรสินค้าที่ดีที่สุดมาสู่มือลูกค้า ตรุษจีนปีนี้ท็อปส์ พาเหรดสินค้าอาหารและวัตถุดิบเกรดชั้นนำ รวบรวมมาให้เลือกสรรกว่า 1,500 รายการ ครบครันและตอบรับกับผู้บริโภคในทุกเจเนอเรชัน ครบครันด้วยผลไม้หลากหลายชนิด (Fruit Destination) คุณภาพพรีเมียม มีความหมายพิเศษ ตามหลักการไหว้ อาทิ ส้ม, แอปเปิ้ล, สาลี่ และเมล่อนจากเกษตรกรไทยสลักอักษรมงคล สินค้าของไหว้มงคล (Worship Offering Set) เช่น ชุดไหว้เทพเจ้าไฉ่ชิงเอี๊ยะชุดพิเศษ, ชุดซาแซประหยัด สินค้าตกแต่งเพื่อความมงคล (Auspicious Decoration Set) อาทิ แจกันดอกไม้มงคล, ป้ายคำอวยพรเด็กชาย-หญิงคู่, โคมแดงมงคล สินค้าสุดพิเศษ จำหน่ายเฉพาะที่ท็อปส์เท่านั้น (Only at Tops) เช่น มายช้อยส์ชุดเฮลท์ตี้ซาแซไขมันต่ำ ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ, ชุดเครื่องไหว้เซตมงคลอาหารไหว้ซีฟู้ดพรีเมียม รวม 5 ชนิด กุ้งล็อบสเตอร์ หอยเป๋าฮื้อ ปลากระพงแดง ปลาหมึกทาโกะ และกุ้ง, และชุดหัวหมูไหว้ครบเซ็ต เป็นต้น
  • The Great ANG-PAO: ตรุษจีนปีนี้ ท็อปส์เดินหน้ามอบของขวัญสุดพิเศษให้กับลูกค้าผู้มีอุปการคุณ แจกหนักจัดเต็มกว่าทุก ๆ ปี ด้วย ‘อั่งเปาส่วนลดสูงสุด 15%’ เมื่อช้อปสินค้าที่ท็อปส์, ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด และท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ครบทุกๆ 600 บาท หรือช้อปที่ท็อปส์ เดลี่ ครบทุก ๆ 100 บาท นอกจากนี้ ยังเติมความคุ้มค่าสำหรับสมาชิก The1 ใช้ 1,600 คะแนน แลกรับส่วนลด 250 บาท เมื่อมียอดซื้อสินค้าครบ 3,000 บาทขึ้นไป/ ใบเสร็จ หรือใช้ 800 คะแนน แลกรับส่วนลด 120 บาท เมื่อช้อป 1,800 บาทขึ้นไปที่ท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด และท็อปส์ เดลี่
  • The Great CX with AMBASSADOR: ฉีกกฎตรุษจีนแบบเดิม ๆ กับการเป็น ‘A Cultural Leader’ ที่เชื่อมโยงขนบธรรมเนียมดั้งเดิมให้เข้ากับยุคสมัย ด้วยผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาอย่างดี และกิจกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจ และในปีนี้ ท็อปส์ยังได้เปิดมุมมองใหม่จับมือ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เสริมทัพในฐานะพรีเซ็นเตอร์ประจำแคมเปญเพื่อร่วมสื่อสารเทศกาลตรุษจีน ในแง่มุมใหม่ ๆ นอกจากนี้ ยังร่วมกิจกรรมทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับลูกค้าสมาชิก The1 ที่มียอดจับจ่ายสินค้าตรุษจีนสูงสุด (Top Spenders) 20 คนแรกที่ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมทริปพิเศษผ่าน Tops My Rewards ช่องทาง Line Tops Thailand โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่าน จะได้ร่วมทริปสักการะศาลเจ้าเกียนอันเกงเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมล่องเรือชมวิวแม่เจ้าพระยา เพลิดเพลินกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของเทศกาลตรุษจีน โดย ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน เคล้าด้วยเสียงดนตรีจากนักร้องชื่อดัง เจนนิเฟอร์ คิ้ม และปิดท้ายด้วยการมอบของรางวัลจี้ทองคำแท้จากท็อปส์

นอกจากนี้ ท็อปส์ยังได้คัดสรรความอร่อยหลากหลายเมนูจีน จากร้านดัง อาทิ ภัตตาคารเฮงเชียง, กุยช่ายสวรรค์, ศิริชัย ปอเปี๊ยะสด, Bakery Hut, แม่ประณาม, กระเพาะปลาเฮียเจ๊ก By ครัวลับแล, อากงโฮมเมด อาหารเจสูตรโบราณ, ทอดมันเจ้าสัว, GPR GOLD, เต้าทึงเฉาก๊วยเยาวราช, ลื้อมันรั้น, Tasty Congee, ลูกชิ้นปลาเยาวราช, เต้าหู้ทอด By สวัสดี, ลูกชิ้นปลาระเบิด, ขนมเปี๊ยะซอย 8, ก. เกี๊ยวต้ม, สว่างกระเพาะปลา, หมูกรอบแข็งแรง, จ้อเส้นยาว, อร่อยนางเลิงซาลาเปา, ข้าวมันไก่เฮงเชียง, อาตี๋ลูกชิ้นปลาเยาวราช, อินเตอร์ กุชช่าย ก๋วยเตี๋ยวหลอด, ครัวคุณนุชกับข้าวจีน, กระเพาะปลาท่าดินแดง, บ๊ะจ่างเศรษฐี, เต้าหู้โพธาราม, สมานหมูกรอบพระราม5, ครัวแม่ทองสุข, กุ่งอบสุราษฎ์, กระเพาะปลาเยาวราช, หลี่ชิมเฮีย, หมูสวรรค์บ้านหมูฝอย, Tomoko, เฮงปังดังรวย ฯลฯ

จุดมุ่งหมายของท็อปส์สำหรับแคมเปญ THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 ในปีนี้ คือ การสร้างให้ท็อปส์ เป็นจุดหมายของการจับจ่ายสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าแรกที่มอบทั้งความครบ คุ้มค่า เกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ และประสบการณ์เชิงวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ให้กับผู้บริโภค สอดคล้องกับแนวคิด Every Day DISCOVERY ค้นพบทุกวันที่ไม่ธรรมดาได้ที่ท็อปส์ พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจของไตรมาสที่ 1 ของประเทศให้คึกคัก โดยตั้งเป้าแคมเปญช่วยดันยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20%

ตรุษจีนปีนี้ออกสตาร์ทเตรียมช้อปก่อนใครกับโปรโมชันพรีออเดอร์สุดคุ้ม เพียงสั่งจองสินค้าล่วงหน้าสำหรับช่วงตรุษจีน ตั้งแต่วันนี้-24 ม.ค. 68 ครบ 1,500 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับทันที ท้อปส์ Gift Voucher มูลค่า 150 บาท ที่ ท็อปส์ / ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ / ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด หรือ สั่งจองสินค้าล่วงหน้าสำหรับไหว้ตรุษจีน ครบ 800 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับส่วนลดทันที 100 บาท ที่ ท็อปส์ เดลี่

พร้อมรับดีลพิเศษสุดคุ้มได้แล้ววันนี้ – 28 มกราคม 2568 ที่ท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด และท็อปส์ เดลี่ สาขาที่ร่วมรายการ หรือผ่านช่องทางท็อปส์ ออนไลน์ และบริการผู้ช่วยช้อปส่วนตัว Personal Shopper ตรวจสอบเงื่อนไขและติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, หรือแอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย