ท็อปส์เชื่อไตรมาสแรกตลาดค้าปลีกเติบโตจากมาตรการรัฐเป็นปัจจัยหนุน

กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล มั่นใจค้าปลีกไทยยังโต เปิดตัวแคมเปญใหญ่แรกแห่งปี “THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025” ตั้งเป้ากระตุ้นยอดขายเติบโตขึ้นกว่า 20% ชี้ตลาดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคฟื้นตัวเต็มที่จากสถานการณ์โควิดตั้งแต่ปี 2567 ไตรมาสแรกปี 2568 จะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ส่วนความกังวลของนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางมาไทย ไม่กระทบยอดขายช่วงตรุษจีนเนื่องจากลูกค้าหลักคือ คนไทย


นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทลเปิดเผยว่า ตลาดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีมูลค่าประมาณ 2 ล้านล้านบาท ฟื้นตัวเต็มที่จากสถานการณ์โควิด-19 คาดการณ์ว่า ตลาดจะเติบโตที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 4.6% ในช่วงปี 2568-2570 ทำให้มูลค่าตลาดขยายตัวเป็น 2.3 ล้านล้านบาท ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 นั้น คาดว่า ได้รับอานิสงค์จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่าง มาตรการ ‘EASY e-RECEIPT’ และภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ท็อปส์ ในฐานะผู้นำเชนธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตของไทย เล็งเห็นโอกาสในการกระตุ้นภาคการบริโภคของตลาดในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ จึงเดินหน้าจัดแคมเปญใหญ่ครั้งแรกของปี THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 ต้อนรับปีมะเส็ง ด้วยสารพัดสินค้าและเอ็กซ์คลูซีฟไอเท็มที่หลากหลายและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ท็อปส์ได้เป็นจุดหมายของการจับจ่ายและซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อให้ท็อปส์ได้เป็นจุดหมายของการจับจ่ายและซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเชื่อว่า ความกังวลของนักท่องเที่ยวจีนที่บางส่วนชะลอการเดินทางมายังประเทศไทยจะไม่กระทบกับยอดขายเนื่องจากฐานลูกค้าหลักที่ซื้อของไหว้เทศกาลตรุษจีนคือ ชาวไทย


สำหรับแคมเปญ THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 ซึ่งเป็นแคมเปญใหญ่รับเทศกาลตรุษจีนประจำปีนี้ ท็อปส์ มุ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า โดยพบข้อมูลแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคในปี 2568 ที่เรียกว่า 4s Trends ซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้

  1. Smart Spending & Value Equation – ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า เน้นคุ้มค่า คุ้มราคา: แม้เศรษฐกิจไทยจะยังมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีมาตรการจากภาครัฐช่วยเป็นแรงหนุนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2567 ที่ผ่านมา แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้จ่ายด้วยความระมัดระวัง คำนึงถึงความจำเป็นของสินค้าเป็นปัจจัยหลัก รวมทั้งพิจารณาความคุ้มค่าของสินค้าเทียบกับราคา เพื่อให้มั่นใจว่าแผนการใช้จ่ายรัดกุมมากพอ และจะไม่ส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินในอนาคต
  2. Self-Healing – ฮีลใจ, ทันกระแส, และมีสตอรี่: เศรษฐกิจที่กำลังกลับมาฟื้นตัว และสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรายวัน ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยมุ่งแสวงหาความสุขทางใจมากขึ้น ซึ่งความสุขที่ใกล้ตัวและตอบสนองความต้องการได้เร็วที่สุด ก็คือการซื้อหาสินค้าที่สวยงามทันสมัย นำเทรนด์ใหม่ ๆ หรือมีเรื่องราวที่ทำให้ประทับใจ
  3. Sustainability – ดีต่อโลก ดีต่อใจ เน้นความยั่งยืน: การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2568 นี้ มีแนวโน้มจะสนับสนุนกระแสรักษ์โลก สินค้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนมากขึ้น
  4. Saiyasart – ความเชื่อ พึ่งพาไสยศาสตร์ มูเตลู: แม้ในยุคที่ดิจิทัลเชื่อมต่อกับทุกไลฟ์สไตล์ แต่คนไทยกว่า 88% เชื่อยังคงมีความเชื่อเรื่อง ‘มูเตลู’ ซึ่งข้อมูลจากสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ระบุว่า 5 อันดับสิ่งที่สายมูเตลูต้องการมูมากที่สุด ได้แก่ การเงิน 44%, โชคลาภ 17%, สุขภาพ 12%, การงาน 8% และการเรียนและความรักอีก 3% นอกจากนี้ จากผลสำรวจของวิจัยกรุงศรี พบว่า ผู้บริโภค Gen Y และ Gen X ประมาณหนึ่งในสาม ใช้จ่ายเงินสำหรับสินค้าเสริมโชคลาภ มากกว่า 1,000 บาทต่อปี ในขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มเบบี้บูมเมอร์เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายมากที่สุด โดย 7% ของกลุ่มนี้ใช้จ่ายมากกว่า 5,000 บาทต่อปี

นายจักรกฤษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากดาต้าของลูกค้าท็อปส์ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2567 ที่ผ่านมาพบว่า 54% ของลูกค้าที่มาจับจ่ายมีอายุระหว่าง 35 – 54 ปี หรืออยู่ในช่วงระหว่าง Gen Y และ Gen X เป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนของลูกค้าผู้หญิงมากถึง 76% และกว่า 69% อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล นอกจากนี้ ยังพบว่าช่วงระยะเวลาดังกล่าว มียอดจับจ่ายซื้อสินค้าต่อตะกร้า (Basket Size) เติบโตขึ้น 23% เทียบกับช่วงเวลาปกติ รวมทั้งในปี 2567 มียอดขายการสั่งซื้อสินค้าตรุษจีนล่วงหน้า (พรีออเดอร์) ของท็อปส์ที่เติบโตขึ้น 59% เทียบกับปี 2566 และมียอดขายสูงสุด ในวันจ่ายเพิ่มขึ้น +35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ ทั้งนี้ 5 หมวดหมู่สินค้าขายดีในช่วงตรุษจีนปี 2567 คือ ผักและผลไม้ (Produce) 22.2%, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (Cleaning) 20.5%, เครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำอาหาร (Cooking) 11.7%, เนื้อสัตว์และอาหารทะเล (Meat & Seafood) 9.4% และ ของใช้ในบ้าน (Home Care) 8.6%

เพื่อตอบรับกับเทรนด์ผู้บริโภคและดาต้าอินไซต์ ท็อปส์จึงคิดค้นกลยุทธ์ ‘The Great 3As’ สำหรับเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ขึ้น เพื่อนำเสนอแคมเปญตรุษจีนแนวใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มค่า และประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งได้แก่


  • The Great ASSORTMENT: ตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการคัดสรรสินค้าที่ดีที่สุดมาสู่มือลูกค้า ตรุษจีนปีนี้ท็อปส์ พาเหรดสินค้าอาหารและวัตถุดิบเกรดชั้นนำ รวบรวมมาให้เลือกสรรกว่า 1,500 รายการ ครบครันและตอบรับกับผู้บริโภคในทุกเจเนอเรชัน ครบครันด้วยผลไม้หลากหลายชนิด (Fruit Destination) คุณภาพพรีเมียม มีความหมายพิเศษ ตามหลักการไหว้ อาทิ ส้ม, แอปเปิ้ล, สาลี่ และเมล่อนจากเกษตรกรไทยสลักอักษรมงคล สินค้าของไหว้มงคล (Worship Offering Set) เช่น ชุดไหว้เทพเจ้าไฉ่ชิงเอี๊ยะชุดพิเศษ, ชุดซาแซประหยัด สินค้าตกแต่งเพื่อความมงคล (Auspicious Decoration Set) อาทิ แจกันดอกไม้มงคล, ป้ายคำอวยพรเด็กชาย-หญิงคู่, โคมแดงมงคล สินค้าสุดพิเศษ จำหน่ายเฉพาะที่ท็อปส์เท่านั้น (Only at Tops) เช่น มายช้อยส์ชุดเฮลท์ตี้ซาแซไขมันต่ำ ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ, ชุดเครื่องไหว้เซตมงคลอาหารไหว้ซีฟู้ดพรีเมียม รวม 5 ชนิด กุ้งล็อบสเตอร์ หอยเป๋าฮื้อ ปลากระพงแดง ปลาหมึกทาโกะ และกุ้ง, และชุดหัวหมูไหว้ครบเซ็ต เป็นต้น
  • The Great ANG-PAO: ตรุษจีนปีนี้ ท็อปส์เดินหน้ามอบของขวัญสุดพิเศษให้กับลูกค้าผู้มีอุปการคุณ แจกหนักจัดเต็มกว่าทุก ๆ ปี ด้วย ‘อั่งเปาส่วนลดสูงสุด 15%’ เมื่อช้อปสินค้าที่ท็อปส์, ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด และท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ครบทุกๆ 600 บาท หรือช้อปที่ท็อปส์ เดลี่ ครบทุก ๆ 100 บาท นอกจากนี้ ยังเติมความคุ้มค่าสำหรับสมาชิก The1 ใช้ 1,600 คะแนน แลกรับส่วนลด 250 บาท เมื่อมียอดซื้อสินค้าครบ 3,000 บาทขึ้นไป/ ใบเสร็จ หรือใช้ 800 คะแนน แลกรับส่วนลด 120 บาท เมื่อช้อป 1,800 บาทขึ้นไปที่ท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด และท็อปส์ เดลี่
  • The Great CX with AMBASSADOR: ฉีกกฎตรุษจีนแบบเดิม ๆ กับการเป็น ‘A Cultural Leader’ ที่เชื่อมโยงขนบธรรมเนียมดั้งเดิมให้เข้ากับยุคสมัย ด้วยผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาอย่างดี และกิจกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจ และในปีนี้ ท็อปส์ยังได้เปิดมุมมองใหม่จับมือ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เสริมทัพในฐานะพรีเซ็นเตอร์ประจำแคมเปญเพื่อร่วมสื่อสารเทศกาลตรุษจีน ในแง่มุมใหม่ ๆ นอกจากนี้ ยังร่วมกิจกรรมทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับลูกค้าสมาชิก The1 ที่มียอดจับจ่ายสินค้าตรุษจีนสูงสุด (Top Spenders) 20 คนแรกที่ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมทริปพิเศษผ่าน Tops My Rewards ช่องทาง Line Tops Thailand โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่าน จะได้ร่วมทริปสักการะศาลเจ้าเกียนอันเกงเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมล่องเรือชมวิวแม่เจ้าพระยา เพลิดเพลินกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของเทศกาลตรุษจีน โดย ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน เคล้าด้วยเสียงดนตรีจากนักร้องชื่อดัง เจนนิเฟอร์ คิ้ม และปิดท้ายด้วยการมอบของรางวัลจี้ทองคำแท้จากท็อปส์

นอกจากนี้ ท็อปส์ยังได้คัดสรรความอร่อยหลากหลายเมนูจีน จากร้านดัง อาทิ ภัตตาคารเฮงเชียง, กุยช่ายสวรรค์, ศิริชัย ปอเปี๊ยะสด, Bakery Hut, แม่ประณาม, กระเพาะปลาเฮียเจ๊ก By ครัวลับแล, อากงโฮมเมด อาหารเจสูตรโบราณ, ทอดมันเจ้าสัว, GPR GOLD, เต้าทึงเฉาก๊วยเยาวราช, ลื้อมันรั้น, Tasty Congee, ลูกชิ้นปลาเยาวราช, เต้าหู้ทอด By สวัสดี, ลูกชิ้นปลาระเบิด, ขนมเปี๊ยะซอย 8, ก. เกี๊ยวต้ม, สว่างกระเพาะปลา, หมูกรอบแข็งแรง, จ้อเส้นยาว, อร่อยนางเลิงซาลาเปา, ข้าวมันไก่เฮงเชียง, อาตี๋ลูกชิ้นปลาเยาวราช, อินเตอร์ กุชช่าย ก๋วยเตี๋ยวหลอด, ครัวคุณนุชกับข้าวจีน, กระเพาะปลาท่าดินแดง, บ๊ะจ่างเศรษฐี, เต้าหู้โพธาราม, สมานหมูกรอบพระราม5, ครัวแม่ทองสุข, กุ่งอบสุราษฎ์, กระเพาะปลาเยาวราช, หลี่ชิมเฮีย, หมูสวรรค์บ้านหมูฝอย, Tomoko, เฮงปังดังรวย ฯลฯ

จุดมุ่งหมายของท็อปส์สำหรับแคมเปญ THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 ในปีนี้ คือ การสร้างให้ท็อปส์ เป็นจุดหมายของการจับจ่ายสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าแรกที่มอบทั้งความครบ คุ้มค่า เกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ และประสบการณ์เชิงวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ให้กับผู้บริโภค สอดคล้องกับแนวคิด Every Day DISCOVERY ค้นพบทุกวันที่ไม่ธรรมดาได้ที่ท็อปส์ พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจของไตรมาสที่ 1 ของประเทศให้คึกคัก โดยตั้งเป้าแคมเปญช่วยดันยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20%

ตรุษจีนปีนี้ออกสตาร์ทเตรียมช้อปก่อนใครกับโปรโมชันพรีออเดอร์สุดคุ้ม เพียงสั่งจองสินค้าล่วงหน้าสำหรับช่วงตรุษจีน ตั้งแต่วันนี้-24 ม.ค. 68 ครบ 1,500 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับทันที ท้อปส์ Gift Voucher มูลค่า 150 บาท ที่ ท็อปส์ / ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ / ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด หรือ สั่งจองสินค้าล่วงหน้าสำหรับไหว้ตรุษจีน ครบ 800 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับส่วนลดทันที 100 บาท ที่ ท็อปส์ เดลี่

พร้อมรับดีลพิเศษสุดคุ้มได้แล้ววันนี้ – 28 มกราคม 2568 ที่ท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด และท็อปส์ เดลี่ สาขาที่ร่วมรายการ หรือผ่านช่องทางท็อปส์ ออนไลน์ และบริการผู้ช่วยช้อปส่วนตัว Personal Shopper ตรวจสอบเงื่อนไขและติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, หรือแอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]