ขยายผลเครือข่ายเว็บพนัน บุกค้น 3 จุด

นนทบุรี 4 ม.ค. – ตำรวจไซเบอร์ บุกค้น 3 จุด พื้นที่กรุงเทพฯ-นนทบุรี ขยายผลเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ตรวจรถหรู 136 คัน


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เปิดเผยหลังตำรวจ สอท.2 นำกำลังเข้าตรวจสอบ 3 จุด ตามหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี และศาลอาญามีนบุรี ในพื้นที่กรุงเทพฯ และนนทบุรี โดยเป็นการขยายผลจากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ พร้อมตรวจรถหรู 136 คัน

ปฏิบัติการตรวจค้น 3 จุด คือ


  1. โชว์รูมรถหรูแห่งหนึ่ง บนถนนชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบชายแสดงตัวเป็นผู้จัดการบริษัท ทำหน้าที่ติดต่อซื้อขายรถ ตรวจยึดรถยนต์ในบริษัทไว้เพื่อตรวจสอบจำนวนทั้งสิ้น 120 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 1000 ล้านบาท
  2. บ้านหลังหนึ่งในต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจยึดรถหรูจำนวนทั้งสิ้น 16 คัน รวมมูลค่า 200 ล้านบาทไว้เพื่อตรวจสอบและตรวจยึดคอมพิวเตอร์แล็บท็อป 1 เครื่อง
  3. บ้านในพื้นที่รามคำแหง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ จากการตรวจค้น สามารถจับกุม นายจิรายุส ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีได้1 ราย

ผบช.สอท. กล่าวว่า ปฏิบัติการวันนี้เป็นการขยายผลเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ที่มีการจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 รายเมื่อ ธันวาคม 67 ตำรวจขยายผลจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมอีก 2 ราย ซึ่งจากปฏิบัติการตรวจค้นวันนี้จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย เหลือหลบหนีอีก 1 ราย ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับการซื้อขายรถ เป็นที่มาของการตรวจสอบที่โชว์รูมแห่งนี้ และอีกสองจุด เป็นบ้านพักของผู้ต้องหา จากการตรวจค้นพบรถหรูรวม 136 คัน หลังจากนี้จะตรวจสอบรถทั้งหมดว่ามีรายชื่อครอบครอง และนำเข้ามาถูกต้องหรือไม่ โดยจะประสานกับศุลกากร กรมการขนส่ง และสรรพากรเรื่องการเสียภาษีรถ ให้ร่วมกันตรวจสอบด้วย

การขยายผลครั้งนี้เกิดขึ้นหลังการจับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์เว็บหนึ่ง มีนายอังกฤษ หนึ่งในผู้ต้องหาที่จับกุมได้ครั้งก่อน ตรวจสอบพบว่าซื้อรถมาจากนายกฤษฎา ผู้ต้องหาตามหมายจับ เจ้าของเต็นท์รถหรู พบมีการซื้อขายรถกัน รวมมูลค่าผ่อนและเงินดาวน์ เป็นเงินกว่า 24 ล้านบาท โดยนายกฤษฎา รับซื้อรถโดยติดไฟแนนซ์และไม่ได้เปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อ และให้นายอังกฤษ โอนเงินค่าดาวน์รถและค่าผ่อนรถมายังบัญชีของนายกฤษฎาและบัญชีบริษัทของนายกฤษฎา

ที่โชว์รูมแห่งนี้ ยังพบรถหรูลัมโบร์กีนี รุ่นอูรุส 1 คัน ที่เจ้าหน้าที่พบความเชื่อมโยงกับการกระทำผิด โดยนายอังกฤษ ซื้อรถมาจากนายจิรายุส ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในราคารวมเงินดาวน์และผ่อน กว่า 29 ล้านบาท ซึ่งรถคันดังกล่าวนายจิรายุส ไม่ใช่ผู้เช่าซื้อ แต่ผู้เช่าซื้อรถที่แท้จริงคือชื่ออีกคนหนึ่ง ซึ่งนายจิรายุสไม่ได้เปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถ และให้นายอังกฤษผ่อนตรงกับไฟแนนซ์ โดยนายจิรายุสเป็นผู้ทวงเงินค่างวดกับนายอังกฤษโดยตรง


ผบช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหาคดีเว็บพนัน มีพฤติการณ์ในการฟอกเงิน โดยการนำเงินไปซื้อรถและนำมาเทรดแลกเปลี่ยนรถ ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากเว็บพนันออนไลน์ มีผู้ร่วมขบวนการในการฟอกเงินซื้อขายแลกเปลี่ยน นำมาสู่การออกหมายจับเพิ่มเติมได้สองรายครั้งนี้

ผบช.สอท. กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะตรวจสอบรถทั้ง 136 คัน ว่ามาจากการกระทำความผิดเช่นเดียวกันกับ 2 คันที่เจอก่อนหน้านี้หรือไม่ และวันนี้ก็ตรวจพบอีกหนึ่งคัน ราคาประมาณ 30 ล้านบาท ที่พบข้อมูลเชื่อมโยงกับผู้ต้องหา 4 รายแรกที่จับกุมได้ โดยย้ำว่าจะตรวจสอบรถทุกคัน หากพบว่าผิดกฎหมายจะดำเนินคดีจะตรวจสอบทุกคันว่าชื่อใคร เป็นผู้ครอบครองและถูกกฎหมายหรือไม่.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

เงินหมื่นเฟส3

นายกฯ ไฟเขียว! เงินดิจิทัลเฟส 3 กลุ่ม 16-20 ปี 2.7 ล้านคน

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบ โอนเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 กลุ่ม อายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน หวังคนรุ่นใหม่ใช้ไอทีคล่องกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี รองรับเปิดเทอม ยืนยันกลุ่มวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่นอน