ภาพรวมการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 68 บนโครงข่ายคมนาคม อุบัติเหตุลดลง 5%

กรุงเทพฯ 30 ธ.ค. – กระทรวงคมนาคม สรุปตัวเลขภาพรวมการเดินทางในเทศกาลปีใหม่ 2568 บนโครงข่ายของคมนาคม รวม 3 วัน (27-29 ธ.ค. 2567) อุบัติเหตุลดลง 5% สาเหตุหลักใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด พร้อมกำชับทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกการเดินทางเที่ยวกลับให้สะดวก ปลอดภัย ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง


กระทรวงคมนาคม เปิดตัวเลขภาพรวมการเดินทางในเทศกาลปีใหม่ 2568 เมื่อวันที่ 27-29 ธันวาคม 2567 ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม บูรณาการอำนวยความสะดวกและการให้บริการการเดินทางประชาชน ซึ่งช่วง 3 วันที่ผ่านมา พบว่าสามารถบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

ทั้งนี้ จากข้อมูลศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม สรุปสถิติอุบัติเหตุบนโครงข่ายของกระทรวงคมนาคม วันที่ 27-29 ธันวาคม 2567 (สะสม 3 วัน) สรุป ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2567 เวลา 07.30 น. พบว่าทางบก เกิดอุบัติเหตุรวม 773 ครั้ง, ผู้เสียชีวิต 106 คน, ผู้บาดเจ็บ 815 คน สาเหตุจากขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด 501 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 64.81


ยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด คือ รถปิกอัพบรรทุก 4 ล้อ (400 คัน) บริเวณที่เกิดเหตุสูงสุด คือ ทางตรง ไม่มีความลาดชัน 550 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 71.15 จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ อุดรธานี จำนวน 5 คน โดยจังหวัดที่เกิดเหตุสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร (29 ครั้ง)

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว (วันที่ 29-31 ธันวาคม 2566) จำนวนอุบัติเหตุลดลงร้อยละ 5 จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 และจำนวนผู้บาดเจ็บลดลงร้อยละ 2 นอกจากนี้พบอุบัติเหตุบนโครงข่ายทางราง 1 ครั้ง และทางน้ำ 1 ครั้ง ส่วนทางอากาศไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ

สำหรับเหตุรถโดยสารไฟไหม้ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ของรถร่วมบริการ บขส. ที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 สามารถให้การช่วยเหลือผู้โดยสารได้ทันท่วงที โดยไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต ซึ่ง บขส. จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อนำมาใช้ในการกำกับดูแลและลงโทษ ตลอดจนออกมาตรการที่เกี่ยวข้อง


กระทรวงคมนาคมได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเกิดความอุ่นใจ เดินทางสู่จุดหมายปลายทางด้วยความสะดวกปลอดภัย

ด้าน ขบ. เข้มงวดมาตรการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร/จุดจอด และจุด Checking Point ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567-5 มกราคม 2568 เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอดทุกแห่ง ตรวจความพร้อมของรถและความพร้อมของผู้ขับรถก่อนออกเดินทางตามแบบ Checklist เช่น การมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ตรวจความพร้อมด้านร่างกาย และการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ชั่วโมงการขับรถไม่เกินที่กฎหมายกำหนด รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรง ทั้งสภาพตัวรถภายนอกและภายใน รวมทั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยต่างๆ ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและให้ความรู้แก่ผู้โดยสารกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และขอให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทาง

กรมทางหลวง (ทล.) ตั้งจุดให้บริการประชาชนทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางตลอดเส้นทาง ทั้งนี้ พบว่าประชาชนเดินทางเข้ามาทดลองใช้บริการมอเตอร์เวย์ M81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเดินทางไปยัง จ.นครปฐม และ จ.กาญจนบุรี มอเตอร์เวย์ M81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เปิดให้ใช้บริการฟรี ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2567-2 มกราคม 2568

กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ตั้งศูนย์อำนวยความปลอดภัยบนโครงข่ายทางหลวงชนบททั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที และพร้อมให้บริการประชาชนในทุกมิติ โดยประชาชนสามารถใช้เป็นที่แวะพักผ่อนระหว่างการเดินทางได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่และรถลาดตระเวนตามสายทาง เพื่อเฝ้าระวังอุบัติเหตุและเร่งให้การช่วยเหลือเพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนโดยทันทีหลังได้รับการแจ้งเหตุ

ด้านบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ดำเนินมาตรการความปลอดภัยตามนโยบายกระทรวงคมนาคม โดยเน้นย้ำถึงคุณภาพมาตรฐานด้านตัวรถ ความพร้อมของเครื่องยนต์ กำชับให้พนักงานขับรถและพนักงานต้อนรับของ บขส. และรถร่วมบริการ บขส. สังเกตระบบเครื่องยนต์และระบบเบรกของรถโดยสาร ก่อนออกเดินทาง รวมทั้งให้จัดทำแผนบำรุงรักษารถให้มีความพร้อมให้บริการอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ

สำหรับผู้ที่เดินทางโดยเครื่องบิน ทุกท่าอากาศยานได้เตรียมความพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการภายในอาคารผู้โดยสาร เพื่อสามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้โดยสารอย่าลืมเผื่อเวลาเดินทาง สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ควรเผื่อเวลาก่อนการเดินทางอย่างน้อย 3 ชั่วโมง และเที่ยวบินภายในประเทศ ควรเผื่อเวลาก่อนการเดินทางอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการเดินทาง

กรมการขนส่งการขนส่งทาง (ขร.) ประสานผู้ให้บริการระบบรางเพื่อกวดขันและเน้นย้ำการดำเนินงานตามแผนอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 เช่น จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางรถไฟ/รถไฟฟ้า เพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยในขบวนรถไฟ/รถไฟฟ้ารวมทั้งบริเวณพื้นที่สถานี เพิ่มความถี่การให้บริการภายในช่วงเวลาเร่งด่วนหรือช่วงเวลาที่ผู้โดยสารมาใช้บริการในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนน ปฏิบัติตามกฎจราจร โดยหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่าน และไม่ฝ่าฝืนสัญญาณเครื่องกั้นทางรถไฟ

ส่วนการเดินทางเที่ยวกลับ ระหว่างวันที่ 1-3 มกราคม 2568 ที่คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางโดยรถโดยสารเฉลี่ยวันละ 70,000-90,000 คน บขส. ได้เตรียมพร้อมรองรับการเดินทางในเที่ยวกลับเข้ากรุงเทพฯ โดยจัดรถโดยสารและพนักงานขับรถให้เพียงพอพร้อมบริการประชาชน รวมทั้งบูรณาการร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สำหรับการจัดรถโดยสาร (รถเมล์) เข้าจอดรับ-ส่งในสถานีขนส่งหมอชิต 2 และเพิ่มการจัดคิวให้บริการรถแท็กซี่ เพื่อความสะดวกและเป็นระเบียบ ไม่แออัด และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร

ด้าน ทล. และ ทช. มีจุดให้บริการประชาชนและศูนย์อำนวยความปลอดภัยทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความปลอดภัยทางถนนและให้การช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที สำหรับประชาชนที่เดินทางโดยรถส่วนบุคคลสามารถตรวจสอบสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ได้ผ่านแอปพลิเคชัน Thailand Highway Traffic เพื่อวางแผนการเดินทางและตรวจสอบเส้นทาง.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำสายทะลักท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย

เชียงราย 24 พ.ค.-ฝนตกหนักเกือบทั้งคืน แม่น้ำสายทะลักท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย กลางดึก บางจุดสูงถึง 1 เมตร ส่วนบริเวณใต้สะพานพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 น้ำล้นบิ๊กแบ็กทะลักท่วมชุมชนริมน้ำเช่นกัน ฝนตกหนักเกือบทั้งคืน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงขึ้น จนล้นพนังกั้นน้ำเข้าท่วมหลายชุมชน เช่น บ้านถ้ำผาจม ตลาดสายลมจอย ตลาดน้อยเหมืองแดง ชุมชนเหมืองแดง ชุมชนไม้ลุงขน ชุมชนเกาะทราย โดยน้ำจากแม่น้ำสายได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนเป็นวงกว้าง บางจุดสูง 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร น้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนกลางดึกแบบไม่ทันตั้งตัว หลายหลังเข้าท่วมภายในบ้าน จนต้องตื่นมาขนของมีค่าหนีน้ำกลางดึก ขณะที่บริเวณใต้สะพานพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงขึ้นจนล้นพนังกั้นน้ำจากกระสอบทรายบิ๊กแบ็กบนถนนลอดใต้สะพาน ทะลักไหลเข้าพื้นที่ชั้นในขยายเป็นวงกว้างออกไปหลายชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำสาย และเป็นพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมอย่างหนักเมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุดระดับน้ำยังคงท่วมสูง และมีแนวโน้มว่าน้ำจะยังคงสูงขึ้นได้อีก เนื่องจากพื้นที่ต้นน้ำในประเทศเมียนมาฝนยังตกหนัก.-สำนักข่าวไทย

เร่งระบายน้ำหลุมเสาเข็ม หากไม่มีฝนจะนำร่างขึ้นมาได้วันนี้

กทม. 24 พ.ค.-เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำออกจากหลุมเสาเข็ม และเพิ่มแผ่นชีทไพล์ชั้นที่ 4 คาดหากไม่มีฝน จะนำร่างคนงานขึ้นมาได้วันนี้ นายเพช็ร ภุมมา ผอ.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ให้ข้อมูลความคืบหน้า โดยเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามนำเครื่องสูบน้ำมาระบายน้ำออกจากหลุมเสาเข็ม เนื่องจากเมื่อวานฝนตกหนักทำให้มีน้ำท่วมภายในหลุมและบริเวณรอบ และทำให้แผ่นชิทไพล์ที่ทำไว้ 3 ชั้น แตก ในวันนี้จึงต้องกั้นใหม่เป็นชั้นที่ 4 โดยกั้นลึกกว่าเดิม 2 เมตรเป็น 9.5 เมตร จากเดิม 7.5 เมตร หากวันนี้ไม่มีฝนตกคาดว่าจะนำร่างขึ้นมาได้ โดยเมื่อวานนี้มีสัญญาณดี คือเจอถุงมือที่มีชิ้นเนื้อติดขึ้นมาด้วย แต่ยังไม่เจอร่างทั้งหมด แต่คาดว่าร่างจะอยู่ในกรอบที่เรากำหนดไว้ ถ้าวันนี้ไม่มีอุปสรรคอะไรก็จะสามารถนำร่างขึ้นมาได้ โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะเดินทางมาติดตามสภานการณ์ด้วย.-420.-สำนักข่าวไทย

เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 24 พ.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฉบับที่ 7 ทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก ถึง 27 พ.ค.นี้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2568) ในช่วงวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2568 ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้วันที่ 24 พฤษภาคม 2568ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ […]

ศาลพิพากษาคดีแตงโม จบไหม… หรือไปต่อ ?

23 พ.ค. – วันนี้มีความเคลื่อนไหวของคดีที่หลายๆ คนติดตามกัน คือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่ศาลจังหวัดนนทบุรียกฟ้อง หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีก จะจบลงแค่นี้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย