ศรีสะเกษ 17 ธ.ค. – “หวาย” ของล้ำค่าจากป่าชุมชน ไม่เพียงนำไปทำผลิตภัณฑ์จักสาน สร้างรายได้ ยังรังสรรค์เป็นเมนูเด็ด “ป่นหวายป่า” หากินยาก ต้องลองสักครั้ง
เมื่อพูดถึง “หวาย” เรามักนึกถึงเครื่องจักสาน กระบุง ตะกร้า กระเป๋า หรือเฟอร์นิเจอร์หวาย แต่ชาวบ้านหมู่บ้านทับทิมสยาม 07 อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นอกจากรวมกลุ่มกันในชื่อ “กลุ่มจักสานหวาย” นำวัตถุดิบจากป่าชุมชนมาสร้างรายได้สร้างอาชีพแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ส่วนหัวหรือราก และยอดหวาย มีสรรพคุณในตำรายาไทย ขณะที่ “หน่อหวาย” แทงขึ้นจากเหง้าใต้ดิน เนื้อในอ่อน กรอบ สีขาว มีรสขม มีธาตุสังกะสีสูง ช่วยเจริญอาหาร ลดภาวะเครียด ส่งเสริมสมรรถภาพร่างกาย นำมาทำอาหารได้หลายเมนู เช่น แกงหวาย แกงกะทิ หมกหวาย อ่อม น้ำพริกหน่อหวาย หรือคนอีสานเรียก “ป่นหวาย” เป็นเมนูอาหารที่หากินได้ยาก และคนรุ่นใหม่เริ่มไม่รู้จัก
สำหรับเมนู “ป่นหวายป่า ใส่ปลาทูปิ้ง” เครื่องปรุงหลัก ประกอบด้วย หน่อหวายปิ้ง ลอกเปลือกหั่นซอยเป็นชิ้นเล็ก เนื้อปลาทู พริก หอมแดง กระเทียม ที่คั่วไฟแล้ว นำมาตำรวมกันพอแหลก ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า เกลือ และน้ำตาลทรายเล็กน้อย ตำให้เข้ากันพร้อมรับประทาน
อีกเมนู “แกงหน่อหวายใส่หน่อไม้” นำหน่อหวายและหน่อไม้หั่นเป็นท่อนๆ ใบย่านางที่ตำหรือยี ผสมกับข้าวเบือทิ้งไว้ ผสมกับน้ำสะอาด และกรองเอาแต่น้ำสีเขียว ใส่ลงหม้อต้มกับหน่อหวายและหน่อไม้ พอเดือดนำพริก หอมแดง และกระเทียม ที่โขลกไว้ใส่ลงไป ก่อนปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าและเกลือเล็กน้อย ใส่ใบแมงลักเป็นขั้นตอนสุดท้าย รับประทานกับผักแกล้มที่หาได้ตามท้องถิ่น เช่น ใบดีปลากั้ง ใบชะพูล ดอกอัญชัน และเสริมความแซ่บด้วย “สะตออีสาน” ที่ปลูกเองในพื้นที่แดนดินภูเขาไฟ มื้อพิเศษอร่อยเลิศของชาวบ้าน
สำหรับพื้นที่ป่าชุมชนของหมู่บ้านทับทิมสยาม 07 เดิมมีประมาณ 300 ไร่ แต่ด้วยความสามัคคีของคนในพื้นที่ ร่วมกันฟื้นฟูขยายออกไปอีกได้ประมาณ 600 ไร่ หวายที่ได้ก็นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยที่นี่เป็นที่ผลิตสาแหรกลูกนิมิตแห่งเดียวของจังหวัด นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา เครือหญ้านาง และเครือหูช้าง ซึ่งก็นำวัตถุดิบมาจากป่าชุมชนเช่นกัน สร้างรายได้ให้สมาชิกกลุ่มเฉลี่ยต่อคนต่อปีประมาณคนละ 40,000 บาท ผู้สูงอายุก็มีรายได้ เด็กวัยรุ่นก็ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เป็นหมู่บ้านที่มีหวาย เป็นทั้งของกิน ของใช้ และอาชีพ แห่งใหญ่ของจังหวัดศรีสะเกษ. – สำนักข่าวไทย
