“เชน ธนา” ย้ำไม่ได้โกงคู่กรณี พร้อมพาสื่อชมสินค้ายังอยู่ครบ

เชนธนา

กทม. 23 พ.ย.-“เชน ธนา” ย้ำไม่ได้โกงคู่กรณี แต่อยู่ระหว่างรอคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พร้อมพาสื่อชมสินค้ายังอยู่ครบ ไม่ได้แอบขายเอาเงินไปใช้ตามข่าว

เวลา 10.00 น. นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือเชน อดีตนักร้องชื่อดัง ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัทอาหารเสริมอมาโด้พาสื่อมวลชนตรวจนับสินค้า ที่ค้างอยู่ในโกดังเก็บสินค้าของอมาโด้ ย่านบึงกุ่ม ซึ่งยังมีสินค้าค้างอยู่ในสตอกจำนวนกว่า 4,904,202 ซอง


โดยก่อนหน้านี้ถูกผู้บริหารบริษัท ไทยยินตัน จำกัด ประกอบกิจการนำเข้าสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น มาจำหน่ายในประเทศไทย ออกมาระบุว่าถูก “เชน ธนา” ฉ้อโกงไม่จ่ายค่าสินค้าเกือบ 80 ล้านบาท ซึ่งค้างชำระมาตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.64 ต่อมา “เชน ธนา” ได้ทำการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ยืนยันไม่ได้ฉ้อโกงบริษัทคู่กรณีแต่อย่างใด แต่เหตุที่ไม่จ่ายเงินจำนวน 79 ล้านบาท เนื่องจากสินค้าที่สั่งซื้อไม่ได้คุณภาพ อีกทั้งยังไม่สามารถ โฆษณาจำหน่ายสินค้าดังกล่าวได้เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้วางจำหน่ายสินค้าดังกล่าวภายในท้องตลาดภายในประเทศได้ กรณีนี้ คู่กรณีทั้งสองฝ่ายมีการฟ้องร้องกันไปมาซึ่งคดียังอยู่ในชั้นศาล

บรรยากาศการนับสินค้าในวันนี้ สื่อมวลชนจำนวนมากทั้งสายบันเทิง สายอาชญากรรมและสายเศรษฐกิจต่างให้ความสนใจมาร่วม สังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก


ต่อมา “เชน ธนา” พร้อมด้วยฝ่ายกฎหมายได้ออกมาแถลงข่าวเปิดใจเคลียร์ประเด็นสาเหตุที่ยังไม่ชำระหนี้ดังกล่าว โดยมี 3 ปัจจัยว่า สาเหตุแรกเนื่องจาก การสั่งซื้อสินค้าล็อตที่ 2 เมื่อวันที่ 9 มี.ค.64 จำนวน 4,500,000 ซอง ซึ่งมีกำหนดต้องได้รับสินค้าในเดือน มิ.ย.64 แต่เมื่อวันที่ 24 มี.ค.64 พบว่าสินค้าที่ได้สั่งซื้อไปกับบริษัทคู่กรณี เป็นสินค้าไม่ตรงกับสรรพคุณที่เสนอขายไว้ทำให้ทางบริษัทของ “เชน ธนา” ไม่สามารถยื่นขอใบอนุญาตจัดทำฉลากและกล่องบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการโฆษณาขายสินค้าออนไลน์และจำหน่ายทุกประเภท ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง อย. ได้ส่งเอกสารแจ้งมายังบริษัทตนเองว่ากล่องบรรจุภัณฑ์ผิด ตนในฐานะผู้บริหารบริษัทจึงจำเป็นต้องเรียกสินค้าเก่าที่ จำหน่ายไปแล้วทั่วประเทศกลับมา ซึ่งสินค้าจำหน่ายไปแล้วเป็นสินค้าล็อตแรกที่สั่งจากบริษัทคู่กรณี เพื่อทำการแก้ไขกล่อง แต่จนถึงขณะนี้ อย.ก็ยัง ไม่อนุญาตเนื่องจากผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพตามที่บริษัทเสนอขาย จึงทำให้เกิดความล่าช้าของการจำหน่ายสินค้าออกไปอีก

ที่ผ่านมา บริษัทของตนเองและบริษัทคู่กรณีได้มีการพูดคุยเจรจากันมาโดยตลอด จนกระทั่งบริษัทคู่กรณีตัดสินใจยื่นคำร้องขออนุญาต อย. เรื่องการโฆษณาและฉลากผลิตภัณฑ์ให้แต่ก็ไม่สำเร็จอีกเช่นกัน ทำให้ บริษัทของตนเองไม่สามารถโฆษณาและจำหน่ายสินค้าได้จึงยังไม่มีเงินไปชำระค่าสินค้าดังกล่าว อีกทั้งตนมองว่าสินค้าไม่ตรงตามที่โฆษณาเสนอขายไว้ เมื่อตกลงกันไม่ได้ตนจึงตัดสินใจยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ขอให้ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าคู่กรณีผิดสัญญาซื้อขาย และขอยกเลิกสัญญา พร้อมขอให้คู่กรณีนำสินค้าคืนทั้งหมด คู่กรณียื่นคำร้องโต้แย้งขอให้ศาลมีคำสั่งให้บริษัทของตนชำระหนี้ ซึ่งศาลพิพากษาให้คู่กรณีชนะ ตนจึงได้ทำการยื่นอุทธรณ์ต่อขอให้ศาลพิจารณาว่าคู่กรณีโฆษณาสินค้าเกินจริงใช่หรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ซึ่งหากศาลอุธรณ์ พิพากษาว่าตนแพ้คดี ก็พร้อมยอมรับและชำระหนี้ แต่หากคู่กรณีแพ้ก็ต้องรับคืนสินค้าทั้งหมดไป

อย่างไรก็ตามสินค้ากว่า 4,904,202 ซอง ยังคงอยู่ในคลังสินค้าของบริษัทไม่มีการจำหน่ายออกไปแม้แต่ซองเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจกองปราบปรามรวมถึงบริษัทคู่กรณีได้เข้ามาทำการตรวจสอบแล้ว


สำหรับการแถลงข่าวในวันนี้ ตนแค่ต้องการออกมาชี้แจงต่อสังคม เพราะข่าวที่ออกไปทำให้บริษัทได้รับความเสียหายอย่างหนักจึงอยากใช้ โอกาสนี้แถลงยืนยันไม่มีเจตนาฉ้อโกงสินค้าที่สั่งซื้อมาทั้งหมดยังอยู่ครบ รอคำสั่งศาลอุธรณ์ พร้อมระบุว่าในช่วงที่ยังอยู่ระหว่างรอการพิจารณาของศาลบริษัทของตนเองก็ได้รับความเสียหายเพราะสินค้าที่ อยู่ในคลังเริ่มทยอยหมดอายุ ทั้งที่ยังไม่ได้จำหน่ายออกไป อีกทั้งการโฆษณาสินค้าดังกล่าวในสื่อต่างๆ ที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ก็ได้ดำเนินการไปล่วงหน้าแล้ว บริษัทจึงเสียหาย จากการที่ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าดังกล่าวได้มิใช่น้อย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคดียังไม่สิ้นสุด แต่ที่ทางคู่กรณีออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวต่อสื่อมวลชน จะดำเนินการฟ้องร้องกับฐานหมิ่นประมาทหรือไม่ “เชน ธนา” ระบุว่า ตอนนี้ตนไม่มีสมองไปคิดเรื่องนั้นเลยทุกวันนี้วิ่งเคลียร์ปัญหาภายในบริษัท มากกว่าเพื่อให้ผ่านวิกฤตินี้ไปได้ซึ่งต้องขอบคุณคู่ค้าและกลุ่มลูกค้า ที่ยังเชื่อมั่นในตัวเองและบริษัทอยู่จึงอยากใช้โอกาสนี้ร้องขอความเป็นธรรมจากสังคมให้มั่นใจว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องระหว่างบริษัทกับบริษัท ไม่ใช่เรื่องของบริษัทกับสังคม ที่สำคัญตนไม่ได้ฉ้อโกง

ส่วนกรณีที่คู่กรณีไปยื่นฟ้องในคดีอาญานั้น ครั้งแรกตนทราบมาว่า คู่กรณีไปแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม ซึ่งตำรวจกองปราบปรามมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เพราะเห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีแพ่ง ต่อมาอัยการกลับสั่งฟ้องซึ่งตนไม่ทราบเหตุผลในเรื่องดังกล่าวแต่ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหามาแล้วในวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตนก็มีหน้าที่จะต้องดำเนินการต่อสู้คดีต่อไป ทั้งนี้ในระหว่างการสอบสวนคดีอาญาดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกพยานไปยังคู่ค้ารายอื่น เพื่อสอบปากคำตนมีพฤติการณ์ฉ้อโกงหรือไม่ ซึ่งคู่ค้ารายอื่นก็ยังยืนยันว่าไม่พบพฤติการณ์ดังกล่าว.-414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดนภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.

จับหมอดังฟอกเงิน

ออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน”

ตำรวจออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คนข้อหา “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ล่าสุดจับได้แล้ว 6 คน ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว เบื้องต้นมีข้อมูลว่า “หมอดัง” หนีออกนอกประเทศตั้งแต่ ก.ย.ที่ผ่านมา