ค้านมติ กกต.รีบเร่ง ปมหุ้นสื่อ “พิธา”

รัฐสภา 12 ก.ค.-“ก้าวไกล” แถลงค้านมติ กกต.รีบเร่งผิดปกติ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ปม “พิธา” ถือหุ้นสื่อ ย้ำไม่แจ้งข้อกล่าวหา ชี้เทียบคดีเงินกู้ยุบพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ จี้ “กกต.-องค์กรอิสระ” อย่าลุแก่อำนาจ ยันไม่กระทบโหวตเลือกนายกฯ หวัง ส.ว.มีสติ-เป็นธรรม ระบุพรุ่งนี้เป็นโอกาสและทางแยก เชื่อครั้งนี้ประชาชนไม่ยอม

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล อ่านแถลงการณ์พรรคก้าวไกล กรณีการดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คดีการถือหุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ที่มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและพิจารณาสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.แล้วนั้น พรรคก้าวไกลเห็นว่า เมื่อพิจารณาระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้วเห็นว่า สิ่งที่ประธาน กกต.กล่าวนั้นไม่ถูกต้อง ด้วยเหตุผลดังนี้

ข้อ 1. สำหรับคดีหุ้นไอทีวี ไม่อาจนำกรณีตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 5/2563 (คดีเงินกู้ยุบพรรคอนาคตใหม่) มาเทียบเคียงกับข้อเท็จจริงคดีนี้ได้ ด้วยเหตุผลอย่างน้อย 2 ประการ 1. ข้อเท็จจริงในคดีหุ้นไอทีวี เป็นคดีการเสนอคำร้องตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 82 ประกอบมาตรา 101 (6) และมาตรา 98 (3) มิใช่เป็นการนำบทบัญญัติมาตรา 92 และมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ข้อ 54 วรรคหนึ่ง และข้อ 55 วรรคหนึ่ง มาใช้บังคับแก่คดี จึงไม่อาจนำแนวทางการตีความของศาลรัฐธรรมนูญในคดีดังกล่าวมาใช้บังคับแก่เรื่องนี้ได้ 2. ในคดีตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว เป็นกรณีที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. มีมติว่า ข้อกล่าวหาไม่มีมูล แล้วนำเสนอต่อ กกต. แต่ปรากฏว่า กกต.ไม่เห็นพ้องด้วย กรณีจึงไม่มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด

นายชัยธวัช กล่าวว่า ส่วนข้อเท็จจริงในคดีหุ้นไอทีวี ถ้าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. มีความเห็นว่าข้อเท็จจริงมีมูลตามคำร้อง ย่อมมีหน้าที่ต้องแจ้งข้อกล่าวหาตามข้อ 54 วรรคหนึ่ง แห่งระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 (แก้ไขเพิ่มเติม 2563) ต่อนายพิธา ให้ครบถ้วนเสียก่อนที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนจะทำรายงานการสืบสวนตามข้อ 59 แห่งระเบียบดังกล่าว เสนอต่อเลขาธิการ กกต. และ กกต. ต่อไป

ข้อ 2. ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เป็นกรณีที่ความปรากฏต่อ กกต. ให้ตรวจสอบว่า นายพิธา ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 (และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม) กำหนดกระบวนการขั้นตอนรองรับอย่างชัดเจน ตั้งแต่การยื่นคำร้อง การตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน และการวินิจฉัยของ กกต. ด้วยเหตุนี้ เมื่อ กกต.ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนดำเนินการตามระเบียบดังกล่าวมาโดยตลอด ในกรณีที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนพิจารณาแล้วเห็นว่า มีพยานหลักฐานสนับสนุนพอฟังได้ว่า นายพิธา กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ย่อมต้องดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาตามระเบียบฯ ข้อ 54 และเปิดโอกาสให้นายพิธา ชี้แจงข้อกล่าวหาตามข้อ 57 และข้อ 58 แห่งระเบียบฉบับเดียวกัน

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุนี้ การที่ กกต.จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 82 กกต.จะต้องปฏิบัติตามระเบียบให้ครบถ้วนดังที่กล่าวไปเสียก่อน การที่ กกต.จะเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญอย่างรีบเร่ง โดยยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา และไม่เปิดโอกาสให้มีการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเป็นเพียงการตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น จึงไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดไว้ กรณีจึงเท่ากับว่า กกต.ปฏิบัติตามระเบียบแต่เพียงบางส่วน และจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่ตนได้ตราขึ้น อันอาจเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ได้

“มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทำไม กกต.ถึงรีบเร่งดำเนินการในคดีหุ้นไอทีวีอย่างผิดปกติ ทั้งที่เรื่องหุ้นไอทีวี ก่อนหน้านี้มีข้อพิรุธและมีข้อถกเถียงอย่างกว้างขวางว่า ตกลงแล้วไอทีวียังคงดำเนินธุรกิจสื่ออยู่หรือไม่ มีการจงใจทำเอกสารการประชุมและงบการเงินไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่ แต่ กกต.กลับรีบประชุมติดกัน 3 วัน ทันทีที่ได้รับเรื่อง เพื่อเร่งสรุปให้ได้ว่ามีข้อมูลเพียงพอให้เชื่อได้ว่า นายพิธามีความผิดตามที่ยื่นคำร้องจริง เรื่องนี้ตนทราบมาว่า ทาง กกต.ได้เชิญผู้บริหารไอทีวีมาชี้แจงกับ กกต.แล้ว และผู้บริหารได้ให้ข้อมูลว่า ไอทีวีไม่ได้ดำเนินธุรกิจสื่อ ดังนั้น แม้ กกต.พยายามอ้างเหตุผลมากมายว่าไม่จำเป็นต้องแจ้งข้อกล่าวหากับนายพิธา เพื่อให้นายพิธามาชี้แจงก่อน แต่คำถามคือ ในขณะที่ กกต.ยังมีเวลาเชิญไอทีวีไปชี้แจง แล้ว กกต.มีเหตุผลอะไรที่รับฟังได้ว่าจะไม่ยอมเสียเวลาให้นายพิธาได้รับทราบข้อกล่าวหาและมีโอกาสชี้แจงบ้าง เพื่อให้ กกต.สามารถพิจารณาข้อเท็จจริงได้อย่างรอบด้านและเป็นธรรม” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวว่า นอกจากนี้ หากผู้บริหารไอทีวีได้ชี้แจงกับ กกต.แล้วจริง ว่าไม่ได้ดำเนินธุรกิจสื่อมวลชน กกต.ใช้หลักฐานอะไรที่นำไปสู่ข้อสรุปที่บอกว่า ตนเองเชื่อว่ามีความผิดตามที่มีการยื่นคำร้องจริง เพื่อรีบเร่งให้ได้ ซึ่งความรีบเร่งผิดปกติเห็นได้จากมีมติตอนเช้า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง รีบเร่งเซ็นเอกสาร และให้สำนักงานเลขาธิการ กกต.ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญทันที เพื่อให้ทันการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในตอนบ่าย พร้อมกล่าวเหน็บว่า หากทุกหน่วยงานราชการทำงานไว ประเทศชาติก็จะเจริญ

“อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามกับสังคมว่า กกต.มีเจตนาที่จะส่งลูกให้ศาลรัฐธรรมนูญ นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมประจำสัปดาห์ทันทีในบ่ายวันนี้ เพื่อให้นายพิธา ถูกสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ให้ได้ในวันนี้ ก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) ใช่หรือไม่” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นหลายปีที่ผ่านมา โดยใช้นิติสงคราม บทบาทขององค์กรอิสระ รวมไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ ถูกตั้งข้อสงสัยมาโดยตลอด ว่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มการเมืองใดกลุ่มการเมืองหนึ่งหรือไม่ กรณีที่เกิดขึ้นในวันนี้และหลังจากนี้อีกไม่นาน จะเป็นข้อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหาเหล่านั้นเป็นจริงหรือไม่

“เราในฐานะผู้แทนราษฎร ขอฝากเสียงเตือนจากพี่น้องประชาชนไปยัง กกต. และองค์กรอิสระทั้งหมด ว่า ท่านอย่าลุแก่อำนาจจนเกินขอบเขต วันใดวันหนึ่งเมื่อการเมืองกลับมาเป็นปกติ ประชาชนจะลงโทษพวกท่าน” นายชัยธวัช กล่าว



นายชัยธวัช ยังกล่าวว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ (12 ก.ค.) ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตนและสมาชิกพรรคก้าวไกล และเพื่อนสมาชิกอีก 7 พรรคการเมือง ยืนยันว่าจะไม่กระทบกับการเสนอรายชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) แม้จะชงลูกรับลูกกันอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ของนายพิธา แต่นายพิธายังมีสิทธิ 100% ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 จากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน ขอประชาชนที่อาจมีความกังวลใจ อย่าตื่นตระหนกตกใจ เรายืนยันว่า ความชอบธรรมที่สูงสุดคืออำนาจของประชาชน พรรคก้าวไกลมีหน้าที่รับผิดชอบต่อเสียงของประชาชน และจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” นายชัยธวัช กล่าว

ส่วนกังวลหรือไม่ว่า กรณีดังกล่าวจะมีผลต่อการตัดสินใจของ ส.ว. นายชัยธวัช ระบุว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าเรื่องนี้เป็นขบวนการที่หวังผลทางการเมืองจริงๆ มีการบิดเบือนเจตนารมณ์ในการบังคับใช้กฎหมาย บิดเบือนระเบียบข้อบังคับต่างๆ ย่อมต้องหวังผลทางการเมือง แต่เราก็เชื่อว่าจะมีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มากเพียงพอ ที่มีสติ มีความเป็นธรรม มีวิจารณญาณเห็นว่า ข้อกล่าวหาเหล่านี้ยังไม่สามารถเป็นบทสรุปได้ว่านายพิธามีความผิด กระบวนการยังไม่สิ้นสุด และไม่ใช่หน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่จะวินิจฉัยเรื่องนี้ ถือเป็นคนละส่วนกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ยังเชื่อมั่นว่ายังมี ส.ว.ที่อยู่ข้างความถูกต้อง และยืนยันที่จะใช้เอกสิทธิ์ของตนเองเป็นไปตามเสียงของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง

ส่วนจะฟ้อง กกต.หรือไม่ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นายชัยธวัช กล่าวว่า กำลังพิจารณาอยู่ ทั้งนี้ แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะยังไม่รับคำร้องเพื่อวินิจฉัยเรื่องดังกล่าวในบ่ายวันนี้ (12 ก.ค.) มองว่า ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี สิ่งที่เกิดขึ้นยังเห็นว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อระเบียบ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมยืนยันกระบวนการตรวจสอบของ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ เป็นคนละส่วนกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่มีบางส่วน บางฝ่ายพยายามที่จะใช้เรื่องนี้ในการอ้างเหตุผลว่าจะไม่โหวตเลือกนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เชื่อว่า เรื่องนี้จะไม่เกี่ยวและไม่เป็นเหตุให้เกิดการ เลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) และเชื่อมั่นในประธานรัฐสภา ที่จะมีหลักที่ชัดเจน

นายชัยธวัช กล่าวว่า กกต.พยายามจะใช้บรรทัดฐานเดียวกับเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่สามารถเทียบเคียงกันได้ โดยข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย ในการปฏิบัติและขบวนการที่ไม่เหมือนกัน พร้อมยืนยันว่า ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร นายพิธา มีสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย ในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และสามารถเสนอชื่อนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม ไม่มีแผนใดเพิ่มเติม และยังหวังว่าสิ่งที่ผิดปกติจะไม่เกิดขึ้น กระบวนการนิติสงครามที่ค้านสายตาประชาชนมาโดยตลอด 10 กว่าปี จะไม่เกิดขึ้นอีก

ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้จะเป็นการวนลูป เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เชื่อว่ามีบางฟากบางฝ่ายต้องการให้เป็นแบบนั้น โดยไม่เห็นแก่บ้านเมืองและไม่เห็นหัวประชาชน

“วันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) จะเป็นโอกาสและทางแยกของสังคมไทย ว่าเราจะวนกลับไปสู่การเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชนเหมือนเดิม หรือจะเป็นโอกาสที่เราจะคืนความปกติให้ระบอบประชาธิปไตยของไทย และพาประเทศไทยไปข้างหน้า ผู้มีอำนาจมีโอกาสที่จะเลือก และผมเชื่อว่า คราวนี้ประชาชนจะไม่ยอม” นายชัยธวัช กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมพญาเม็งรายเริ่มลด แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน

เชียงราย 28 มิ.ย.- เริ่มคลี่คลาย! สถานการณ์น้ำท่วมพญาเม็งราย จ.เชียงราย เช้านี้ระดับน้ำลดลงแล้วกว่า 80% แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้ เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงไปแล้วกว่า 80% เหลือเพียงคราบโคลนจำนวนมากที่ยังปกคลุมที่อยู่อาศัยและถนนหลายสาย เช้านี้มีฝนตกโปรยปรายต่อเนื่อง  ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ยังคงเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ เนื่องจากขาดแคลนสิ่งจำเป็น เช่น น้ำสะอาด อุปกรณ์ทำครัว และแหล่งพลังงาน จึงขอรับการสนับสนุนอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงฟื้นฟูพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้มณฑลทหารบกที่ 37 ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นแล้ว ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดฝนตกหนักอีกครั้ง -สำนักข่าวไทย

เริ่มแล้ว! ม็อบรวมพลังแผ่นดิน ทยอยปักหลักอนุสาวรีย์ชัยฯ

กทม. 28 มิ.ย.- เริ่มแล้ว! มวลชนกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ เดินเท้าเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อร่วมชุมนุมใหญ่ ขณะที่การจราจรเช้านี้ รถยังเคลื่อนตัวได้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่ม คปท. กองทัพธรรม กปปส. และมวลชนหลายร้อยคน รวมตัวกันบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีประชาชนจากหลายจังหวัดเข้าร่วม ต่างยกธงชาติไทย ชูป้ายข้อความเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ลาออก เวลา 08.30 น. เริ่มเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าแยกอุรุพงษ์ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม6 เลี้ยวขวาเข้าถนนศรียุธยา ตรงเข้าแยกราชเทวี และเลี้ยวซ้ายเข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนกำหนดการวันนี้เวลา 10.00 น. จะมีการเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ทหารกล้า หลังจากนั้น เวลา 12.00 น. จะเปิดเวทีปราศรัย ขณะที่ช่วง 17.30-18.10 น. จะอ่านแถลงการณ์ “รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย” จากนั้นจะเป็นการปราศรัยหลักจากกลุ่มแกนนำ อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นต้น จนถึงเวลา 21.00 […]

นายกฯ บินเชียงรายตรวจน้ำท่วม ไม่กังวลม็อบขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ

บน.6 ดอนเมือง 28 มิ.ย.- นายกฯ นำคณะตรวจน้ำท่วมเชียงราย ไม่กังวลม็อบชุมนุมขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ ยินดีคุยด้วยสันติวิธี เช้านี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หลังฝนตกหนัก ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย ก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน นัดชุมนุมใหญ่ วันนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เรียกร้องให้ตนเองลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ขอให้หน่วยงานความมั่นคงช่วยดูแลให้สงบเรียบร้อย ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ยังไม่มีอะไรนะคะ” ก่อนย้อนถามว่า “มีอะไรแล้วหรือคะ” เป็นปกติ ก็เป็นสิทธิอยู่แล้ว ซึ่งได้บอกให้ดูให้เรียบร้อย ไม่อยากให้มีความรุนแรง ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าคิดว่าการชุมนุมนี้จะบานปลายหรือไม่ เพราะเป็นการรวมพลังกันของหลายกลุ่ม นายกฯ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะไม่มี ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า ธงของการชุมนุมครั้งนี้คือต้องการให้นายกรัฐมนตรี ลาออก […]

เตือน “เหนือ-อีสาน” ฝนถล่ม ระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก

กทม. 28 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือน “เหนือ-อีสาน” เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือบริเวณจังหวัดเชียงรายและน่าน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย