ข่าว พท.เลิกบัตรสวัสดิการรัฐเลอะเทอะ

ร้อยเอ็ด 18 เม.ย.- “เศรษฐา” ฉุนข่าวเพื่อไทยยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระบุเลอะเทอะ ยันทีมกฎหมาย-คณะทำงานเศรษฐกิจไม่แตกคอ ขณะที่ “อุ๊งอิ๊ง” อุ้มลูกสาววิดีโอคอลเวทีปราศรัยที่ร้อยเอ็ด


นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวทีมเศรษฐกิจและฝ่ายกฎหมายของพรรคเห็นต่างกันเรื่องชี้แจงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกี่ยวกับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่า วานนี้ (17 เม.ย.) ตนนั่งประชุมอยู่ทั้งสองทีม ยืนยันว่าไม่แตกคอ ทุกอย่างเหมือนเดิม

“เห็นตรงกันเรียบร้อย เข้าใจว่า พรรคเพื่อไทยจะส่งคำชี้แจงไปยัง กกต. วันเดียวกันนี้ (18 เม.ย.) ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่มีปัญหา พรรคจะชี้แจงทุกอย่างทุกขั้นตอนตามข้อสงสัยของ กกต.” นายเศรษฐา กล่าว


ส่วนที่มีรายงานข่าวว่าจะยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องเลอะเทอะ ไม่จริง ยืนยันอีกครั้งไม่ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การจัดเก็บงบประมาณยืนยันมีความเพียงพอ

นายเศรษฐา กล่าวถึงกรณีผลโพลระบุว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะอยู่อันดับ 1 แต่คะแนนนิยมลดลง ส่วนพรรคก้าวไกล อันดับ 2 คะแนนนิยมกลับเพิ่มขึ้น ว่า ยังไม่ได้ดูตรงนี้ แต่ได้นำทุกอย่างมาวิเคราะห์ เขตไหนที่พรรคเพื่อไทยได้คะแนนลดลง อาจจะเป็นเพราะพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ลงพื้นที่ก็ได้ พรรคเพื่อไทยฐานเสียงใหญ่อยู่ที่ภาคอีสาน

“วันนี้วันแรกที่ผมมาภาคอีสาน ถ้าให้ผมลงพื้นที่เยอะขึ้น พร้อมพบปะพี่น้องประชาชนก็น่าจะเข้าใจนโยบายดี ๆ ของพรรคเพื่อไทยได้ แต่การทำโพลแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน แต่ฐานเสียงพรรคเพื่อไทยอาจอยู่ที่ออฟไลน์ก็ได้ ซึ่งผมรับฟังและจะเอาไปวิเคราะห์ให้ดี” นายเศรษฐา กล่าว


ส่วนยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยจะยืนหนึ่งในโพลได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มั่นใจ พรรคเพื่อไทยมีโพลสำรวจความเห็น เพราะเราต้องการทราบข้อมูลที่แท้จริง เพื่อทำให้เดินทางไปข้างหน้า แก้ไขปัญหาและวางยุทธศาสตร์โค้งสุดท้าย เป็นธรรมดาที่จะปรับกลยุทธ์ตลอดอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า ช่วงเวลาที่เหลือจะมีนโยบายอะไรเซอร์ไพรส์อีกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องคอยดูกันต่อไป

“แพทองธาร-อุ้มน้องธิธาร ลูกสาว” วิดีโอคอลเวทีปราศรัย จ.ร้อยเอ็ด อ้อนขอเลือกผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ทั้ง 8 เขต ยกจังหวัดให้แลนด์สไลด์ ด้าน “เศรษฐา” ชูเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ตั้งตัวไม่ต้องแบมือขอรัฐบาลทีละ 500-1,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวระหว่างลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ช่วยนายสถาพร ว่องสัธนพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 1 ปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายฉลาด ขามช่วง เขต 2 เบอร์ 3 น.ส.จิราพร สินธุไพร เขต 5 เบอร์ 3 น.ส.ชญาภา สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 เบอร์ 4 ร่วมเวทีปราศรัย ท่ามกลางประชาชนฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย วิดีโอคอลมาปราศรัยในเวทีปราศรัยใหญ่วันนี้ด้วย โดยก่อนเริ่มปราศรัย น.ส.แพทองธาร ได้นำน้องธิธาร บุตรสาวที่กำลังรักษาอาการป่วยด้วยไวรัส RSV มาทักทายประชาชนที่อยู่ภายในสาเกตฮอลล์ พร้อมระบุว่า ธิธารกำลังไม่สบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนตนก็ติดไข้หวัดจากลูกสาว โดยให้น้องธิธารโบกมือทักทายประชาชนด้วย

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้มาเจอคนร้อยเอ็ดอีกครั้ง และเสียดายที่ไม่ได้ไปปราศรัย เพราะอยู่ระหว่างตั้งครรภ์ใกล้ครบ 9 เดือนแล้ว พรรคเพื่อไทยดีใจมาก ๆ ที่ได้บอกเล่านโยบายให้กับประชาชน ตนเคยมาปราศรัยที่ภาคอีสานแล้วสนุกมาก ทั้งนี้ มองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเลือกอย่างมียุทธศาสตร์ และขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยในจังหวัดร้อยเอ็ด ยกจังหวัดทั้ง 8 เขต เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง นโยบายของพรรคเพื่อไทยเพิ่มรายได้เกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอน ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย

“ชาวอีสานรวยกันแล้วค่ะ การจะเพิ่มนโยบายและรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เราจะไม่ได้เห็นพี่น้องตกงานกันอีกแล้ว มีงานทำ มีรายได้เอาไว้เลี้ยงครอบครัวของตนเอง ชาวร้อยเอ็ดพร้อม ไม่พร้อม ขอฝากผู้สมัครทั้ง 8 เขตให้แลนด์สไลด์ และขอให้พี่น้องร้อยเอ็ดผู้มีอุดมการณ์ทุกคน ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อเลือกคนที่มาเปลี่ยนแปลงประเทศให้ได้ ดิฉันขอส่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชน ถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ต้องกินดีอยู่ดีขึ้น วันนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขมาก ๆ ถ้ามีโอกาสจะไปภาคอีสานอีกแน่นอน” น.ส.แพทองธาร กล่าว

จากนั้น นายเศรษฐา ปราศรัยว่า พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน คิดใหญ่ ทำเป็น และทำได้มาโดยตลอด นโยบายที่ผ่านมาในอดีต แม้จะล่วงเลยมา 20 กว่าปีแล้ว ทั้งนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค จะยกระดับโดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว รักษาที่ไหนก็ได้ นอกจากนี้ นโยบายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็จะมีนโยบายเพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจ มีนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท/วัน จบปริญญาตรี 25,000 บาท/เดือน

“ยืนยันค่าแรงไม่ทำให้ย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศ แต่ประเทศไทยไม่มีผู้นำที่จะออกไปเจรจาการค้ากับต่างประเทศ จึงไม่ใช่ย้ายฐานการผลิตพอค่าแรงขั้นต่ำของ 600 บาท/วัน ของพรรคเพื่อไทย รวมทั้งยังมีนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะถูกส่งเข้าไปในกระเป๋าเงินของพี่น้องประชาชน ไม่ต้องมารับเงินทีละ 500 บาท ทีละ 1,000 บาท จากรัฐบาลที่ไม่เห็นหัวประชาชน เราจะมีเงิน 10,000 บาท ให้พี่น้องตั้งตัวได้ไปสร้างธุรกิจใหม่ ไม่ต้องแบมือขอเงินจากรัฐบาล วันที่ 14 พ.ค.นี้ ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนกำลังรอให้พี่น้องร้อยเอ็ดไปลงคะแนนเสียง และขอให้ช่วยเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ด้วย” นายเศรษฐา กล่าว.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]