ทำเนียบ 18 เม.ย.-นายกฯ เผย ปัญหาเครื่องยนต์เรือดำน้ำอยู่ระหว่างเจรจากับจีน เพื่อหาเครื่องยนต์ทดแทน เคยคุยเรื่องนี้กับ “สี จิน ผิง” แล้ว ชี้ไทยจำเป็นต้องมีทหาร ยุทโธปกรณ์ ไว้ดูแลชายแดน ทั้งทางบกทางทะเล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีกองทัพเรือรับมอบเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ หรือ เรือหลวงช้าง จากอู่ต่อเรือจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าประจำการ ซึ่งเป็นเรือที่จะนำมาใช้กับเรือดำน้ำที่ยังมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ ว่า ตนได้ให้แนวทางปฎิบัติไปแล้ว เพราะทุกอย่างเป็นสัญญาระหว่างกัน ว่าจะต้องใช้อะไรยังไง แต่มีปัญหาระหว่างกัน ที่เขาไม่ส่งเครื่องยนต์ให้ ก็ต้องไปดูว่าจะมีอะไรมาทดแทนได้หรือไม่
“วันนี้เราต้องยอมรับว่าทหารมีความสำคัญ มีหลายคนก็ออกมามาพูดว่าไม่มีสำคัญ ไม่ต้องมีทหารก็ได้ ก็ลองเอาแล้วกันว่าสิ่งที่พูดมาทั้งหมด ทั้งเรื่องชายแดนต้องใช้กำลังทหารหรือเปล่า ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรในขณะนี้ ถ้าเราไม่มีกำลังที่เพียงพอจะทำอย่างไร ไม่มีอะไรที่ทันสมัยจะทำอย่างไร ทั้งพื้นที่ทางบก ทางทะล มีปัญหาทั้งหมด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องเรือดำน้ำอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ เจรจา และการพูดคุย เพื่อให้ได้อะไรที่เป็นมาตรฐานมา ซึ่งเราได้จัดทหารเรือตั้งแต่ช่วงที่ทำสัญญาไปศึกษา เรียนรู้ ดูตั้งแต่การประกอบเรือตั้งแต่ต้น เรียกได้ว่าไปกินนอน มาเป็นปีๆ แต่ติดอยู่อย่างเดียวคือเรื่องของเครื่องยนต์
เมื่อถามว่า พร้อมจะเปลี่ยนเครื่องยนต์เรือดำน้ำเป็นเครื่องของจีนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องฟังก่อน ต้องหารือกันว่า ถ้าไม่ได้ต้องทำอย่างไร จะเอาเครื่องยนต์อะไรที่ไหนมา มาตรฐานจะใช้ได้หรือไม่ ตรงนี้เป็นเรื่องของสัญญาที่มีระหว่างกัน ทางจีนก็พร้อมจะพูดคุยกับเราในเรื่องนี้
ส่วนการหารือกับนาย สี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีนในเรื่องเรือดำน้ำหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คุยไปแล้วในช่วงการประชุมเอเปคก็พูดคุยไปแล้วหลายเรื่อง คุยกับผู้นำทุกประเทศ เพราะเราต้องสร้างความสมดุลให้ได้ ทุกคนต้องเข้าใจว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ไม่ได้มีศักยภาพอะไรมากมายเรื่องยุทธโธปกรณ์ เรื่องกำลังทางทหาร ไม่ใช่มหาอำนาจ ต้องดูแลตนเองให้ได้ ทั้งพื้นที่ทางบก ทางทะเล โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่มีเขตติดต่อกับหลายประเทศด้วยกัน ซึ่งจำเป็นต้องมีกำลังทหารที่เพียงพอ ก็ขอให้เขาใจในประเด็นนี้ด้วยแล้วกัน.-สำนักข่าวไทย