ตร.ระดมชุดสืบฯ ล่าแก๊งมังกร จับภรรยา-พี่ชายนักธุรกิจจีน เรียกค่าไถ่ 4.7 ล้าน

พัทยา 21 มี.ค. – ระดมชุดสืบสวนล่าแก๊งมังกรจีนเหิมเกริม ลักพาตัวภรรยาและพี่ชายนักธุรกิจจีน เรียกค่าไถ่ 4.7 ล้านบาท ล่าสุดพบรถผู้เสียหายจอดทิ้งไว้ในป่าใกล้มอเตอร์เวย์สาย 7 (พัทยา-กรุงเทพฯ)


นายหม่า หมิงชุน อายุ 33 ปี ชาวจีน พร้อมล่าม เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจสอบสวน สภ.หนองปรือ หลังภรรยาชาวจีน และพี่ชาย ถูกลักพาตัวไปพร้อมรถนิสสันสีดำ หลังไปส่งลูกที่โรงเรียนนานาชาติ ภายในซอยชัยพรวิถี 25 ต.หนองปรือ อ บางละมุง จ.ชลบุรี

นายนายหม่า เล่าว่า มีชายชาวจีนโทรศัพท์มาหา โดยใช้โทรศัพท์มือถือของพี่ชายและภรรยาตนเอง ว่าให้หาเงิน 1 ล้านหยวน หรือ 5 ล้านบาท มาแลกกับอิสรภาพของภรรยาและพี่ชาย ซึ่งระหว่างเดินทางเข้าแจ้งความ คนร้ายได้โทรมาหานายหม่า ว่าให้ไปรอที่บ้านพร้อมเงิน เดี๋ยวจะมีคนเข้าไปเอาเงิน โดยข่มขู่ว่าห้ามแจ้งตำรวจหรือบอกใครให้ช่วยเหลือ


หลังจากเข้าแจ้งความแล้ว พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนมาดักซุ่มอยู่ภายในบ้าน โดยมีนายหม่ารออยู่ด้วย

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบนางสาวเมย์ (นามสมมติ) อายุ 44 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 09.15 น. ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องเอะอะโวยวาย และเสียงสุนัขในบ้านเห่า จึงลุกออกมาดู พบว่าหน้าบ้านมีรถติดยาวเหยียด และเห็นรถยนต์คล้ายรถเอสยูวีสีดำ มีผู้ชายใส่เสื้อสีดำ นุ่งกางเกงขายาว สวมถุงมือสีขาว กำลังเดินอ้อมมาทางประตูด้านคนขับ ก่อนขึ้นรถขับออกไปฝั่งถนนหนองปรือ-อ่างเก็บน้ำมาบประชัน อย่างรวดเร็ว อีกทั้งหลังเกิดเรื่องพบว่ามีรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสีดำจอดขวางถนนทิ้งไว้ จนมีตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เรียกประชุมทีมสืบสวน สภ.หนองปรือ สืบสวนจังหวัดชลบุรี และสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมทั้งนำรถจับสัญญาณโทรศัพท์เข้ามาในพื้นที่เพื่อหาแหล่งซ่อนตัวและจุดที่ใช้ในการเจรจาต่อรองในการเรียกค่าไถ่ พร้อมทั้งเร่งหาวิธีช่วยเหลือตัวประกัน โดยกลุ่มคนร้ายมีการเปลี่ยนสถานที่ที่ใช้เจรจาตลอดเวลา ลักษณะยังคงขับรถวนไปมาในพื้นที่ จ.ระยอง และชลบุรี


พล.ต.ต.กัมพล เปิดเผยว่า ได้แบ่งหน้าที่ตำรวจออกไปทำงานในการหาข้อมูลของกลุ่มคนร้าย เบื้องต้นเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ ผู้เสียหาย และ ตัวประกัน รู้จักกันทั้งหมด เคยทำธุรกิจร่วมกัน ส่วนสาเหตุจูงใจในก่อเหตุน่าจะมาจากปัญหาหนี้สินและปัญหาธุรกิจ อีกทั้งตัวสามีของตัวประกัน ระหว่างสอบปากคำยังไม่ยอมพูดความจริงในหลายๆ เรื่อง ขอเวลาตำรวจทำงานก่อน เชื่อว่าจะสรุปคดีนี้ได้โดยเร็ว

ส่วนบรรยากาศบ้านพักของนายหม่า มีตำรวจคอยดูแลตลอดเวลา พร้อมกับล่ามแปลภาษา ซึ่งกลุ่มคนร้ายชาวจีนยังโทรมากดดันเร่งรัดเงินเรียกค่าไถ่ พร้อมทั้งขู่นายหม่าว่าจะไม่ได้เห็นหน้าภรรยาอีกหากไม่ทำตามข้อเรียกร้อง แต่นายหม่าอ้างมีเงินไม่พอ กำลังหาเงินอยู่ แต่มีการโอนเงินไปให้กลุ่มคนร้ายบางส่วนแล้ว เป็นเงินสกุลดิจิทัลจำนวน 500 ยูเอสดีที คิดเป็นเงินไทย 17,140 บาท แต่กลุ่มคนร้ายยังต้องการเงินเพิ่มอีก โดยต้องการจำนวน 150,000 ยูเอสดีที เพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกัน ส่วนเหยื่อที่ถูกอุ้มไปเรียกค่าไถ่ มีการพูดคุยแบบวิดีโอคอล พบว่ายังปลอดภัยและได้รับดูแลเป็นอย่างดี ส่วนสาเหตุที่ถูกก่อเหตุน่าจะมาจากเรื่องการขัดผลประโยชน์ธุรกิจสถานพยาบาลในพื้นที่ประเทศเมียนมา ตรงข้ามกับท่าขี้เหล็ก จ.เชียงราย

ต่อมาตำรวจสายตรวจ สภ.หนองปรือ พบรถยนต์เอสยูวีนิสสันสีดำ ซึ่งเป็นรถของตัวประกัน ถูกจอดทิ้งไว้ในป่า ใกล้กับถนนสายมอเตอร์เวย์สาย 7 (พัทยา-กรุงเทพฯ) หมู่บ้านโป่งบ้านล่าง หมู่ 3 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ห่างจากถนนหลักประมาณ 500 เมตร โดยมีคนเห็นว่ารถคันดังกล่าวถูกนำมาจอดตั้งแต่ช่วงเวลา 09.30 น. แต่ไม่มีใครเอะใจ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง เพื่อหาเบาะแสของกลุ่มคนร้าย

หลังจากนั้นตำรวจให้เชิญตัวนายหม่ามาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.หนองปรือ นายหม่ายอมรับผ่านล่ามชาวจีนว่าด้วยความเป็นห่วงภรรยาและพี่ชายจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงโอนเงินผ่านกระเป๋าตังค์คริปโทฯ เป็นสกุลเงินดิจิทัล โดยโอนเงินไปแล้วกว่า 200,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 970,000 บาท จนตำรวจต้องสั่งให้หยุดโอนเงิน เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะได้ใจ คิดว่าผู้เสียหายมีเงิน และจะขู่ให้โอนเงินตลอดเวลา พร้อมทั้งมีการสอบปากคำผ่านล่ามชาวจีนหาจุดเชื่อมโยงสาเหตุจูงใจในการก่อเหตุ

ขณะที่ล่ามชาวจีนบอกว่า นายหม่า หมิงชุน เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 เปิดธุรกิจร้านอาหารย่านพัทยาเหนือ ไซน่าทาวน์ และเพิ่งจะปิดตัวได้ไม่นาน ส่วนบ้านพักปัจจุบันเช่าอยู่เดือนละ 55,000 บาท โดยพักอยู่กับภรรยา ลูกชาย และพี่ชาย ซึ่งในระหว่างเกิดเรื่องภรรยาถูกลักพาตัว นายหม่ามีอาการกังวลตลอดเวลา ถามคำตอบคำ โดยจะไม่ยอมพูดถึงเรื่องอื่น โดยเฉพาะเรื่องธุรกิจ หรือ ทำธุรกิจร่วมกับใคร ที่สำคัญไม่ยอมพูดอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

ทั้งนี้ ตำรวจยังคงลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้ายอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไร้วี่แวว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ อ.บางละมุง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย