กรุงเทพฯ 23 ก.พ. – คนบันเทิงร่วมพิธีรดน้ำศพ “ไพโรจน์ ใจสิงห์” ดารารุ่นใหญ่ วัย 79 ปี ที่เสียชีวิตอย่างสงบ หลังล้มป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ และหลายโรคแทรกซ้อน เมื่อราว 8 ปีก่อน
สิ้นอีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพของวงการบันเทิง นักแสดงอาวุโส “ไพโรจน์ ใจสิงห์” วัย 79 ปี ที่เสียชีวิตอย่างสงบเช้ามืดวานนี้ (22 ก.พ.) ที่บ้านพักย่านลาดพร้าว หลังล้มป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ และหลายโรคแทรกซ้อน เมื่อราว 8 ปีก่อน ทำให้ต้องหายไปจากหน้าจอ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง อาการทรงๆ ทรุดๆ มาโดยตลอด ซึ่งพิธีรดน้ำศพมีขึ้นที่วัดลาดพร้าว ศาลา 1 ท่ามกลางความอาลัยของครอบครัว และเพื่อนพ้องในวงการบันเทิง ทั้งรอง เค้ามูลคดี, เท่ห์ อุเทน รวมถึงกรุง ศรีวิไล ที่เปิดใจด้วยน้ำเสียงสั่นเครือกับการสูญเสียเพื่อนนักแสดงร่วมรุ่นที่เข้าวงการร่วมเล่นละครมาพร้อมๆ กัน แต่เชื่อว่าเพื่อนไปสบาย ไม่ต้องทุกข์กับอาการป่วยที่เป็นอยู่แล้ว
ขณะที่ลูกๆ เผยทำใจกับการสูญเสียครั้งนี้ไว้บ้างแล้ว เพราะช่วงต้นเดือน คุณพ่อมีอาการหายใจติดขัดจนต้องหามส่งโรงพยาบาล ก่อนจะขอกลับมาพักฟื้นที่บ้านเมื่อ 3 วันก่อน และหลับไปในที่สุด แต่สุดภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกๆ ของคุณพ่อไพโรจน์ ที่คอยสร้างความสุข รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้แฟนละคร รวมถึงผู้ร่วมงานมานานเกือบ 50 ปี พิธีสวดอภิธรรมศพไพโรจน์ ใจสิงห์ จะมีขึ้น 5 คืน ที่วัดลาดพร้าว ก่อนจะฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์นี้
สำหรับไพโรจน์ ใจสิงห์ เกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2484 ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เคยเป็นครูที่โรงเรียนสารวิทยา และโรงเรียนอำนวยศิลป์พระนครมาหลายปี ระหว่างสอนหนังสือ หารายได้พิเศษ เล่นดนตรีตอนกลางคืน เข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกปี พ.ศ. 2514 รับบทพระเอกจากหนังเรื่อง “ดวง” ของ “เปี๊ยก โปสเตอร์” คู่กับ “วนิดา อมาตยกุล” จากนั้นมีงานแสดงตามมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ คนสู้คน เพชรตาแมว ลูกชู้ สาวขบเผาะ ยอดสงสาร รัญจวนจิต จัดเป็นนักแสดงชั้นนำอันดับต้นๆ ระยะหลังรับงานแสดงเป็นครั้งคราว และกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับภาพยนตร์โฆษณาเปิดตัวเบียร์ยี่ห้อหนึ่งเมื่อ พ.ศ. 2542 ตลอดระยะเวลายาวนานที่อยู่ในวงการบันเทิง ผ่านการแสดงมาหลายบทบาท เป็นนักแสดงที่ดารารุ่นหลังให้ความเคารพรัก
ด้านชีวิตส่วนตัว ไพโรจน์ ใจสิงห์ สมรสกับนางโชติรส ใจสิงห์ มีบุตรด้วยกัน 9 คน หนึ่งในนั้นคือ กฤษฎา ใจสิงห์ ศิลปินเพลงแนวอินดี้
25 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ไพโรจน์ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ซีกซ้าย เป็นหลายโรครุมเร้า ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกจนอาการดีขึ้น ต่อมา 4 กันยายน พ.ศ. 2556 อาการทรุดลงอีกครั้ง มีอาการไข้ขึ้นสูงและเบื่ออาหาร จึงถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลราชวิถีอีกครั้ง ปี 2563 อาการทรุด ปอดติดเชื้อ ครอบครัวขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นก็พักรักษาตัวเรื่อยมา ก่อนเสียชีวิตอย่างสงบที่บ้านพักเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564.-สำนักข่าวไทย