สุราษฎร์ธานี 18 ก.พ. – อาการเสือลายเมฆจากอุทยานแห่งชาติคลองพนม จ. สุราษฎร์ธานีดีขึ้น กินอาหารได้ มองเห็นได้เลือนรางเพราะตกจากที่สูงจนสมองบวม ต้องติดตามอาการใกล้ชิด แม้ปลอดภัยก็อาจพิการ เจ้าหน้าที่นำผลการตรวจสอบหัวกระสุนและวิถีกระสุนส่งให้ตำรวจเพื่อประกอบการสอบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
นายบรรณรักษ์ เสริมทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) กล่าวว่า หัวหน้าอุทยานแห่งชาติคลองพนมได้นำผลการตรวจสอบชนิดกระสุนปืนที่คนร้ายใช้ยิงเสือลายเมฆส่งให้พนักงานสอบสวนแล้ว พร้อมกับวิถีกระสุนและความรุนแรงจากการถูกยิงเพื่อประกอบการติดตามตัวผู้กระทำผิดและประกอบสำนวนคดี ส่วนอาการเสือลายเมฆล่าสุด สามารถกินเนื้ออกไก่สดที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ได้มื้อละ 250-300 กรัม วันละ 2 มื้อ กินน้ำเองได้ ขับถ่ายปกติ นายสัตวแพทย์เจ้าของไข้ฉีดยาปฏิชีวนะ วิตามินบำรุงร่างกาย และยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน ภาวะขาดน้ำเริ่มลดลง อุณหภูมิร่างกายค่อยๆ ปรับขึ้น แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ปกติ จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยยังไม่สามารถตัดสินได้ว่า สัตว์จะพิการหรือไม่ เพราะหากภาวะสมองบวมหายเป็นปกติ สัตว์อาจจะลุกเดินได้ แต่จะไม่เป็นปกติเหมือนสัตว์ทั่วๆ ไป จึงต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพักเพื่อประเมินอาการอีกครั้ง
นายสัตวแพทย์ปิยะ เสรีรักษ์ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการประจำสำนักฯ กล่าวว่า เสือลายเมฆลุกมานอนในท่าหมอบได้แล้ว แต่ยังลุกได้เนื่องจากภาวะสมองบวม ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากการตกจากที่สูงและหัวกระแทกพื้น ภาวะตาฝ้าจึงเกิดจากติดเชื้อไวรัสตามธรรมชาติเริ่มจางลง แต่เมื่อทดสอบการมองเห็นพบว่า รูม่านตาตอบสนองเพียงเล็กน้อยซึ่งเป็นผลจากการตกจากที่สูง จนได้รับการกระทบกระเทือน ผลการตรวจวิถีกระสุนเบื้องต้นคาดว่า คนร้ายยิงเสือลายเมฆจากข้างหลังเข้าบริเวณลำคอและใกล้เส้นเลือดใหญ่ ปกติเสือลายเมฆจะอยู่บนต้นไม้ เมื่อถูกยิงอาจตกลงมา หัวกระแทกพื้นจนสมองบวม แม้จะรักษาจนภาวะสมองบวมดีขึ้น แต่การมองเห็นก็อาจไม่เป็นปกติ จึงยังคงต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดไม่น้อยกว่า 10 – 14 วัน . – สำนักข่าวไทย