นครราชสีมา 30 มี.ค. – อธิบดีกรมอุทยานฯ ห่วงไฟป่าลุกลามเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ วางแนวทางสกัดโดยให้เฮลิคอปเตอร์ระดมทิ้งน้ำ ส่วนภาคพื้น ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทำแนวเผาโต้กลับไฟป่าบริเวณเขาตะแบก
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า สั่งการให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) ระดมกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และสถานีดับไฟป่าเดินขึ้นไปยังเขาตะแบก เพื่อทำแนวเผาโต้กลับไฟป่า ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีสกัดไฟ เนื่องจากไฟป่าที่ไหม้ในเขตจังหวัดนครนายก มีทิศทางลุกลามไปทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ล่าสุดอยู่ห่างจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เพียง 2 กิโลเมตร พร้อมกันนี้ประสานให้เฮลิคอปเตอร์ทิ้งน้ำเพื่อสกัดการลุกลาม
ทั้งนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ห่วงใยสถานการณ์ดังกล่าวอย่างยิ่ง จึงสั่งการให้รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุเพื่อประสานกับหน่วยงานต่างๆ ควบคุมไฟให้สงบโดยเร็ว ลดความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า รวมถึงผลกระทบจากฝุ่นควันที่มีต่อสภาพอากาศ
สำหรับสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่พระราชกฤษฎีกาหวงห้ามใช้ในราชการทหาร บริเวณเขาแหลมและเขาชะพลู หมู่ที่ 13 ต.พรหมณี และหมู่ที่ 13 ต.เขาพระ อ.เมืองนครนายก ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา คาดว่า เกิดจากทั้งฟ้าผ่าและการเผา
หลังเกิดเหตุ ได้บูรณาการกำลังทุกฝ่ายและเครื่องจักร อุปกรณ์ รถน้ำ โดยฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง (จังหวัด อำเภอ) อบต. กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ เข้าร่วมดำเนินการ แต่เนื่องจากมีลมแรง สภาพอากาศร้อนจัด สภาพพื้นที่เป็นภูเขามีความลาดชันค่อนข้างสูง ทำให้การควบคุมและดับไฟป่า ยังไม่สามารถควบคุมได้
ปัจจุบันมีการตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จังหวัดนครนายก โดยมีนายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เป็นผู้อำนวยการ โดยบูรณาการกำลังทุกฝ่าย จังหวัด ทหาร อบต. หน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กอ.รมน. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
ส่วนเฮลิคอปเตอร์ที่สนับสนุนการดับไฟทางอากาศ 3 ลำ ได้แก่ เฮลิคอปเตอร์ของ ปภ. กองทัพบก และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.-สำนักข่าวไทย