สหภาพรถไฟฯ เดินหน้าค้านปิดเดินรถสถานีหัวลำโพง เล็งชงรัฐบาลแก้ปัญหาเดินรถไฟ แก้ปัญหาจราจรติดขัด ส่วนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์หวั่นเอื้อนายทุนรายใหญ่สร้างโรงแรม-ศูนย์การค้า
นายสาวิทย์ แก้วหวาน ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เปิดเผยว่า สำหรับการเปิดรับฟังความคิดเห็นในการหยุดให้บริการเดินรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพง นั้น ทางสหภาพมองว่าสถานีรถไฟหัวลำโพงถือเป็นสถานีประวัติศาสตร์และเป็นที่พึ่งของประชาชน หากมีการปิดสถานีหัวลำโพงจะส่งผลกระทบให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ที่ผ่านมาทางสหภาพได้ดำเนินการล่ารายชื่อและพบปะประชาชนผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมดโดยต้องการให้รัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหยุดดำเนินการนโยบายเหล่านี้
อย่างไรก็ตามส่วนกรณีที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีแผนให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทบทวนแผนการเดินรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพง เบื้องต้นสร.รฟท.ยืนยันต้องมีขบวนรถไฟจำนวน 22 ขบวน เข้าสถานีหัวลำโพงเหมือนเดิม ส่วนข้อเสนออื่นๆคงต้องฟังภาคประชาชนอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปและเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้หากมีการเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อและต้องปิดให้บริการสถานีรถไฟหัวลำโพงไม่ใช่เรื่องจำเป็น เพราะสถานีหัวลำโพงถือว่ายังมีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และการให้บริการประชาชน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต้องทบทวนในเรื่องนี้ว่าจะเห็นผลประโยชน์ในการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์หรือให้ผลประโยชน์แก่ประชาชนมากกว่ากัน ทุกวันนี้เราต้องพูดความจริงว่า รฟท.เป็นหนี้เพราะมีการให้บริการที่ต่ำกว่าต้นทุน ทำให้มีหนี้สะสม 2.4 แสนล้านบาท เนื่องจากภาครัฐไม่ได้มีการชดเชยรายได้ให้กับรฟท. ขณะเดียวกันที่ดินของรฟท.บริเวณอื่นๆสามารถหาประโยชน์ได้เช่นกัน แต่การยกเลิกสถานีรถไฟหัวลำโพง ทั้งๆที่เป็นสถานีให้บริการด้านระบบรางถือเป็นการผิดกฎหมายอย่างชัดเจน
สำหรับข้อเสนอของสหภาพฯรถไฟต่อรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาดังต่อไปนี้
- การให้มีบริการขบวนรถไฟรับ – ส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ควรมีอยู่ต่อไป โดยให้มีขบวนรถไฟชานเมืองทุกสาย และรถบริการเชิงสังคม(PSO)ทางไกล อย่างน้อยเส้นทางละ 1 ขบวน
2.การแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ กทม. รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการขนส่งทางรางเป็นระบบหลักอย่างสมบูรณ์เต็มระบบ ซึ่งในประเทศที่เจริญแล้วต่างก็ใช้ระบบขนส่งทางรางเป็นระบบขนส่งหลัก โดยรัฐบาลควรดำเนินการเร่งรัดโครงการก่อสร้างโครงข่ายรถไฟชานเมืองสายสีแดงส่วนต่อขยายให้เต็มรูปแบบ ที่ดำเนินการโดยรัฐทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารจัดการ เพื่อควบคุมราคาค่าบริการและเป็นรัฐสวัสดิการให้กับประชาชน
3.การพัฒนาพื้นที่ในเชิงพาณิชย์เพื่อมาชดเชยผลการดำเนินงานที่ขาดทุน ของรฟท.ควรดำเนินการจากที่ดินของรฟท.ในพื้นที่ที่มีความพร้อม เช่น พื้นที่ย่านพหลโยธิน บางซื่อ จตุจักร รัชดาภิเษก สถานีแม่น้ำ หรือพื้นที่อื่นๆที่มีศักยภาพและความพร้อมทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ พิษณุโลก อรัญประเทศ สงขลา พังงา ประจวบคีรีขันธ์ อุดรธานี ขอนแก่นอุบลราชธานี นครราชสีมา และ บุรีรัมย์ เป็นต้น
นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศ(รฟท.) เปิดเผยว่าจากกรณีการปิดสถานีหัวลำโพงนั้น ตั้งข้อสังเกตว่าพื้นที่ของการรถไฟฯมีอยู่ทั่วประเทศทำไมไม่มีการดำเนินการพัฒนาเหตุใดต้องเป็นสถานีหัวลำโพง
สำหรับจำนวนหนี้ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการระบุว่ามีประมาณ 600,000 ล้านบาทนั้น จำนวนนี้มาจากส่วนไหนต้องให้ทางบัญชีอธิบาย โดยยืนยันหนี้ของการรถไฟฯมีหนี้แค่เพียงประมาณ 200,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น และหากพูดถึงหนี้ของรถไฟฯนั้นตามกฎหมายหากรถไฟฯเงินขาดรัฐบาลต้องจ่ายชดเชยในส่วนที่รัฐบาลเป็นหนี้บริการสาธารณะ(PSO) ประมาณ 200,000 กว่าล้านบาท
ด้านนางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวต่อว่า เราต้านการปิดสถานีรถไฟหัวลำโพง เนื่องจากปัจจุบันผังเมืองสถานีหัวลำโพงเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งไม่สามารถนำไปบริหารเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้ แต่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต้องการหยุดเดินรถไฟโดยปรับสีผังเมืองเพื่อดำเนินการหารายได้ในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยการเปิดประมูล ถึงแม้กระทรวงคมนาคมยืนยันว่าไม่มีการทุบสถานีรถไฟหัวลำโพงแต่ก็ถือเป็นการเอื้อนายทุน ทำให้สถานีรถไฟหัวลำโพงกลายเป็นประตูทางเข้าเพื่อสร้างศูนย์การค้าในอนาคต
ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช