รถแท็กซี่กว่า 300 คัน ซึ่งเป็นรถที่ยังไม่หมดอายุ ถูกจอดทิ้งไว้ลานจอดอู่สหกรณ์แท็กซี่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระบาดมานานกว่า 2 ปี และมาตรการล็อกดาวน์และการแพร่ระบาดทำให้ไม่มีผู้โดยสาร หารายได้ไม่พอค่าเช่า ค่างวดรถ
พนักงานสหกรณ์บวรและราชพฤกษ์แท็กซี่ ผุดไอเดียให้พนักงานทำการปลูกผักสวนครัว อาทิ พริก กะเพรา มะเขือ ต้นหอม ฯลฯ นำมาปลูกบนหลังคารถ โดยนำไม้ไผ่มาทำเป็นฐานและใช้พลาสติกปูพื้นหลังคาใส่ดินและปลูกผัก และเวียนกันมารดน้ำทุกวันเช้าเย็น เพื่อหวังว่าหากมันเติบโต จะให้พนักงาน คนขับแท็กซี่ นำมาปรุงอาหารโดยไม่ต้องซื้อ และยังเป็นการสะท้อนให้เห็นว่ารถแท็กซี่ราคาเป็นล้านบาท หารายได้ไม่ได้ต้องนำมาปลูกผักแทน โดยจะทยอยทำการปลูกไปจนครบทุกคันที่จอดอยู่ เพื่อให้ได้ปริมาณของผักในแต่ละวันที่เพียงพอ
นายฐาปกรณ์ อัศวเลิศกุล อายุ 54 ปี ที่ปรึกษาสหกรณ์บวรและราชพฤกษ์แท็กซี่ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทางสหกรณ์และกลุ่มผู้ประกอบการและเจ้าของรถ มีการร้องขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งการนำรถไปจอดไว้ยังกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม และกระจายไปจอดยังตลาดไท โรงงานยาสูบ สถานีกลางบางซื่อ มาเป็นเวลานานแล้ว แต่ยังไม่มีที่ไหนตอบรับการเยียวยา ทั้งดอกเบี้ยและค่าแก๊ส เพราะสถานการณ์โควิด-19 คนขับไม่สามารถหารายได้ได้ หรือบางคนรายได้ก็ไม่พอกับรายจ่าย จึงต่างพากันทยอยคืนรถเรื่อยๆ จนต้องกระจายไปจอดตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ รวมแล้วกว่า 2,000 คัน จากแท็กซี่ของสหกรณ์ทั้งหมดที่มีกว่า 3,000 คัน หมายความว่า รถแท็กซี่ของสหกรณ์ที่ขับอยู่บนท้องถนนวันนี้ เหลือไม่ถึง 1,000 คัน ทั้งยังเป็นหนี้กับบริษัทไฟแนนซ์รถยนต์อีกกว่า 3,000 สัญญา
ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช