(7 เม.ย.64) ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มมอเตอร์ไซค์ ยื่นจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ยกเลิกมติคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่ให้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน ออกจากราชการ เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ชี้มูลความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา กรณี นายชัยวัฒน์ เข้าไปรื้อถอน เผาทำลาย บ้านพัก และสิ่งปลูกสร้างของชาวกะเหรี่ยงบางกลอย เมื่อปี 2554 จากยุทธการตะนาวศรี
โดยนางวัฒนา เนื่องพลี วชิโรดม เลขาธิการเครือข่ายการจัดการวิกฤตป่าและน้ำ ตัวแทนยื่นหนังสือกล่าวว่า นายชัยวัฒน์ เป็นผู้พิทักษ์ป่าที่ทุ่มเทเสียสละทำหน้าที่ในการพิทักษ์ป่า และมีผลงานโดดเด่นและมีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้บุกรุกป่าจำนวนมากโดยไม่เกรงกลัวผู้มีอำนาจและอิทธิพล ถือว่าเป็นข้าราชการป่าไม้ดีเด่นที่หาได้ยากคนหนึ่ง
จากที่ได้ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องนั้นเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ท. ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการชี้มูลความผิดเฉพาะในข้อหา 157 ตามประมวลกฎหมายอาญาและตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน 85/1 (1) เพราะกฎหมาย ป.ป.ท.ให้อำนาจในการชี้มูลเรื่องทุจริตเท่านั้น แต่นายชัยวัฒน์ ไม่ได้ทุจริตจึงเป็นการนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่จะชี้มูลความผิดนายชัยวัฒน์ มองว่าเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้หนังสือรายงานชี้มูลความผิดนายชัยวัฒน์ ก็กระทำโดยอคติมีการอ้างคำสั่งศาลปกครองสูงสุดว่านายชัยวัฒน์ ทำเกินกว่าเหตุ แต่ข้อเท็จจริงในศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาเรียบร้อยแล้วว่านายชัยวัฒน์ ได้ทำการจับกุมผู้ที่บุกรุกอุทยานตามกฎหมายอย่างถูกต้อง สมควรแก่เหตุเป็นการกระทำชอบด้วยกฎหมายและไม่มีอะไรเสียหาย หากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติยังคงยืนยันลงโทษนายชัยวัฒน์ ซึ่งเป็นข้าราชการที่พิทักษ์ป่าอย่างเข้มแข็งให้ออกจากราชการ เพียงเพราะอ้างว่าต้องทำตามมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของคณะกรรมการ ป.ป.ท. กระทรวงฯ ก็อาจจะกลายเป็นผู้กระทำผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญาเสียเอง
ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช
เรื่อง สุธิดา ปล้องพุดซา