สมัชชาแรงงานนัดชุมนุม

วันนี้ ( 21ส.ค.63 ) ที่ การชุมนุมกันที่บริเวณหน้าสภาองค์การลูกจ้างแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย ถ.ปู่เจ้าสมิงพราย จ.สมุทรปราการ กลุ่มองค์กรแรงงาน ในนาม #สมัชชาแรงงานแห่งชาติ และเครือข่ายแรงงานต่อต้านการคุกคามประชาชน ร่วมกันจัดชุมนุมใหญ่เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเยาวชนคนหนุ่มสาวทั่วประเทศภายใต้การนำของเครือข่าย #เยาวชนปลดแอกและประชาชนปลดแอก


โดยผู้ชุมนุมอันประกอบไปด้วยสมาชิกจากสหภาพแรงงาน สมาพันธ์แรงงาน สภาองค์กรลูกจ้าง และองค์กรแรงงานกว่า 109 องค์กรในทุกสาขาอุตสาหกรรม ต่างรวมตัวกันแสดงจุดยืนผ่านการร่วมชุมนุมและการปราศรัยบนเวที โดยมีผู้แทนจากองค์กรแรงงานต่างๆผลัดกันขึ้นมาพูดคุยในประเด็นปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในด้านเศรษฐกิจปากท้อง

โดยประเด็นที่ผู้แทนองค์กรแรงงานต่างๆแสดงความคิดเห็นเป็นจุดร่วมเดียวกัน คือการเน้นย้ำความเกี่ยวข้องกันระหว่างปัญหาการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจ โดยชี้ให้เห็นว่าการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐบาลที่ไม่ได้เป็นผู้แทนเจตนารมณ์ของประชาชน และสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มทุนมากกว่าคนรากหญ้า ล้วนเป็นสิ่งที่นำมาสู่ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนในปัจจุบัน พร้อมทั้งเน้นย้ำความเรียกร้องต้องการของกลุ่มแรงงาน ในการสร้างรัฐสวัสดิการขึ้นในประเทศไทย


ชี้การจ้างงานแรงงานนอกระบบไม่เป็นธรรม-กฎหมายซ้ำเติมสกัดการรวมตัวต่อรอง ย้ำชัดจุดยืนหนุนเยาวชนแก้ รธน.เปิดทางโละระบบจ้างงานเยี่ยงทาส]

อาทิเช่น การปราศรัยของ ธนกิจ สาโสภา อดีตประธานสหภาพแรงงานฮอนด้าประเทศไทย และที่ปรึกษาสหภาพแรงงานฮอนด้าประเทศไทย ที่ปราศรัยถึงสภาพการจ้างงานของแรงงานในปัจจุบัน ที่ไม่ว่าจะเป็นแรงงานในระบบหรือนอกระบบ ต่างก็ประสบกับปัญหาจากระบบการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรมทั้งสิ้น โดยเฉพาะในส่วนของแรงงานนอกระบบ

เพราะวันนี้ตามกฎหมายแล้วแรงงานนอกระบบที่เป็นสัดส่วนใหญ่มากของแรงงานทั้งหมด ยังคงไม่มีสิทธิในการรวมตัว เช่นแรงงานที่เอางานไปทำที่บ้าน ไม่มีสิทธิที่จะเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน เกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยจากการทำงานก็ไม่มีใครรับผิดชอบ ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะกฎหมายไม่อนุญาตให้เรารวมตัวกัน คนงานเรียกร้องสิทธิการรวมตัว เจรจา ต่อรอง ให้เกิดเงื่อนไขตามอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศมานาน แต่ก็ไม่เคยได้รับการตอบสนอง


กฎหมายวันนี้มีแต่การเอื้อให้แรงงานไม่สามารถรวมตัวต่อรองได้ นี่จึงถือว่าแรงงานวันนี้ไม่มีเสรีภาพ ถ้าไม่กำจัดระบบการจ้างงานแบบนี้ออกไปจากประเทศไทยตั้งแต่วันนี้ ในอนาคตของลูกหลานเราที่กำลังเคลื่อนไหวกันอยู่ก็จะต้องมาทำงานในระบบการจ้างงานที่ไร้เสรีภาพและไม่มีความมั่นคงในชีวิต วันนี้แรงงานไม่มีอะไรค้ำประกันความมั่นคงในชีวิต คนรุ่นหลังก็กำลังจะจบออกมาตกงาน รัฐบาลไม่เคยมองเห็นปัญหาเหล่านี้

นายพันธกิจยังระบุทิ้งท้ายด้วย ว่าดังนั้นการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดให้กฎหมายการจ้างงานต้องรับรองสิทธิของแรงงานในการรวมตัวจะต้องเกิดขึ้น และถ้ารัฐบาลยังดื้อดึงไม่ปฏิรูป ไม่เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ และไม่หยุดคุกคามประชาชน เราแรงงานจะยกระดับการชุมนุมอย่างแน่นอน

[หมดเวลาสู้แค่ปากท้องเฉพาะหน้าในโรงงาน – แรงงานลั่น! ต้องสู้ทางการเมืองด้วยให้เกิดรัฐสวัสดิการแก่ประชาชนทุกคน]

ด้านเพชร โสภาบุตร ตัวแทนแรงงานจากกลุ่มยานยนต์ ระบุว่า วันนี้เรามาร่วมกันแสดงพลังร่วมกับลูกหลานของเราไปสู่เป้าหมาย การชุมนุมของเยาวชนมีหนึ่งความฝัน เรากรรมกรก็มีหนึ่งความฝันเช่นกัน นั่นคือเรื่องของรัฐสวัสดิการนั่นเอง

นายเพชรระบุว่าที่ผ่านมาเวลาเราเรียกร้องสวัสดิการอะไร เราได้แต่เรียกร้องจากนายจ้างของตัวเอง แต่วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะเรียกร้องจากรัฐให้เกิดรัฐสวัสดิการขึ้นมา ที่ผ่านมารัฐผลักแรงงานให้ไปสู้รบกับนายจ้างให้ได้มาซึ่งสวัสดิการด้านต้างๆ ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ลำบากกันต่อไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่รัฐควรจะผลักภาระมาที่ลูกจ้างและนายจ้าง แต่รัฐสวัสดิการต่างหาก คือสิ่งที่ควรเกิดขึ้น

ที่ผ่านมาตนถูกถามอยู่เสมอว่าจะเอาเงินที่ไหนมาทำรัฐสวัสดิการ คำตอบของตนก็คือก็ถ้าเราไม่ซื้อเรือดำน้ำ ไม่ซื้อเครื่องบิน VIP ทุกปีๆแบบที่เราทำทุกวันนี้ เราสามารถทำสวัสดิการให้ประชาชนได้หลายด้านแล้ว ภาษีประชาชนควรจะต้องนำมาจัดสรรเป็นสวัสดิการให้ประชาชนอย่างเท่าเทียม เสมอภาค ทั่วถึง

ที่ผ่านมาเรามักจะถูกวิจารณ์ว่าแรงงานอย่าไปพูดถึงเรื่องการเมืองเลย มุ่งเรื่องปากท้องในโรงงานของเราดีกว่า แต่วันนี้ตนขอบอกว่าเราหยุดพูดถึงการเมืองไม่ได้แล้ว การเรียกร้องที่ผ่านมาของแรงงานในโรงงาน สวัสดิการที่ได้มาเราก็ได้แค่คนกลุ่มหนึ่ง แต่มันไปไม่ถึงประชาชนทั่วประเทศ ดังนั้นเราจะไม่หยุดแค่เรื่องปากท้องของเราอีกต่อไป แต่เราต้องขับเคลื่อนในทางการเมือง ให้เกิดสวัสดิการไปถึงประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึง จากครรภ์มารดาจนถึงเชิงตะกอน

ทำไมสวัสดิการข้าราชการมีสวัสดิการดูแลตัวเองจนถึงวันเกษียณจนตาย แต่คนงานที่เป็นประชาชนธรรมดาต้องไปฝากความหวังที่เงินประกันสังคมที่ได้บ้างไม่ได้บ้าง วันนี้เรามองในฐานะคนไยคนหนึ่ง สวัสดิการจากรัฐต้องได้รับการจัดสรรอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่สวัสดิการแบบเลือกปฏิบัติอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

[“จุฑาทิพย์” หวิดถูกชายคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบอุ้มลงเวทีระหว่างการกล่าวปราศรัย แรงงานร่วมป้อง-ไล่พ้นที่ชุมนุม]

อย่างไรก็ดี ระหว่างการปราศรัยของจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ซึ่งเป็นตัวแทนเยาวชนที่มาร่วมเวทีพบปะกับผู้ใช้แรงงานในวันนี้ ปรากฏชายหัวเกรียนกลุ่มหนึ่งพยายามขึ้นไปบนเวทีเพื่อฉุดกระชากจุฑาทิพย์ลงจากเวที ทำให้กลุ่มแรงงานที่นั่งฟังกรปราศรัยอยู่ข้างล่างเวที ต่างแสดงความไม่พอใจ จนก่อให้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อย แต่สถานการณ์ก็คลี่คลายลงไปได้ เมื่อฝ่ายผู้ดูแลจัดการชุมนุม ได้เชิญตัวกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวออกจากพื้นที่ไป

จากนั้น ในช่วงท้ายของเวทีการชุมนุม บรรดาตัวแทนผู้นำแรงงานจากองค์กรต่างๆ ได้ร่วมกันขึ้นเวทีพร้อมอ่านแถลงการณ์สมัชชาแรงงานแห่งชาติ และเครือข่ายแรงงานต่อต้านการคุกคามประชาชน อันนี้เนื้อหาดังนี้:

“จากสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันได้มีความเหลื่อมล้ำที่ขยายออกอย่างต่อเนื่องภายใต้รัฐบาลตลอด 6 ปีที่ผ่านมา การละเมิดสิทธิแรงงานเกิดขึ้นในวงกว้าง สหภาพแรงงานถูกคุกคามจากรัฐบาลทั้งทางตรงและโดยอ้อม กลุ่มทุนขนาดใหญ่มีความสัมพันธ์แนบชิดกับรัฐบาล ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ใช้แรงงานซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศตกต่ำ ไม่สามารถต่อรองได้ และเมื่อเกิดวิกฤติโรคระบาดก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำยากจนที่ฝังรากลึกในประเทศนี้ ผู้คนนับล้านสูญเสียงาน กลุ่มนายจ้างจำนวนมากฉกฉวยช่องว่างทางกฎหมายในการเลิกจ้าง บังคับลาออกเปลี่ยนสภาพการจ้าง ผู้ใช้แรงงานจำนวนมหาศาลต้องใช้ชีวิตอย่างสิ้นหวัง รอคอยการถูกเลิกจ้าง ลดเงินเดือน อย่างไร้อำนาจการต่อรอง เพราะกลไกทางกฎหมายและรัฐสภาก็ไม่สามารถเป็นที่พึ่งได้ ประเด็นที่ก้าวหน้าที่นำเสนอโดยชนชั้นแรงงาน เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับแก้ไข หรือ พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติก็ถูกยื้อเวลา จนทำให้ขบวนการแรงงานทั้งผองรู้สึกสิ้นหวังในกลไกสืบทอดอำนาจของรัฐบาลที่ทำให้รัฐสภาไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง
ความเดือดร้อนแผ่ไปทุกหย่อมหญ้า กลุ่มคนรุ่นใหม่ นักเรียน นิสิต และนักศึกษาที่มองเห็นถึงความไม่เป็นธรรมในสังคมและความสิ้นหวังของประเทศนี้ได้ออกมาแสดงจุดยืนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเมืองสู่ความเป็นประชาธิปไตย กลับถูกคุกคามจากอำนาจรัฐ ถูกตั้งข้อหาอย่างไม่เป็นธรรม แม้ความต้องการของพวกเขาจะเป็นเพียงแค่การปรารถนาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเมืองที่เป็นประชาธิปไตย และสังคมที่เท่าเทียมอันเป็นข้อเสนอเดียวกันกับขบวนการแรงงานทุกยุคทุกสมัย ที่ผู้นำแรงงานจำนวนมากนำชีวิตเข้าเสี่ยงภัย ถูกสังหารและอุ้มหายมาตลอดหลายสิบปี การคุกคามประชาชน คือการทำลายประชาธิปไตย ทำลายสิทธิในการส่งเสียง คือการทำลายขบวนการแรงงานด้วยเช่นเดียวกัน สมัชชาแรงงานแห่งชาติจึงขอประกาศแถลงข้อเรียกร้อง สี่ประการดังนี้

  1. หยุดคุกคามประชาชนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงโดยใช้กฎหมายที่ไม่มีความชัดเจน หรือทางอ้อมในการกดดันให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจแทรกแซงการเคลื่อนไหว หรือการข่มขู่ประชาชนในรูปแบบต่างๆ
  2. แก้ไขรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อระบอบอำนาจนิยม ยกเลิกการรองรับคำสั่งประกาศและการกระทำของ คสช. และหัวหน้า คสช. เพื่อให้ผู้คนสามารถโต้แย้งรัฐธรรมนูญได้ และยกเลิกสมาชิกวุฒิสภาจากการแต่งตั้งที่เป็นกลไกสำคัญต่อการสืบทอดอำนาจ พร้อมเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ที่ต้องมีคุณสมบัติสามประการ ดังต่อไปนี้ 1) อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริงพร้อมทั้งต้องมีหลักประกันด้านสิทธิเสรีภาพทั้งในความคิดและการแสดงออก 2) ต้องมีหลักประกันด้านความเสมอภาค และ 3) ต้องมีหลักประกันด้านคุณภาพชีวิต
  3. ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจให้ประชาชน
  4. เดินหน้าสู่รัฐสวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพื่อรับประกันเสรีภาพในชีวิต และสร้างสังคมประชาธิปไตย”
    .
    ภาพถ่ายโดย ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช ช่างภาพสำนักข่าวไทย อสมท

วันนี้ ( 21 ส.ค. 63 ) ที่ การชุมนุมกันที่บริเวณหน้าสภาองค์การลูกจ้างแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย ถ.ปู่เจ้าสมิงพราย…โพสต์โดย สำนักข่าวไทย เมื่อ วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม 2020

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร […]

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]