สมัชชาแรงงานนัดชุมนุม

วันนี้ ( 21ส.ค.63 ) ที่ การชุมนุมกันที่บริเวณหน้าสภาองค์การลูกจ้างแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย ถ.ปู่เจ้าสมิงพราย จ.สมุทรปราการ กลุ่มองค์กรแรงงาน ในนาม #สมัชชาแรงงานแห่งชาติ และเครือข่ายแรงงานต่อต้านการคุกคามประชาชน ร่วมกันจัดชุมนุมใหญ่เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเยาวชนคนหนุ่มสาวทั่วประเทศภายใต้การนำของเครือข่าย #เยาวชนปลดแอกและประชาชนปลดแอก


โดยผู้ชุมนุมอันประกอบไปด้วยสมาชิกจากสหภาพแรงงาน สมาพันธ์แรงงาน สภาองค์กรลูกจ้าง และองค์กรแรงงานกว่า 109 องค์กรในทุกสาขาอุตสาหกรรม ต่างรวมตัวกันแสดงจุดยืนผ่านการร่วมชุมนุมและการปราศรัยบนเวที โดยมีผู้แทนจากองค์กรแรงงานต่างๆผลัดกันขึ้นมาพูดคุยในประเด็นปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในด้านเศรษฐกิจปากท้อง

โดยประเด็นที่ผู้แทนองค์กรแรงงานต่างๆแสดงความคิดเห็นเป็นจุดร่วมเดียวกัน คือการเน้นย้ำความเกี่ยวข้องกันระหว่างปัญหาการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจ โดยชี้ให้เห็นว่าการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐบาลที่ไม่ได้เป็นผู้แทนเจตนารมณ์ของประชาชน และสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มทุนมากกว่าคนรากหญ้า ล้วนเป็นสิ่งที่นำมาสู่ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนในปัจจุบัน พร้อมทั้งเน้นย้ำความเรียกร้องต้องการของกลุ่มแรงงาน ในการสร้างรัฐสวัสดิการขึ้นในประเทศไทย


ชี้การจ้างงานแรงงานนอกระบบไม่เป็นธรรม-กฎหมายซ้ำเติมสกัดการรวมตัวต่อรอง ย้ำชัดจุดยืนหนุนเยาวชนแก้ รธน.เปิดทางโละระบบจ้างงานเยี่ยงทาส]

อาทิเช่น การปราศรัยของ ธนกิจ สาโสภา อดีตประธานสหภาพแรงงานฮอนด้าประเทศไทย และที่ปรึกษาสหภาพแรงงานฮอนด้าประเทศไทย ที่ปราศรัยถึงสภาพการจ้างงานของแรงงานในปัจจุบัน ที่ไม่ว่าจะเป็นแรงงานในระบบหรือนอกระบบ ต่างก็ประสบกับปัญหาจากระบบการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรมทั้งสิ้น โดยเฉพาะในส่วนของแรงงานนอกระบบ

เพราะวันนี้ตามกฎหมายแล้วแรงงานนอกระบบที่เป็นสัดส่วนใหญ่มากของแรงงานทั้งหมด ยังคงไม่มีสิทธิในการรวมตัว เช่นแรงงานที่เอางานไปทำที่บ้าน ไม่มีสิทธิที่จะเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน เกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยจากการทำงานก็ไม่มีใครรับผิดชอบ ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะกฎหมายไม่อนุญาตให้เรารวมตัวกัน คนงานเรียกร้องสิทธิการรวมตัว เจรจา ต่อรอง ให้เกิดเงื่อนไขตามอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศมานาน แต่ก็ไม่เคยได้รับการตอบสนอง


กฎหมายวันนี้มีแต่การเอื้อให้แรงงานไม่สามารถรวมตัวต่อรองได้ นี่จึงถือว่าแรงงานวันนี้ไม่มีเสรีภาพ ถ้าไม่กำจัดระบบการจ้างงานแบบนี้ออกไปจากประเทศไทยตั้งแต่วันนี้ ในอนาคตของลูกหลานเราที่กำลังเคลื่อนไหวกันอยู่ก็จะต้องมาทำงานในระบบการจ้างงานที่ไร้เสรีภาพและไม่มีความมั่นคงในชีวิต วันนี้แรงงานไม่มีอะไรค้ำประกันความมั่นคงในชีวิต คนรุ่นหลังก็กำลังจะจบออกมาตกงาน รัฐบาลไม่เคยมองเห็นปัญหาเหล่านี้

นายพันธกิจยังระบุทิ้งท้ายด้วย ว่าดังนั้นการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดให้กฎหมายการจ้างงานต้องรับรองสิทธิของแรงงานในการรวมตัวจะต้องเกิดขึ้น และถ้ารัฐบาลยังดื้อดึงไม่ปฏิรูป ไม่เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ และไม่หยุดคุกคามประชาชน เราแรงงานจะยกระดับการชุมนุมอย่างแน่นอน

[หมดเวลาสู้แค่ปากท้องเฉพาะหน้าในโรงงาน – แรงงานลั่น! ต้องสู้ทางการเมืองด้วยให้เกิดรัฐสวัสดิการแก่ประชาชนทุกคน]

ด้านเพชร โสภาบุตร ตัวแทนแรงงานจากกลุ่มยานยนต์ ระบุว่า วันนี้เรามาร่วมกันแสดงพลังร่วมกับลูกหลานของเราไปสู่เป้าหมาย การชุมนุมของเยาวชนมีหนึ่งความฝัน เรากรรมกรก็มีหนึ่งความฝันเช่นกัน นั่นคือเรื่องของรัฐสวัสดิการนั่นเอง

นายเพชรระบุว่าที่ผ่านมาเวลาเราเรียกร้องสวัสดิการอะไร เราได้แต่เรียกร้องจากนายจ้างของตัวเอง แต่วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะเรียกร้องจากรัฐให้เกิดรัฐสวัสดิการขึ้นมา ที่ผ่านมารัฐผลักแรงงานให้ไปสู้รบกับนายจ้างให้ได้มาซึ่งสวัสดิการด้านต้างๆ ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ลำบากกันต่อไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่รัฐควรจะผลักภาระมาที่ลูกจ้างและนายจ้าง แต่รัฐสวัสดิการต่างหาก คือสิ่งที่ควรเกิดขึ้น

ที่ผ่านมาตนถูกถามอยู่เสมอว่าจะเอาเงินที่ไหนมาทำรัฐสวัสดิการ คำตอบของตนก็คือก็ถ้าเราไม่ซื้อเรือดำน้ำ ไม่ซื้อเครื่องบิน VIP ทุกปีๆแบบที่เราทำทุกวันนี้ เราสามารถทำสวัสดิการให้ประชาชนได้หลายด้านแล้ว ภาษีประชาชนควรจะต้องนำมาจัดสรรเป็นสวัสดิการให้ประชาชนอย่างเท่าเทียม เสมอภาค ทั่วถึง

ที่ผ่านมาเรามักจะถูกวิจารณ์ว่าแรงงานอย่าไปพูดถึงเรื่องการเมืองเลย มุ่งเรื่องปากท้องในโรงงานของเราดีกว่า แต่วันนี้ตนขอบอกว่าเราหยุดพูดถึงการเมืองไม่ได้แล้ว การเรียกร้องที่ผ่านมาของแรงงานในโรงงาน สวัสดิการที่ได้มาเราก็ได้แค่คนกลุ่มหนึ่ง แต่มันไปไม่ถึงประชาชนทั่วประเทศ ดังนั้นเราจะไม่หยุดแค่เรื่องปากท้องของเราอีกต่อไป แต่เราต้องขับเคลื่อนในทางการเมือง ให้เกิดสวัสดิการไปถึงประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึง จากครรภ์มารดาจนถึงเชิงตะกอน

ทำไมสวัสดิการข้าราชการมีสวัสดิการดูแลตัวเองจนถึงวันเกษียณจนตาย แต่คนงานที่เป็นประชาชนธรรมดาต้องไปฝากความหวังที่เงินประกันสังคมที่ได้บ้างไม่ได้บ้าง วันนี้เรามองในฐานะคนไยคนหนึ่ง สวัสดิการจากรัฐต้องได้รับการจัดสรรอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่สวัสดิการแบบเลือกปฏิบัติอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

[“จุฑาทิพย์” หวิดถูกชายคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบอุ้มลงเวทีระหว่างการกล่าวปราศรัย แรงงานร่วมป้อง-ไล่พ้นที่ชุมนุม]

อย่างไรก็ดี ระหว่างการปราศรัยของจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ซึ่งเป็นตัวแทนเยาวชนที่มาร่วมเวทีพบปะกับผู้ใช้แรงงานในวันนี้ ปรากฏชายหัวเกรียนกลุ่มหนึ่งพยายามขึ้นไปบนเวทีเพื่อฉุดกระชากจุฑาทิพย์ลงจากเวที ทำให้กลุ่มแรงงานที่นั่งฟังกรปราศรัยอยู่ข้างล่างเวที ต่างแสดงความไม่พอใจ จนก่อให้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อย แต่สถานการณ์ก็คลี่คลายลงไปได้ เมื่อฝ่ายผู้ดูแลจัดการชุมนุม ได้เชิญตัวกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวออกจากพื้นที่ไป

จากนั้น ในช่วงท้ายของเวทีการชุมนุม บรรดาตัวแทนผู้นำแรงงานจากองค์กรต่างๆ ได้ร่วมกันขึ้นเวทีพร้อมอ่านแถลงการณ์สมัชชาแรงงานแห่งชาติ และเครือข่ายแรงงานต่อต้านการคุกคามประชาชน อันนี้เนื้อหาดังนี้:

“จากสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันได้มีความเหลื่อมล้ำที่ขยายออกอย่างต่อเนื่องภายใต้รัฐบาลตลอด 6 ปีที่ผ่านมา การละเมิดสิทธิแรงงานเกิดขึ้นในวงกว้าง สหภาพแรงงานถูกคุกคามจากรัฐบาลทั้งทางตรงและโดยอ้อม กลุ่มทุนขนาดใหญ่มีความสัมพันธ์แนบชิดกับรัฐบาล ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ใช้แรงงานซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศตกต่ำ ไม่สามารถต่อรองได้ และเมื่อเกิดวิกฤติโรคระบาดก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำยากจนที่ฝังรากลึกในประเทศนี้ ผู้คนนับล้านสูญเสียงาน กลุ่มนายจ้างจำนวนมากฉกฉวยช่องว่างทางกฎหมายในการเลิกจ้าง บังคับลาออกเปลี่ยนสภาพการจ้าง ผู้ใช้แรงงานจำนวนมหาศาลต้องใช้ชีวิตอย่างสิ้นหวัง รอคอยการถูกเลิกจ้าง ลดเงินเดือน อย่างไร้อำนาจการต่อรอง เพราะกลไกทางกฎหมายและรัฐสภาก็ไม่สามารถเป็นที่พึ่งได้ ประเด็นที่ก้าวหน้าที่นำเสนอโดยชนชั้นแรงงาน เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับแก้ไข หรือ พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติก็ถูกยื้อเวลา จนทำให้ขบวนการแรงงานทั้งผองรู้สึกสิ้นหวังในกลไกสืบทอดอำนาจของรัฐบาลที่ทำให้รัฐสภาไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง
ความเดือดร้อนแผ่ไปทุกหย่อมหญ้า กลุ่มคนรุ่นใหม่ นักเรียน นิสิต และนักศึกษาที่มองเห็นถึงความไม่เป็นธรรมในสังคมและความสิ้นหวังของประเทศนี้ได้ออกมาแสดงจุดยืนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเมืองสู่ความเป็นประชาธิปไตย กลับถูกคุกคามจากอำนาจรัฐ ถูกตั้งข้อหาอย่างไม่เป็นธรรม แม้ความต้องการของพวกเขาจะเป็นเพียงแค่การปรารถนาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเมืองที่เป็นประชาธิปไตย และสังคมที่เท่าเทียมอันเป็นข้อเสนอเดียวกันกับขบวนการแรงงานทุกยุคทุกสมัย ที่ผู้นำแรงงานจำนวนมากนำชีวิตเข้าเสี่ยงภัย ถูกสังหารและอุ้มหายมาตลอดหลายสิบปี การคุกคามประชาชน คือการทำลายประชาธิปไตย ทำลายสิทธิในการส่งเสียง คือการทำลายขบวนการแรงงานด้วยเช่นเดียวกัน สมัชชาแรงงานแห่งชาติจึงขอประกาศแถลงข้อเรียกร้อง สี่ประการดังนี้

  1. หยุดคุกคามประชาชนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงโดยใช้กฎหมายที่ไม่มีความชัดเจน หรือทางอ้อมในการกดดันให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจแทรกแซงการเคลื่อนไหว หรือการข่มขู่ประชาชนในรูปแบบต่างๆ
  2. แก้ไขรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อระบอบอำนาจนิยม ยกเลิกการรองรับคำสั่งประกาศและการกระทำของ คสช. และหัวหน้า คสช. เพื่อให้ผู้คนสามารถโต้แย้งรัฐธรรมนูญได้ และยกเลิกสมาชิกวุฒิสภาจากการแต่งตั้งที่เป็นกลไกสำคัญต่อการสืบทอดอำนาจ พร้อมเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ที่ต้องมีคุณสมบัติสามประการ ดังต่อไปนี้ 1) อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริงพร้อมทั้งต้องมีหลักประกันด้านสิทธิเสรีภาพทั้งในความคิดและการแสดงออก 2) ต้องมีหลักประกันด้านความเสมอภาค และ 3) ต้องมีหลักประกันด้านคุณภาพชีวิต
  3. ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจให้ประชาชน
  4. เดินหน้าสู่รัฐสวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพื่อรับประกันเสรีภาพในชีวิต และสร้างสังคมประชาธิปไตย”
    .
    ภาพถ่ายโดย ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช ช่างภาพสำนักข่าวไทย อสมท

วันนี้ ( 21 ส.ค. 63 ) ที่ การชุมนุมกันที่บริเวณหน้าสภาองค์การลูกจ้างแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย ถ.ปู่เจ้าสมิงพราย…โพสต์โดย สำนักข่าวไทย เมื่อ วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม 2020

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]