6 ธ.ค.67 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. รัฐบาลเปิดให้ประชาชนสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ประชาชนให้ความสนใจเดินทางเข้ามาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากทั่วประเทศ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมดอกไม้สักการะและโปสการ์ดพร้อมบทสวดบูชาพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มอบให้ประชาชนที่เดินทางมาสักการะตลอดทุกวันที่ประดิษฐาน
นอกจากนี้ ภายในท้องสนามหลวง มีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และมีการจัดกิจกรรมทุกวัน ได้แก่ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ช่วงเช้า เวลา 10.00-12.00 น. และช่วงเย็น เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป และพิธีเจริญจิตตภาวนา ในทุกวันพระมีพิธีแสดงธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ (ในภาคเช้า)
โอกาสสำคัญในระยะเวลาการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ณ ท้องสนามหลวง จะมีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 31 ธันวาคม 2567 กิจกรรมทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2568 กิจกรรมวันตรุษจีน (วันขึ้นปีใหม่จีน) วันที่ 29 มกราคม 2568 และกิจกรรมวันมาฆบูชา วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568
ในการนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07.00-20.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และจะอัญเชิญกลับในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568
ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช