อธิบดีกรมการข้าวเปิดใจครั้งแรก หลังแจ้งความรวบ “ศรีสุวรรณ” กับพวก ชี้แค้นถูกตบทรัพย์ ถาม “ศรี” เป็นใครถึงไม่หยุด“ธรรมนัส” โผล่ให้กำลังใจ ระบุ ผลสอบข้อเท็จจริงตามที่ถูกร้องก่อนหน้านี้ ไม่พบความผิด โดยงบ 1.5 หมื่นล้าน โอนให้กระทรวงพาณิชย์เป็นเงินช่วยเหลือชาวนา “โครงการไร่ละพัน”
นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวแถลงที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดใจครั้งแรก หลังแจ้งตำรวจ ปปป. ซ้อนแผนบุกจับนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินและพวกรวม 3 คนที่รีดไถเงินเพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนโครงการกรมการข้าวโดยอ้างว่า ส่อพิรุธทุจริต
นายณัฐกิตติ์กล่าวว่า ตนกับนางธัญญรัตน์ ไชยศิริคุณากร ภรรยารวบรวมข้อมูลมานานพอสมควรก่อนไปแจ้งความต่อ ตำรวจ ปปป. โดยเมื่อได้รับการติดต่อจากกลุ่มคนเหล่านี้ ถูกข่มขู่รีดทรัพย์ จนกระทั่งในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ตัดสินใจ ไปที่บ้านนายศรีสุวรรณด้วยความคับแค้นใจว่า จะร้องเรียนอะไร ในเมื่อผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่มีบัตรสนเทห์ ไม่พบความผิด คราวนั้นได้ชักชวน “พี่หมู” ที่ปรึกษาร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปด้วยเพื่อเป็นพยานเนื่องจากเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือ
ทั้งนี้ “พี่หมู” ไม่เคยแนะนำเรื่องจ่ายเงินให้ นายศรีสุวรรณ เพื่อจบเรื่อง โดยในวันที่ 28 พฤศจิกายน ซึ่งไปที่บ้านนายศรีสุวรรณก็ไม่มีการจ่ายเงิน แต่ไปเพื่อตัดรำคาญ เมื่อแจ้งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่า ไม่มีความผิด นายศรีสุวรรณไม่ได้ตอบอะไร จากนั้นกลุ่มของนายศรีสุวรรณยังไม่หยุดจึงตัดสินใจกับภรรยาที่จะเก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดี ยืนยันว่า ทีมงานของ ร้อยเอกธรรมนัส ไม่ทราบเรื่องนี้ ไม่ว่าจะมีใครพูดกล่าวอ้างอย่างไรก็ตาม ขอให้ฟังที่ตนพูดคนเดียวเท่านั้น
จากนั้นในวันที่ 20 ธันวาคม 2566 นายศรีสุวรรณแถลงข่าวที่รัฐสภาเกี่ยวกับการร้องเรียนการจัดซื้อเครื่องบินของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยทิ้งท้ายว่าจะร้องอธิบดีกรมการข้าว วันต่อมา นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิกและเลขาส่วนตัว ไปพบที่กรมการข้าว นายยศวริศ แนะนำตัวเองด้วยตำแหน่งตามที่ปรากฏข่าว
นายณัฐกิตติ์กล่าวว่า การติดต่อกับกลุ่มของนายศรีสุวรรณเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ได้มอบให้ภรรยาเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากตนเองเป็นข้าราชการ ต้องทำงาน โดยการเจรจาของภรรยาเพื่อต่อรองและการนำเงินไปมอบให้นายศรีสุวรรณ ทุกครั้งนั้น เป็นการล่อซื้อ ส่วนที่ต้องล่อซื้อหลายครั้งเพราะครั้งเดียวคงจับใครไม่ได้ ต้องมีหลักฐานชัดเจนแน่นหนา โดยหารือกับตำรวจปปป. แล้ว
ทั้งนี้ไม่ทราบว่า เหตุใดจึงตกเป็นเป้า ส่วนเรื่องที่มีผู้กล่าวว่า นักการเมือง อดีตผู้บริหารกระทรวงเกษตร “ป” สั่งให้เงียบ อธิบดีกรมการข้าวปฏิเสธไม่ทราบ พร้อมระบุว่า ไม่ทราบเรื่องอะไรทั้งนั้น หลังเกิดเหตุการณ์ข่มขู่รีดไถ ใครโทรหาก็ไม่ได้รับสาย ข้อมูลบางส่วนไม่สามารถพูดได้เนื่องจากอยู่ในสำนวนคดี
ก่อนที่กลุ่มของนายศรีสุวรรณจะติดต่อมา มีบัตรสนเทห์ส่งมาร้องเรียนโครงการของกรมการข้าว แต่จ่าหน้าซองผิด แทนที่จะส่งถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กลับจ่าหน้าเป็นชื่อตน จึงเริ่มทราบความผิดปกติและแจ้งความที่ สภ. แก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมาไว้แล้ว
ในบัตรสนเท่ห์ และ เรื่องที่นายศรีสุวรรณร้องระบุถึง งบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตต้านการเกษตร สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 15,255 ล้านบาท ที่อ้างว่า มีการทุจริต ทั้งที่จริงแล้ว กรมการข้าวไม่ได้บริหารงบประมาณส่วนนี้เลย เนื่องจากต่อมา ครม. เปลี่ยนแปลงเป็นการใช้งบประมาณไปเป็นโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 หรือ “โครงการไร่ละพัน” ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดยให้กรมการข้าวสั่งจ่ายเช็ค 15,255 ล้านบาทเพื่อจ่ายจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ปรากฏว่า ไม่ผิดเพราะไม่ได้บริหารงบประมาณส่วนนี้เลยและบอกนายศรีสุวรรณไปแล้วด้วย
พร้อมยืนยันตัวเองบริสุทธิ์ จำเป็นต้องออกมาปกป้อง ศักดิ์ศรีของข้าราชการ และต้องการให้เรื่องนี้กลายเป็นบรรทัดฐานของสังคม ต้องการให้เกิดความชัดเจน
ในระหว่างการแถลงข่าว ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้ามาให้กำลังใจอธิบดีกรมการข้าว โดยระบุว่า พูดคุยกันอยู่เป็นประจำ ทั้งอธิบดีและคุณนายติ๋ม ไม่ต้องพูดอะไรมาก
ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช