นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าให้ข้อมูลคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ กรณีขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน-ไก่เถื่อน
นายอัจฉริยะ ระบุว่า เรื่องนี้ตนเองได้นำข้อมูลให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 จนขยายออกไปมากกว่า 30 คดี คดีหมูเถื่อนจะไม่เกิดขึ้นเลย หากกรมศุลกากรไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน ถ้ากรมศุลกากรไม่ยอมปล่อยตู้คอนเทนเนอร์ กรมปศุสัตว์และกรมประมงจะไม่สามารถดำเนินการต่อได้ รวมถึงบริษัทและนักธุรกิจต่างๆ ก็ไม่สามารถฉ้อฉลได้ โดยเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่เข้ามาจะต้องมีการแจ้งรายละเอียดของสินค้าว่าคืออะไร เพื่อให้เข้าไปอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ซึ่งเอกสารเหล่านี้จะไม่มีการแจ้งเท็จ ดังนั้น ที่กรมศุลกากรบอกว่าไม่รู้ ก็คงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งกระบวนการที่เกิดการทุจริต เกิดจากบุคคลในหน่วยงานเข้าไปแก้ไขข้อมูล เปลี่ยนแปลงสินค้า
ต่อมา นายอัจฉริยะ ได้นำแผนผังเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับหลายบุคคลขึ้นมาแสดงในที่ประชุม พร้อมเปิดเผยถึงกลโกง การเปลี่ยนแปลงประเภทสินค้าก่อนเข้าสู่การจำหน่าย โดยมีการเปลี่ยนจากเนื้อหมู เป็นหัวปลาแซลมอน ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับอนุญาตจากกรมประมง ทำให้ไม่ต้องเสียภาษี
ด้านนายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ระบุขอให้สบายใจว่า เราไม่ใช่ประชุมเสร็จแล้วก็จบ แต่จะมีการติดตามลงรายละเอียด เพื่อค้นหาความจริง หากข้อมูลมีเพียงพอ
ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช