fbpx

กลุ่มพันธมิตรฯ คดีกบฏบุกยึดสนามบินดอนเมือง ปี 2551

ศาลยกฟ้อง กลุ่มพันธมิตรฯ คดีกบฏบุกยึดสนามบินดอนเมือง เมื่อปี 2551 แต่ลงโทษปรับ 13 แกนนำ 20,000 บาท ฐานบุกรุก-ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน


ที่ศาลอาญา ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับพวกรวม 32 คน ร่วมกันเป็นจำเลย ในความผิด ฐานเป็นกบฏ ก่อการร้ายฯ จากกรณีปิดสนามบินดอนเมือง

ตามฟ้อง โจทก์บรรยายสรุปว่าเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2551 พวกจำเลยได้ร่วมกันโฆษณาชักชวนให้ประชาชนมาร่วมกันชุมนุมใหญ่ โดยกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ และปิดล้อมอาคารวีไอพี ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งอยู่ในความครอบครองของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้เสียหายที่ 1 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ผู้เสียหายที่ 2 และทำลายทรัพย์สินเสียหายเป็นเงิน 627,080 บาท แล้วนำจานรับสัญญาณของพวกจำเลยไปติดตั้งใกล้เครื่องรับสัญญาณเรดาร์ของบริษัท วิทยุการบินฯ ผู้เสียหายที่ 3 และทำการปิดกั้นสะพานกลับรถของกรมทางหลวง ผู้เสียหายที่ 4 ตรวจค้นตัวเจ้าหน้าที่ของบริษัท การบินไทยฯ ผู้เสียหายที่ 5 ปิดกั้นการบริการสื่อสารบริษัท ไปรษณีย์ไทยฯ ผู้เสียหายที่ 6 และร่วมกันขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้ายบุคคลและทรัพย์สิน เพื่อกดดันให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นลาออก เหตุเกิดที่แขวงและเขตดอนเมือง กทม. โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามความผิดด้วย พวกจำเลยให้การปฏิเสธ


และเมื่อถึงประมาณ 11.00 น. ศาลเริ่มอ่านคำพิพากษา มี จำเลย 2 คน คือ พล.ต.จำลอง และนายเทิดภูมิ ป่วยรักษาตัวอยู่ที่ รพ. ศาลประสานให้จำเลยทั้ง 2 ฟังการอ่านคำพิพากษาผ่านทาง วีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ส่วนจำเลยที่เหลือมาครบ โดยศาลใช้เวลาอ่านประมาณ 1 ชั่วโมง โดยพิเคราะห์แล้ว พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1-5 จำเลย 7-13 และ จำเลยที่ 31 กระทำความผิดฐานบุกรุก และฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินฯ2548 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทหนักสุด คือความผิดตาม พรก.ฉุกเฉินฯ2548 พิพากษาให้ลงโทษปรับ คนละ 20,000 บาท ส่วน ข้อหาอื่นๆ พยาน และหลักฐานของโจทก์ ไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดจึงยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่เหลือ ศาลได้ยกฟ้องทั้งหมด

ซึ่งการชุมนุมในครั้งนั้นแม้จะเป็นพื้นที่สนามบินดอนเมืองแต่ เป็นการชุมนุมในพื้นที่สาธารณะไม่เกี่ยวข้องกับการบินที่ไม่กระทบกับประชาชน และไม่มีการทำร้ายผู้โดยสารรวมถึงพนักงาน รวมถึง การชุมนุมดังกล่าวไม่มีการพกอาวุธและก่อจราจลวุ่นวาย ถึงแม้จะเกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติของการชุมนุม ศาลจึงมองว่าการชุมนุมโดยรวมทั้งหมด เป็นไปด้วยความสงบปราศจากอาวุธอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ จึงไม่เป็นความผิดในฐานก่อการร้าย รวมถึงข้อหาอื่นๆยกเว้นฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน และ ข้อหา บุกรุก ส่วนข้อหาก่อการร้ายที่ยกฟ้องนั้นเนื่องจากการนั้นไม่มีการใช้อาวุธทำลาย ระบบคมนาคมขนส่งหรืออากาศยาน จึงถือว่าไม่เข้าข่ายความผิด

ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตั้ง กก.สอบปมโรงพักมีบริการเหมือนห้องพักโรงแรม

สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ปมโรงพักให้ผู้ต้องขังใช้โทรศัพท์-WiFi เพียงจ่ายให้ตำรวจ 100 บาท ชาร์จแบตชั่วโมงละ 30 บาท พร้อมบริการอื่นเหมือนโรงแรม

“เสรีพิศุทธ์” ถอนตัวร่วมรัฐบาลเพื่อไทย รับน้อยใจ “ทักษิณ” ไม่เห็นหัว

“เสรีพิศุทธ์” ทิ้งบอมบ์ แถลงถอนตัวร่วมรัฐบาลเพื่อไทย รับน้อยใจ “ทักษิณ” ไม่เห็นหัว ทั้งที่รับปากตอบแทนบุญคุณเป็นพันครั้ง ประกาศเปิดศึกงัดหลักฐานแชทไลน์มัดตัว ยันเดินทางไปพบที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ 2 ครั้ง พร้อมให้ข้อมูล ป.ป.ช. เอาผิดกระบวนการอุ้ม “แม้ว”

ข่าวแนะนำ

ผลกระทบพายุยางิ

ทิศทางพายุ “ยางิ” กับผลกระทบไทย

หลังจากพายุ “ยางิ” ที่คาดว่าจะขึ้นฝั่งเวียดนามที่เมืองไฮฟองในวันนี้ ส่งผลกระทบรุนแรง มีทั้งสภาพฝนตกหนักลมแรง ส่วนจะเกิดผลกระทบกับไทยอย่างไรบ้าง พูดคุยกับว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

เตือนเตรียมรับน้ำล้นตลิ่ง

สทนช.เตือนเตรียมรับมือแม่น้ำโขงล้นตลิ่ง 7-12 ก.ย.นี้

สทนช. เตือนน้ำในแม่น้ำโขงอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ช่วง 7-12 ก.ย.นี้ เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน และ สปป ลาว ขอให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ

ประวัติศาสตร์ “สายสุนีย์” คว้า 3 ทองฟันดาบพาราลิมปิก 2024

“สายสุนีย์ จ๊ะนะ” สร้างประวัติศาสตร์กระหึ่มโลก! นักกีฬาฟันดาบวีลแชร์หญิงคนแรก คว้า 3 เหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ในครั้งเดียว

นายกฯ นำถกนัดพิเศษ พร้อมฝาก ครม. 4 เรื่อง

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.นัดพิเศษ ขอทุกคนน้อมนำพระบรมราโชวาทเป็นแนวทางการทำงานอย่างมุ่งมั่น กำชับ รมต.เตรียมพร้อมชี้แจงตอบคำถาม ขยายผลนโยบายของรัฐบาล เตรียมพิจารณาเสนอชื่อแต่งตั้งปลัด ย้ำ สานต่อนโยบายรัฐบาล “เศรษฐา”